ประวัติ Sigourney Weaver ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์
Sigourney Weaver ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ : ราชินีแห่งวงการไซไฟ ผู้หญิงแกร่งคนแรกแห่งโลกภาพยนตร์ ในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ มีนักแสดงหญิงเพียงไม่กี่คนที่จะถูกจารึกชื่อในฐานะ “ผู้บุกเบิก” และ ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) คือหนึ่งในนั้น เธอไม่ใช่แค่ดาราฮอลลีวูด แต่คือไอคอนแห่งวัฒนธรรมป๊อป คือราชินีแห่งหนังไซไฟ และคือผู้หญิงคนแรกที่พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า “นางเอก” ก็สามารถเป็น “ฮีโร่แอ็คชั่น” ที่แข็งแกร่งที่สุดบนจอเงินได้ วันนี้ Movie24HD จะพาทุกท่านไปคารวะตำนานที่ยังมีลมหายใจของ “เอลเลน ริปลีย์” และบทบาทอีกมากมายที่ทำให้เธอเป็นที่รักของคนทั่วโลก
จากเวทีละครสู่ประตูจักรวาลอันไกลโพ้น
ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ มีชื่อจริงว่า ซูซาน อเล็กซานดรา วีเวอร์ (Susan Alexandra Weaver) เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 1949 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เธอเติบโตมาในครอบครัวที่คลุกคลีกับวงการบันเทิง พ่อของเธอเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ NBC และแม่เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ ด้วยความสูงที่โดดเด่น (ปัจจุบันสูงถึง 182 ซม.) ทำให้เธอเปลี่ยนชื่อเป็น “ซิกัวร์นีย์” ตามชื่อตัวละครในนิยาย The Great Gatsby เพื่อให้ดูโดดเด่นและน่าเกรงขาม
เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและโรงเรียนการละครชื่อดังอย่าง Yale School of Drama ซึ่งที่นี่เองที่เธอได้ร่วมชั้นเรียนกับนักแสดงระดับตำนานอย่าง เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) เธอเริ่มต้นอาชีพจากการแสดงละครเวที ก่อนจะได้รับบทบาทเล็กๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Annie Hall (1977) ของวู้ดดี้ อัลเลน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอีกเพียง 2 ปีต่อมา โลกทั้งใบจะต้องจดจำชื่อของเธอ
การปฏิวัติวงการ: กำเนิด “เอลเลน ริปลีย์”
ปี 1979 โลกภาพยนตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลด้วยการมาถึงของ “Alien” ของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ และบทบาทที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์อย่าง “เอลเลน ริปลีย์” (Ellen Ripley) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
ในยุคที่ตัวเอกหนังแอ็คชั่นและไซไฟถูกผูกขาดโดยผู้ชาย วีเวอร์ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา เธอไม่ได้เป็นเพียง “หญิงสาวคนสุดท้าย” (Final Girl) ที่กรีดร้องรอความช่วยเหลือ แต่เธอคือผู้นำ คือนักสู้ผู้ใช้สติปัญญาและความกล้าหาญในการเอาชีวิตรอดจากอสูรกายที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาล บทบาทนี้ส่งให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตก และเธอก็กลับมารับบทเดิมที่เข้มข้นและดุดันยิ่งขึ้นในภาคต่อ “Aliens” (1986) ของเจมส์ คาเมรอน ซึ่งการแสดงอันทรงพลังในภาคนี้ส่งให้เธอได้ รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น-ไซไฟ และเป็นการตอกย้ำสถานะ “ราชินีนักบู๊” คนแรกของวงการอย่างแท้จริง
นักแสดงพันหน้า: จากนักปราบผีสู่นักวานรวิทยา
แม้ภาพจำของเธอจะผูกติดกับบทบาทหญิงแกร่ง แต่ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ คือนักแสดงเจ้าบทบาทที่มีผลงานหลากหลายแนวและได้รับการยอมรับอย่างสูง:
- Ghostbusters (1984): ในบท “เดน่า บาร์เร็ตต์” หญิงสาวผู้ถูกสิงโดยปีศาจ ซึ่งเธอได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ในบทบาทคอเมดี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
