Rupert Friend รูเพิร์ต เฟรนด์

จุดเริ่มต้น: หนุ่มอังกฤษผู้หลงใหลในศิลปะการแสดง

เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1981 ที่เคมบริดจ์เชอร์ และเติบโตในอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ ในตอนแรก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักโบราณคดีและเดินทางไปทั่วโลก แต่หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่อง “Indiana Jones and the Last Crusade” เขาก็เปลี่ยนใจและหันมาหลงใหลในโลกของภาพยนตร์แทน

เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางสายการแสดงอย่างแน่วแน่ และได้เข้าศึกษาต่อที่ Webber Douglas Academy of Dramatic Art ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถาบันสอนการแสดงที่มีชื่อเสียง เขาฉายแววความสามารถตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ และแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ทันทีกับผลงานเรื่องแรก

แจ้งเกิดอย่างสวยงามและบทบาทเจ้าชาย

ประเดิมผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 2004 กับบทบาทสมทบในภาพยนตร์เรื่อง “The Libertine” ซึ่งเขาได้ประชันฝีมือกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง จอห์นนี เดปป์ และทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Most Promising Newcomer) จากเวที British Independent Film Awards

หลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากบทบาท “มิสเตอร์วิคแฮม” (Mr. Wickham) นายทหารหนุ่มเจ้าเสน่ห์แต่ไม่น่าไว้วางใจ ในภาพยนตร์โรแมนติกคลาสสิกเรื่อง “Pride & Prejudice” (2005) ซึ่งเขาได้แสดงร่วมกับ เคียรา ไนต์ลีย์ และด้วยเคมีที่เข้ากัน ทำให้พวกเขากลายเป็นคู่รักนอกจออยู่ช่วงหนึ่ง

เขายังคงโดดเด่นในบทบาทบุคคลในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการรับบทเป็น “เจ้าชายอัลเบิร์ต” (Prince Albert) พระสวามีผู้เป็นที่รักของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ในภาพยนตร์เรื่อง “The Young Victoria” (2009) ซึ่งเขาก็ถ่ายทอดความรักและความอ่อนโยนของตัวละครออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

Peter Quinn: บทบาทที่โลกต้องจดจำใน Homeland

แม้จะมีผลงานภาพยนตร์คุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น “The Boy in the Striped Pyjamas” (2008) แต่บทบาทที่ทำให้  ได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างแท้จริง และเป็นที่รักของแฟนซีรีส์ทั่วโลก คือการรับบทเป็น “ปีเตอร์ ควินน์” (Peter Quinn) ในซีรีส์สายลับการเมืองสุดเข้มข้น “Homeland” (2012-2017)

เขาสวมบทบาทเจ้าหน้าที่ CIA และมือสังหารผู้เงียบขรึมแต่เต็มไปด้วยบาดแผลในใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ พัฒนาการของตัวละครปีเตอร์ ควินน์ ที่เปลี่ยนจากมือสังหารเลือดเย็นมาเป็นผู้ที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เขารักและประเทศชาติ ได้สร้างความประทับใจและบีบคั้นหัวใจผู้ชมอย่างมาก การแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลเอมมี อวอร์ด (Emmy Award) ในสาขานักแสดงรับเชิญชายยอดเยี่ยม

สู่จักรวาล Star Wars และการร่วมงานกับ Wes Anderson

ยังคงท้าทายตัวเองด้วยบทบาทใหม่ๆ อยู่เสมอ:

• “Hitman: Agent 47” (2015): พลิกบทบาทมารับบทนำเป็นนักฆ่าหัวบาร์โค้ด
• “The Death of Stalin” (2017): แสดงในหนังตลกร้ายเสียดสีการเมือง
• จักรวาล Star Wars: เขารับบทเป็น “แกรนด์อินควิซิเตอร์” (Grand Inquisitor) ตัวร้ายสุดอำมหิตในซีรีส์ “Obi-Wan Kenobi” (2022)
• ร่วมงานกับ Wes Anderson: เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับสุดติสต์อย่าง เวส แอนเดอร์สัน ในภาพยนตร์เรื่อง “The French Dispatch” (2021), “Asteroid City” (2023) และ “The Wonderful Story of Henry Sugar” (2023)

ชีวิตส่วนตัว

สมรสกับ เอมี่ มัลลินส์ (Aimee Mullins) นักกีฬา, นักแสดง และนางแบบชาวอเมริกันผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกจากการสูญเสียขาทั้งสองข้างตั้งแต่เด็ก

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

 

Q:  แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องอะไร?

A: เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากบท “มิสเตอร์วิคแฮม” ใน “Pride & Prejudice” (2005) แต่ผลงานที่ทำให้เขาได้รับรางวัลและแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงหน้าใหม่คือ “The Libertine” (2004)

Q: บทบาทไหนที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมี อวอร์ด?

A: บทบาท “ปีเตอร์ ควินน์” เจ้าหน้าที่ CIA จากซีรีส์เรื่อง “Homeland” ค่ะ

Q: เขาแสดงเป็นใครในเรื่อง Star Wars?

A: เขารับบทเป็น “แกรนด์อินควิซิเตอร์” ตัวร้ายหลักในซีรีส์ “Obi-Wan Kenobi” ทาง Disney+ ค่ะ

คือนักแสดงที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายและความมุ่งมั่นในการพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ เขาไม่เคยยึดติดกับบทบาทใดบทบาทหนึ่ง และพร้อมที่จะท้าทายตัวเองในโปรเจกต์ที่น่าสนใจ ทำให้เขายังคงเป็นหนึ่งในนักแสดงชาวอังกฤษที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของวงการในปัจจุบัน