นักแสดงและทีมงาน: ใครอยู่เบื้องหลังความมหัศจรรย์นี้?
ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ได้นักแสดงและทีมงานมากฝีมือมาร่วมสร้างสรรค์ความงดงามและความไพเราะ:
อารีอาน่า เดโบส (Ariana DeBose) ให้เสียงพากย์ อาช่า (Asha)
คริส ไพน์ (Chris Pine) ให้เสียงพากย์ กษัตริย์แม็กนิฟิโก้ (King Magnifico)
อลัน ทูดิก (Alan Tudyk) ให้เสียงพากย์ วาเลนติโน่ (Valentino)
กำกับการแสดงโดย คริส บัค (Chris Buck) และ ฟอว์น วีนราซัน (Fawn Veerasunthorn) ผู้กำกับมากฝีมือจาก Disney ที่เคยสร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมมาแล้วหลายเรื่อง นอกจากนี้ยังได้ทีมงานคุณภาพที่ช่วยออกแบบภาพและแอนิเมชั่นที่ผสมผสานความคลาสสิกของ Disney เข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว และที่สำคัญคือบทเพลงประกอบที่ไพเราะและมีความหมายลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของภาพยนตร์
โปสเตอร์หนัง
รีวิวจากนักวิจารณ์: ความเห็นจากค่ายดัง
Wish (2023) พรมหัศจรรย์ ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากในฐานะภาพยนตร์เฉลิมฉลอง 100 ปีของ Disney โดยได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลาย คะแนนและรีวิวจากแพลตฟอร์มชื่อดังมีดังนี้ครับ:
IMDb: ได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5.8/10 โดยผู้ชมบางส่วนชื่นชมในงานภาพที่สวยงาม เพลงประกอบที่ไพเราะ และข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับความฝันและความปรารถนา อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร และตัวละครยังไม่ลึกซึ้งพอที่จะสร้างความประทับใจได้อย่างเต็มที่
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์ (Tomatometer) อยู่ที่ประมาณ 48% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่ได้รับคะแนนจากผู้ชม (Audience Score) อยู่ที่ประมาณ 80% แสดงให้เห็นว่าแม้คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์จะยังไม่สูงนัก แต่ภาพยนตร์ก็ยังสามารถเข้าถึงใจผู้ชมทั่วไปได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบอนิเมชั่นสไตล์ Disney
โดยรวมแล้ว Wish (2023) พรมหัศจรรย์ เป็นภาพยนตร์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของ Disney ไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งงานภาพที่สวยงาม เพลงที่ติดหู และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการเชื่อมั่นในตัวเองและพลังของความปรารถนา แม้จะมีข้อจำกัดในด้านบทภาพยนตร์บ้าง แต่ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างความอบอุ่นหัวใจและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้
รีวิวหนัง
mvdb2004
⭐ 5/10
ฉันมีความหวังกับหนังเรื่องนี้มาก หลังจากเรื่อง Strange World ที่รายได้ถล่มทลาย ซึ่งดูดังและไม่น่าดึงดูด และที่สำคัญที่สุดคือไม่ใช่ดิสนีย์เลย ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะกลับมาอีกครั้ง หนังยังสัญญาว่าจะนำวายร้ายตัวฉกาจของดิสนีย์กลับมาด้วย ซึ่งเป็นแนวคิดที่สตูดิโอละทิ้งไปอย่างน่าประหลาดเกือบทศวรรษ (โดยเลือกที่จะให้ ‘วายร้ายที่พลิกผัน’ หรือไม่มีวายร้ายเลยแทน) น่าเศร้าที่การกลับมาของวายร้ายคือประโยชน์เดียวของหนังเรื่องนี้ สำหรับสิ่งที่เป็นอยู่ มันไม่ได้แย่ในตัวเอง แต่ทุกอย่างก็ลืมได้หมด ตั้งแต่ดนตรี ไปจนถึงแอนิเมชั่นและตัวละคร ฉันคิดว่าอย่างหลังคือส่วนที่มีปัญหาที่สุดใน ‘Wish’ แอชาเป็นตัวเอกที่ไม่มีความคิดริเริ่มและไม่มีแรงบันดาลใจมากที่สุดในภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่องใดๆ แม้แต่ตัวเอกที่น่ารำคาญในภาพยนตร์ของดิสนีย์ก็ยังทิ้งความประทับใจไว้ได้ เช่น วัวใน ‘Home On The Range’ ในทางกลับกัน Asha ไม่เพียงแต่ดูเหมือนฝาแฝดของนางเอกยุคหลังอย่าง Anna, Mirabel และ Rapunzel (ซึ่งเธอมีลักษณะคล้ายกับตัวหลังมากที่สุด) เท่านั้น แต่ยังแสดงพฤติกรรมเหมือนพวกเขาอีกด้วย เธอคือ ‘เด็กสาววัยรุ่นที่แปลกประหลาดและอึดอัดและประหม่า’ เหมือนเดิมทุกประการโดยไม่มีลักษณะพิเศษใดๆ ที่จะทำให้เธอเป็นตัวละครที่จดจำได้