- Gorillas in the Mist (1988): รับบทเป็น “ไดแอน ฟอสซีย์” นักวานรวิทยาผู้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อปกป้องกอริลลาภูเขา การแสดงที่ทุ่มเทและลึกซึ้งในเรื่องนี้ส่งให้เธอ คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์อีกครั้ง
- Working Girl (1988): ในปีเดียวกัน เธอยังรับบทเป็นเจ้านายสาวสุดร้ายกาจ และคว้ารางวัล ลูกโลกทองคำตัวที่สอง ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครอง ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงไม่กี่คนที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำได้ 2 ตัวในปีเดียวกัน
- Avatar (2009): เธอกลับมาร่วมงานกับ เจมส์ คาเมรอน อีกครั้งในบทบาท “ดร. เกรซ ออกัสติน” ในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ตอกย้ำสถานะราชินีแห่งวงการไซไฟที่ไม่มีใครเทียบได้
ตารางผลงานเด่น:
| ปี | ชื่อผลงาน | บทบาท | คะแนน IMDb | คะแนน Rotten Tomatoes |
| 1979 | Alien | เอลเลน ริปลีย์ | 8.5/10 | 98% |
| 1984 | Ghostbusters | เดน่า บาร์เร็ตต์ | 7.8/10 | 97% |
| 1986 | Aliens | เอลเลน ริปลีย์ | 8.4/10 | 98% |
| 1988 | Gorillas in the Mist | ไดแอน ฟอสซีย์ | 7.0/10 | 83% |
| 1988 | Working Girl | แคทธารีน ปาร์คเกอร์ | 6.8/10 | 85% |
| 1999 | Galaxy Quest | เกว็น เดอมาร์โก | 7.4/10 | 90% |
| 2009 | Avatar | ดร.เกรซ ออกัสติน | 7.9/10 | 82% |
หมายเหตุ: คะแนนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ เคยได้รับรางวัลออสการ์หรือไม่?
A: น่าเสียดายที่เธอ ยังไม่เคย ได้รับรางวัลออสการ์ครับ แม้จะเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 3 ครั้ง (จาก Aliens, Gorillas in the Mist, และ Working Girl) แต่เธอก็ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากรางวัลอื่นๆ เช่น ลูกโลกทองคำ และ BAFTA Awards
Q: ทำไมบทบาท “ริปลีย์” ถึงมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ภาพยนตร์?
A: เพราะเป็นครั้งแรกที่ตัวละครหญิงในหนังฟอร์มยักษ์ถูกนำเสนอในฐานะ “ผู้กระทำ” (Active Protagonist) ที่มีความสามารถ, ความเป็นผู้นำ และความแข็งแกร่งทัดเทียมหรือเหนือกว่าตัวละครชาย เธอได้ทำลายภาพจำเดิมๆ และเป็นต้นแบบให้กับฮีโร่หญิงในยุคต่อมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่ซาร่าห์ คอนเนอร์ จนถึงกัปตันมาร์เวล
Q: ปัจจุบันเธอยังมีผลงานการแสดงอยู่ไหม?
A: ยังคงมีผลงานอย่างต่อเนื่องครับ! ล่าสุดเธอก็เพิ่งกลับมารับบทบาทใหม่ใน Avatar: The Way of Water (2022) และยังมีโปรเจกต์อื่นๆ อีกมากมาย พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอคือตำนานที่ไม่เคยหยุดทำงาน
หากคุณชื่นชอบผลงานของ ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ ลองชมผลงานของนักแสดงเหล่านี้
สำหรับแฟนๆ ที่หลงใหลในความแข็งแกร่งและพลังการแสดงของเธอ เราขอแนะนำผลงานของนักแสดงหญิงผู้เป็นไอคอนแห่งวงการแอ็คชั่นและไซไฟเช่นกัน:
- ลินดา แฮมิลตัน (Linda Hamilton): ผู้รับบท “ซาร่าห์ คอนเนอร์” หญิงแกร่งอีกคนแห่งโลกภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ Terminator
- เจมี ลี เคอร์ติส (Jamie Lee Curtis): ราชินีแห่งเสียงกรีดร้อง ผู้โด่งดังจากบท “ลอรี่ สโตรด” ในแฟรนไชส์ Halloween
- ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron): นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ ผู้สร้างตำนานบทใหม่ในฐานะแอ็คชั่นสตาร์หญิงแห่งยุคจาก Mad Max: Fury Road และ Atomic Blonde
ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์ ไม่ใช่แค่นักแสดง แต่เธอคือสถาบัน คือสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติบทบาทหญิงในโลกภาพยนตร์ที่อิทธิพลของเธอยังคงส่งต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และสำหรับใครที่ต้องการย้อนกลับไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ในผลงานของเธอ สามารถเข้ามาค้นหาและรับชมได้ที่ Movie24HD ครับ!
