อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ประวัติ Ray Wise (เรย์ ไวซ์): ตำนาน Leland Palmer แห่ง Twin Peaks สุดยอดนักแสดงผู้ขโมยซีน
ในโลกของฮอลลีวู้ด มีนักแสดงอยู่กลุ่มหนึ่งที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเป็นนักแสดงนำบนโปสเตอร์เสมอไป แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัวบนจอ พวกเขากลับสามารถขโมยซีนและสร้างความประทับใจได้อย่างน่าทึ่ง และ Ray Wise (เรย์ ไวซ์) คือหนึ่งในปรมาจารย์แห่งนักแสดงกลุ่มนั้นอย่างแท้จริง เขาคือ ลีแลนด์ พาล์มเมอร์ พ่อผู้ร้าวรานจากซีรีส์สุดคัลท์ Twin Peaks , คือลูกสมุนสุดเหี้ยมใน RoboCop , และคือ “ท่านซาตาน” สุดขี้เล่นในซีรีส์ Reaper วันนี้ Movie24HD จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเส้นทางอาชีพอันยาวนานและน่าทึ่งของนักแสดงคุณภาพคนนี้กัน
จากเวทีละครสู่จอภาพยนตร์
เรย์มอนด์ เฮอร์เบิร์ต ไวซ์ เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1947 ที่เมืองแอครอน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นเส้นทางสายการแสดงจากละครเวที และค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์จนได้มีโอกาสชิมลางงานแสดงทางโทรทัศน์และภาพยนตร์ในช่วงทศวรรษที่ 70s และ 80s
หนึ่งในบทบาทแรกๆ ที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำในหมู่คอหนังแอ็คชั่นคือบท ลีออน แนช หนึ่งในสมาชิกระดับหัวกระทิของแก๊งอาชญากรในภาพยนตร์ไซไฟสุดคลาสสิกเรื่อง RoboCop (1987) ซึ่งเป็นการโชว์ให้เห็นถึงแววตาอันดุดันและรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
บทบาทแห่งตำนาน: ลีแลนด์ พาล์มเมอร์ ใน Twin Peaks
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ชื่อของ เรย์ ไวซ์ กลายเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ คือการได้รับเลือกจากผู้กำกับสุดแนวอย่าง เดวิด ลินช์ ให้มารับบท “ลีแลนด์ พาล์มเมอร์” ในซีรีส์ปริศนาเหนือจริงเรื่อง Twin Peaks (1990-1991)
ไวซ์ได้ถ่ายทอดบทบาทพ่อผู้สูญเสียลูกสาว “ลอร่า พาล์มเมอร์” ได้อย่างแตกสลายและน่าขนลุก การแสดงของเขาไล่ระดับตั้งแต่ความเศร้าโศกเสียใจไปจนถึงความบ้าคลั่งอันน่าสะพรึงกลัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะฉากที่เขาร้องเพลงและเต้นรำไปพร้อมกับน้ำตา กลายเป็นหนึ่งในฉากที่ทรงพลังและเป็นที่จดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ซีรีส์ และทำให้บทบาทนี้กลายเป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา
เจ้าพ่อหนังเกรดบีและราชาแห่งหนังสยองขวัญ
หลังจากความสำเร็จของ Twin Peaks เขาก็ได้กลายเป็นนักแสดงที่แฟนหนังสยองขวัญและหนังทุนต่ำ (B-Movie) รักมากที่สุดคนหนึ่ง ด้วยความสามารถในการรับบทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระเอก, ตัวร้าย, หรือตัวละครเพี้ยนๆ ผลงานเด่นในสายนี้ของเขาคือ Jeepers Creepers 2 (2003) ที่เขารับบทเป็นชาวไร่ผู้ตามล่าปีศาจเพื่อล้างแค้นให้ลูกชาย
นักแสดงสมทบจอมขโมยซีนบนจอแก้ว
เรย์ ไวซ์ คือหนึ่งในนักแสดงที่มีผลงานทางโทรทัศน์ชุกที่สุดในวงการ เขาปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ดังนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น 24 , Mad Men , How I Met Your Mother และบทบาทที่แฟนๆ ชื่นชอบมากที่สุดอีกบทหนึ่งคือการรับบทเป็น “ซาตาน” ในซีรีส์คอมเมดี้เรื่อง Reaper (2007-2009) ซึ่งเขาตีความท่านเจ้าแห่งนรกออกมาได้ทั้งน่าเกรงขามและมีเสน่ห์ขี้เล่นในเวลาเดียวกัน
เสียงพากย์อันทรงพลัง
นอกจากงานแสดงแล้ว เขายังมีผลงานการพากย์เสียงที่น่าจดจำ โดยเฉพาะการให้เสียงเป็น ผู้บัญชาการเจมส์ กอร์ดอน (Commissioner James Gordon) ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Batman: The Killing Joke (2016)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Ray Wise
Q1: ผลงานที่โด่งดังที่สุดของ Ray Wise คือเรื่องอะไร?
A: บทบาท “ลีแลนด์ พาล์มเมอร์” ในซีรีส์เรื่อง Twin Peaks คือผลงานที่โด่งดัง เป็นที่จดจำ และได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์มากที่สุดในอาชีพของเขา
Q2: ทำไมเขาถึงได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งหนังเกรดบี”?