การเชียร์นางเอกที่ว่างเปล่าและตื้นเขินอย่างนั้นเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป้าหมายของตัวร้ายก็ว่างเปล่าและตื้นเขินพอๆ กัน เขาต้องการอำนาจเหนือผู้คนเพราะ… เขาต้องการอำนาจเหนือผู้คนงั้นหรือ เรื่องราวยังขาดตกบกพร่องอย่างมาก คุณคงคาดหวังอะไรมากกว่านี้จากการออกฉายของดิสนีย์ในปีครบรอบ 100 ปี แต่โดยพื้นฐานแล้ว มันก็สรุปได้เป็นบางสิ่งที่ธรรมดาอย่าง ‘เขาขอพรได้และเธอต้องการคืนพรเหล่านั้นให้’ มันไม่ใช่ข้อเสนอที่น่าตื่นเต้นนักและไม่มีอะไรมากที่คุณทำได้กับเรื่องราวที่เรียบง่ายและเรียบง่ายเช่นนี้ ซึ่งฉันเดาว่านั่นคือที่มาของเนื้อหาทั้งหมด และพระเจ้า มันแย่มาก
ไม่มีบทพูดของแพะตัวใดเลยที่ตลก เห็นได้ชัดว่าแพะตั้งใจให้เป็นตัวประกอบที่ตลก แต่แพะตัวนั้นไม่ได้ทำให้ฉันหัวเราะแม้แต่ครั้งเดียว และตัวละครประกอบตัวอื่นๆ ก็เช่นกัน ซึ่งดูจืดชืดกว่าอาชาเสียอีก มีใครจำเรื่องตลกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำให้พวกเขาอมยิ้มได้บ้างหรือไม่ ฉันคิดว่าอารมณ์ขันนี้มุ่งเป้าไปที่เด็กๆ เป็นหลัก แต่ฉันคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่เด็กๆ แม้แต่แอนิเมชั่นก็ดูเหมือนการ์ตูนเช้าวันเสาร์ มันมีศักยภาพมาก การผสมผสานระหว่าง 2D กับ 3D ฉันจะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าอย่างน้อยก็ดูแตกต่างจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์ของดิสนีย์เรื่องอื่นๆ วิธีการที่ภาพยนตร์วาดด้วยมือดูแตกต่างออกไป (ลองเปรียบเทียบ ‘Atlantis’ กับ ‘Lilo & Stitch’ ดู)
ส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเพลง เพลงส่วนใหญ่ไม่มีสาระ เนื้อเพลงอ่อนแอจนน่าหัวเราะ และไม่สามารถอธิบายจุดสำคัญของเนื้อเรื่องได้ (ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในละครเพลงของดิสนีย์) ฉันพบว่าเพลงเหล่านี้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ไม่น่าฟังและน่าจดจำ และด้วยเพลงประกอบของตัวร้าย ฉันถึงกับหวังว่ามันจะจบลงเร็วๆ นี้ด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเพลงนั้นถึงได้แย่ขนาดนี้ นอกจากนี้ ฉันยังไม่ชอบเพลงป๊อปสมัยใหม่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งดูขัดหูเมื่อนำมาใช้ในเทพนิยาย มันทำให้คุณคิดถึงยุคฟื้นฟูของดิสนีย์
แนะนำภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบความมหัศจรรย์และข้อคิดดีๆ จาก Wish (2023) พรมหัศจรรย์ เราขอแนะนำภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวคล้ายกันที่คุณอาจจะชื่นชอบ:
Frozen (2013) : ภาพยนตร์อนิเมชั่นมิวสิคัลสุดโด่งดังจาก Disney ที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของสองพี่น้องเจ้าหญิงกับการปลดปล่อยพลังที่ซ่อนอยู่
Encanto (2021) : ภาพยนตร์อนิเมชั่นจาก Disney ที่นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวมหัศจรรย์ในโคลอมเบีย และการค้นพบพลังที่แท้จริงของตัวเอง
Moana (2016) : เรื่องราวการผจญภัยของเด็กสาวชาวโพลินีเซียกับการออกเดินทางเพื่อช่วยผู้คนและค้นหาตัวตนที่แท้จริง
หวังว่ารีวิวนี้จะทำให้คุณอยากสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของ Wish (2023) พรมหัศจรรย์ มากขึ้นนะครับ! ถ้าคุณได้ดูแล้ว อย่าลืมมาแชร์ความรู้สึกและพูดคุยกันที่ Movie24HD.net
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ภาพยนตร์ Wish (2023) พรมหัศจรรย์ เหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวผจญภัย มิวสิคัล และเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจครับ
Q: เพลงประกอบในเรื่องไพเราะไหม?
A: เพลงประกอบในเรื่องนี้แต่งโดย Julia Michaels และ Benjamin Rice ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงมากฝีมือ เพลงมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Disney และมีท่วงทำนองที่ติดหู หลายเพลงมีความหมายดีๆ และสร้างแรงบันดาลใจครับ
Q: สามารถรับชม Wish (2023) พรมหัศจรรย์ ได้จากช่องทางไหนบ้าง?
A: สำหรับช่องทางการรับชม สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Movie24HD.net หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ให้บริการภาพยนตร์