ผลงานภาพยนตร์
Vantage Point (2008) แวนเทจ พอยต์ เสี้ยววินาทีสังหาร
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โธมัส บาร์นส์ (เดนนิส เควด) และ เคนท์ เทย์เลอร์ (แมทธิว ฟ็อกซ์) คือเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับสองคนที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มครอง ท่านประธานาธิบดีแอชตัน (วิลเลี่ยม เฮิร์ต) ที่การประชุมเกี่ยวกับสงครามต่อต้านผู้ก่อการร้าย เมื่อประธานาธิบดีแอชตันถูกลอบยิงหลังจากการเยือนสเปนได้ไม่นาน ความชุลมุนวุ่นวายก็เกิดขึ้นตามมา และหลายชีวิตก็มาร้อยเรียงเข้าด้วยกันในการตามล่าหาตัวมือลอบสังหาร ท่ามกลางฝูงชนคือฮาวเวิร์ด ลูอิส (ฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ผู้คิดว่าเขาได้บันทึกภาพมือสังหารในแคมคอร์ดเดอร์ของตัวเองระหว่างที่เขาถ่ายภาพไปฝากลูก ๆ เขาที่อยู่บ้าน
และที่นั่น ผู้ที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ให้ผู้ชมโทรทัศน์ทั่วโลกได้รับรู้คือโปรดิวเซอร์ข่าวโทรทัศน์ เร็กซ์ บรู๊คส์ (ซีกอร์นีย์ วีเวอร์) ขณะที่พวกเขาและคนอื่น ๆ เผยเรื่องราวของพวกเขา ชิ้นส่วนปริศนาก็เริ่มประกอบเป็นรูปเป็นร่าง และทุกอย่างก็เริ่มจะปรากฏถึงแรงจูงใจอันน่าตกตะลึงที่ซ่อนอยู่เบื้องลึก
The Cold Light of Day (2012) อึดพันธุ์อึด
เรื่องราวของ วิล ชอว์ (เฮนรี่ คาวิลล์) ที่เดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวที่สเปน เขากำลังลำบากเนื่องจากบริษัทกำลังขาดทุน และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ มาร์ติน (บรูซ วิลลิส) พ่อของเขาก็ไม่ค่อยดี แต่ในระหว่างที่พักผ่อนนั้นเอง ก็มีกลุ่มคนลึกลับบุกมาลักพาตัวครอบครัวของเขาไป โลกของ วิล ต้องกลับตาลปัตร เมื่อเขาพบว่าแท้จริงแล้ว มาร์ติน ก็คือสายลับ CIA ที่พัวพันกับความขัดแย้งระดับนานาชาติ
วิล ต้องพยายามประติดประต่อเหตุการณ์ทั้งหมด โดยระหว่างที่อยู่ในกรุงมาดริด เขาก็ได้พบกับ ลูเซีย (เวอโรนิก้า อีเชกุย) น้องสาวต่างแม่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่เข้ามาช่วยกันเพื่อค้นหากระเป๋าเดินทางปริศนา ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือครอบครัวของเขา
Exodus: Gods and Kings (2014) เอ็กโซดัส: ก็อดส์ แอนด์ คิงส์
เรื่องราวของบุรุษท่านหนึ่งผู้กล้าท้าทายอาณาจักรมหาอำนาจ โมเสส (คริสเตียน เบล) ลุกขึ้นมาต่อต้านกษัตริย์ฟาโรห์ของชาวอียิปต์ผู้มีนามว่า แรเมซีส (โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน) โดยนำทาสนับ 600,000 คนเดินทางหลบหนีจากอียิปต์และภัยพิบัติอันเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นด้วยความกล้าหาญ
Chappie (2015) จักรกลเปลี่ยนโลก
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีนับจากนี้ โลกอยู่ภายใต้การควบคุมของหุ่นยนต์ตำรวจ ที่เรียกว่า สเกาท์ ในยามที่ทั้งเมืองอยู่ภายใต้การคุ้มครองของหุ่นยนต์ตำรวจ ก็เกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมาในชื่อของ แชปปี้ (ชาร์ลโต คอปลีย์) หุ่นยนต์ตัวแรกที่สามารถคิดและมีความรู้สึกได้ แชปปี้ ที่เคยเป็นหุ่นยนต์ตำรวจ ถูกขโมยและป้อนวัตถุประสงค์ที่ต่างออกไปเข้าไป