A: เพราะเขามีผลงานในภาพยนตร์สยองขวัญและหนังอินดี้ทุนต่ำจำนวนมาก และเขามักจะให้การแสดงที่ยอดเยี่ยมเกินตัวหนังเสมอ ทำให้เขากลายเป็นที่รักและเคารพของกลุ่มแฟนคลับหนังแนวนี้
Q3: เขายังมีผลงานการแสดงอยู่หรือไม่?
A: ใช่ เขายังคงเป็นนักแสดงที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งในภาพยนตร์และซีรีส์ ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงอาวุโสที่ยังคงทำงานอย่างสม่ำเสมอที่สุดคนหนึ่ง
สรุป
เรย์ ไวซ์ คือบทพิสูจน์ของนักแสดงอาชีพที่แท้จริง เขาคือศิลปินผู้รักในการแสดงและพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับทุกบทบาทที่ได้รับ ไม่ว่าบทนั้นจะเล็กหรือใหญ่ จะเป็นพระเอกหรือตัวร้าย เขาก็สามารถสร้างมิติและความน่าจดจำให้กับตัวละครนั้นได้เสมอ และสำหรับแฟนหนังทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Twin Peaks แล้ว ใบหน้าและเสียงหัวเราะของ “ลีแลนด์ พาล์มเมอร์” จะยังคงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน
ผลงานภาพยนตร์
Dead End (2003)
ในคืนคริสต์มาสอีฟ แฟรงก์ แฮริงตันตัดสินใจขับรถลัดเลาะไปตามสถานที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง เนื่องจากเขารู้สึก “เบื่อ” กับเส้นทางเดิมๆ ในรถมีลอร่า ภรรยาของเขา ริชาร์ด ลูกชายของเขา แมเรียน ลูกสาวของเขา และแบรด แฟนหนุ่มของเธอ หลังจากเกือบชนกับรถคันอื่น ผู้หญิงชุดขาวปรากฏตัวที่หน้าต่างรถของแฟรงก์ พร้อมกับอุ้มทารกไว้ แมเรียนเสนอให้พวกเขาขับรถพาผู้หญิงคนนั้นไปที่กระท่อมใกล้ๆ เนื่องจากรถเต็ม เธอจึงอาสาเดินตามพวกเขาไป เมื่อมาถึงกระท่อม แฟรงก์และลอร่าจึงไปสำรวจที่นั่น และริชาร์ดก็หายตัวเข้าไปในป่า ทิ้งแบรดไว้กับผู้หญิงคนนั้นเพียงลำพัง เขาถามว่าเด็กที่เธออุ้มอยู่หายใจได้อย่างไรในขณะที่หน้าของเด็กถูกคลุมด้วยผ้าห่ม แมเรียนตอบว่าเด็กตายแล้ว และแสดงศพให้เขาดู เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของเขาทำให้ริชาร์ดต้องกลับไปที่รถ แต่แบรดและผู้หญิงคนนั้นหายไปไหนหมด เมื่อเธอเดินไปที่กระท่อม แมเรียนเห็นรถรับศพขับผ่านมา และแบรดกรีดร้องขอความช่วยเหลืออยู่ด้านหลัง เมื่อเธอไปถึงกระท่อม เธอก็ให้พวกเขาไล่ตามรถรับศพ
Reaper
แซม โอลิเวอร์ ( เบร็ต แฮร์ริสัน ) อาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ของเขา ( แอนดรูว์ แอร์ลีและอัลลิสัน ฮอสแซ็ค ) ใน พื้นที่ ซีแอตเทิลแซมออกจากวิทยาลัย (“มันทำให้เขาง่วงนอน” แม่ของเขาอธิบาย) และหางานที่ไม่มีอนาคตที่ Work Bench ซึ่งเป็นร้านซ่อมบ้านขนาดใหญ่ เขาใช้เวลาที่เหลือไปกับการออกไปเที่ยว เล่นวิดีโอเกมและคิดถึงเพื่อนร่วมงานของเขา แอนดี้ ( มิสซี่ เปเรกริม )
เท็กการ์ท (รับบทโดย Ray Wise) เห็นปิศาจ ที่มีลักษณะคล้ายหุ่นไล่กา แต่มีปีกหยักกว้างเหมือนค้างคาว บินมาโฉบบิลลี่ ก่อนจะกระตุกหัวลูกชายของเขา ขาดติดเท้ามันออกไปกับตาตัวเอง นี่คือคำสาปของฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวโพด ที่เมื่อครบทุก 23 ปี ปิศาจที่ร่ำลือกันเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้าน จะออกอาละวาด รถโดยสารของทีมบาสเกตบอลมัธยมแบนนอน ที่มีนักกีฬาและกลุ่มสาวเชียร์ลีดเดอร์ นั่งอยู่เต็มคัน ไม่สามารถเดินทางต่อได้เนื่องจากยางแตก วิทยุไม่สามารถรับคลื่นได้ รวมทั้งโทรศัพท์มือถือของทุกคน ก็สัญญานขาดหาย คนขับรถจึงเดินเท้า ไปขอความช่วยเหลือจากชาวไร่ข้าวโพด ซึ่งเห็นมากำลังทำงานอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นจะพบของมีคมประหลาดคล้ายรูปดาว เจาะเข้าไปทำให้เนื้อยางรถจนฉีกขาด ขณะเดียวกัน ก็มีรถไอศครีมปริศนามาจอดขวางหน้า โดยในตู้แช่ด้านหลังบรรจุศพไว้เต็มคัน