ดูหนัง Spenser Confidential (2020) สเปนเซอร์ ลุย ล่า ปราบทรชน
สเปนเซอร์ อดีตตำรวจและนักโทษแท็คทีมกับฮอว์ค นักชกผู้มุ่งมั่นเพื่อหาทางเปิดโปงแผนการร้ายที่โยงใยกับการตายของตำรวจบอสตันสองนาย สิบเอก สเปนเซอร์แห่งบอสตันถูกจำคุกหลังจากรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายกัปตันจอห์น บอยแลน ซึ่งเขาสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมกลอเรีย ไวส์นิวสกี เพื่อนของครอบครัวที่ประท้วงนโยบายปรับปรุงเมืองขณะถูกคุมขัง สเปนเซอร์ศึกษาเพื่อเป็นคนขับรถบรรทุกในแอริโซนาและได้รับคำเตือนให้ออกจากบอสตัน เมื่อได้รับการปล่อยตัว สเปนเซอร์ย้ายไปอยู่ร่วมกับเฮนรี ซิโมลี เพื่อนของเขาและฮอว์ก เพื่อนร่วมห้องของเขา เมื่อบอยแลนถูกฆ่า นักสืบดริสคอลล์และแม็กคลิน หุ้นส่วนของเขา ซักถามสเปนเซอร์ ดริสคอลล์ อดีตหุ้นส่วนของสเปนเซอร์ ยอมรับคำแก้ตัวของสเปนเซอร์และยุให้เขาออกจากเมือง สเปนเซอร์เริ่มสงสัยเมื่อตำรวจที่ซื่อสัตย์ นักสืบเทอร์เรนซ์ เกรแฮม ฆ่าตัวตายตามรายงาน และถูกระบุว่าเป็นฆาตกรของบอยแลน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Mark Wahlberg มาร์ก วอห์ลเบิร์ก

Winston Duke

Alan Arkin

ผู้กำกับ : ปีเตอร์ เบิร์ก
รีวิว
beartai
เวลามีผู้กำกับหนังคนดังมาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์เราก็เดา ๆ ได้ว่าน่าจะด้วยเหตุผลประมาณ 3 ข้อนั่นล่ะ คือ อย่างแรกมันเป็นโพรเจกต์ที่ค่ายหนังใหญ่ไม่สนใจทำ หรือไม่ก็ สองคือเป็นโพรเจกต์ที่ผู้กำกับคนนั้นอยากลองอะไรใหม่ ๆ เปลี่ยนบรรยากาศ และสามก็คือไม่เลือกงานไม่ยากจน (ฮา) สำหรับ ปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับเจ้าของงานแอ็กชันธริลเลอร์ใหญ่ ๆ ที่มักอิงจากเรื่องจริงอย่าง Lone Survivor (2013) และ Patriots Day (2016) ที่งานยุคหลังนอกจากจะเน้นความซีเรียสจริงจังจากเหตุการณ์จริงแล้ว การมาร่วมงานกับ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก ก็กลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ไปเลย เหตุผลที่ทั้งคุ่มาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์ดูจากงานนี้ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน เพราะนอกจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ได้ลองทำกับเน็ตฟลิกซ์แทนค่ายหนังแล้ว เนื้อหาของหนังก็ยังได้ดัดแปลงนิยายชุดสืบสวนการคอร์รัปชันในแวดวงตำรวจที่มีตัวละครนำชื่อ สเปนเซอร์ ของนักเขียนดังนาม โรเบิร์ต บี. พาร์กเกอร์ ซึ่งเคยเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ช่วงปี 1985 เรื่อง Spenser: For Hire มาเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวบู๊ปนฮาร้าย ๆ ด้วย ซึ่งงานหนังตลกเรื่องสุดท้ายของเบิร์กนี่ต้องย้อนไปตอนทำ Hancock (2008) นู่นเลยทีเดียว เรื่องนี้แกน่าจะได้ปลดปล่อยพอสมควร
ด้วยความที่ดัดแปลงเอามันจากนิยายที่ซีเรียส ๆ หน่อยทำให้ตัวหนังมีความทั้งจริงจังและไม่จริงจังไปพร้อมกัน ในขณะที่ปริศนาในคดีและเหล่าตัวร้ายจะค่อนข้างดูสมจริงและซีเรียส แต่ผู้ชมก็จะไม่เบื่อเพราะบุคลิกของสเปนเซอร์ อดีตตำรวจที่เข้าคุกเพราะไม่ชอบความอยุติธรรมนั้นเป็นตัวละครที่มีสีสัน ปากหมา หน้ายับ รักหมากว่าแฟน และชอบแกว่งเท้าเข้าไปหาเสี้ยนทุกครั้งที่เห็นคนบริสุทธิ์เดือดร้อน ยิ่งการเข้าคู่กับพวกตัวละครอื่นฝั่งพระเอกที่คาแรกเตอร์จัดเกินปกติ ทั้ง ฮอว์ก (ได้ วินสตัน ดู๊ก ที่เล่นเป็น เอ็มบากู ในหนัง Black Panther มาเล่น) ตัวละครผิวสีคู่หูสุดหน้าตายและรักสัตว์ของสเปนเซอร์ที่ถูกปรับจากตำรวจในนิยายมาเป็นเด็กฝึกของค่ายมวย ตาลุงเฮนรี่ ชายแก่ที่ให้ความช่วยเหลือด้านที่พักหลังพระเอกออกจากคุกมาก็เป็นตาแก่ไม่ทันเทคโนโลยีแต่มีความเก๋าแบบโอลด์สคูล รวมถึง ซิสซี่ แฟนสาวของสเปนเซอร์ที่ผีเข้าผีออกอารมณ์รุนแรงเดาใจยาก ทั้งหมดเมื่อรวมตัวกันก็เลยกลายเป็นแก๊งที่ไม่ลงรอยกันเองแต่ก็เข้าขากันเยี่ยมเวลาคับขัน ช่วยให้หนังดูสนุกพอสมควร