มีคนอย่าง วินเซนต์ มัวร์ (ฮิวจ์ แจ็คแมน) ที่มองว่าหุ่นยนต์ที่คิดเป็นจะนำมาซึ่งหายนะของมนุษยชาติ เพราะเมื่อเครื่องจักรคิดเป็น มันจะต้องการมนุษย์ไปทำไมอีกล่ะ แต่คนอื่น ๆ อย่าง ดีออน วิลสัน (เดฟ พาเทล) ผู้สร้าง แชปปี้ ขึ้นมา มอง แชปปี้ ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อ ลมหายใจเช่นเดียวกัน และเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติด้วย แม้ว่าตัวเขาจะไม่ใช่มนุษย์ก็ตามที
Avatar จะนำผู้ชมภาพยนตร์ก้าวสู่โลกใหม่ที่สุดตะลึงตาเหนือล้ำจินตนาการ เมื่อฮีโร่ผู้จำใจต้องออกเดินทางเพื่อปลดเปลื้องและบุกเบิก พร้อมเป็นผู้นำแห่งสงครามเพื่อปกป้องโลกของมนุษย์ต่างดาวที่เขาเรียกว่าบ้าน เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์ Titanic มีโครงเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในใจตั้งแต่ 15 ปีที่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคในตอนนั้นจึงไม่สามารถถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นภาพได้ บัดนี้ เขาใช้เวลากว่า 4 ปีในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Avatar ภาพยนตร์แนวไลฟ์แอคชั่นที่ใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟ็คสุดไฮเทค Avatar ถูกสร้างออกมาอย่างสมบูรณ์แบบด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีภาพยนตร์ ที่หลอมเราเข้าไปในโลกแห่งอารมณ์และเรื่องราวของตัวละคร
ผู้ชมจะเข้าสู่โลกแพนโดราผ่านสายตาของ เจค ซัลลี่ (แซม เวิร์ธธิงตัน) อดีตนายทหารเรือผู้พิการที่ต้องนั่งบนรถเข็น แม้ว่าร่างกายไม่สมประกอบ แต่เจคก็ยังมีหัวใจนักรบ เขาได้รับเลือกให้ร่วมเดินทางหลายปีแสงไปยังดาวแพนโดรา ที่ซึ่งมีเหมืองแร่ล้ำค่าหายากที่เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนของโลก และเพราะชั้นบรรยากาศของดาวแพนโดราเป็นพิษต่อมนุษย์ พวกเขาจึงต้องพัฒนาโปรแกรมอวตาร เพื่อแปลงสภาวะจิตของคนให้ไปอยู่ในร่างอวตาร และให้ควบคุมร่างกายได้ในภาวะอากาศที่เบาบาง ร่างอวตารนี้เป็นส่วนผสมทางพันธุกรรมของดีเอ็นเอมนุษย์และดีเอ็นเอจากสิ่งมีชีวิตบนดาวแพนโดรา ที่มีชื่อเรียกว่า “นาวี”
ในร่างอวตาร เจค สามารถเดินได้อีกครั้งหนึ่ง และมีภารกิจต้องแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มนาวี ชนเผ่าพื้นเมืองที่เป็นอุปสรรคสำคัญของชาวโลกในการเข้าถึงเหมืองแร่ล้ำค่า แต่นาวีสาวสวยชื่อ นีย์ทีรี (โซอี้ ซัลดาน่า) ได้ช่วยชีวิตเจคไว้และแผนการทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง เจคได้เข้าร่วมชนเผ่าของเธอ เขาได้ผ่านการทดสอบและการผจญภัยต่าง ๆ จนได้เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น ความสัมพันธ์ของเจคและนีย์ทีรีเริ่มลึกซึ้งขึ้น พร้อม ๆ กับความนับถือในกลุ่มนาวี ในที่สุดเขาต้องพบการทดสอบและความขัดแย้งที่จะตัดสินชะตากรรมของโลก
Avatar 2 The Way of Water (2022) อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ
ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกผ่านไปนานกว่า 10 ปี โดยเริ่มจากการบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวซัลลี่ (เจค, นีย์ทีรี และลูก ๆ ของพวกเขา) ทั้งปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ตามติดพวกเขามา หนทางอันยาวไกลที่พวกเขาต้องคอยดูแลปกป้องซึ่งกันและกัน สนามรบที่พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และโศกนาฏกรรมที่พวกเขาต้องเผชิญ