อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
จากเด็กสลัม สู่ดาวตลกจอแก้ว
โจว ซิงฉือ เติบโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนในฮ่องกง เขามี บรูซ ลี (Bruce Lee) เป็นไอดอล และใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงกังฟู
เขาเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงกับสถานีโทรทัศน์ TVB ของฮ่องกง โดยเริ่มจากบทบาทพิธีกรรายการเด็ก (ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ตลกเพี้ยนของเขาในเวลาต่อมามาก!) และรับบทตัวประกอบในซีรีส์อยู่หลายปี จนกระทั่งได้แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์
ยุคทองแห่ง “Mo Lei Tau” และคู่หูในตำนาน
ช่วงยุค 90s คือยุคทองของ โจว ซิงฉือ อย่างแท้จริง เขาจับมือกับผู้กำกับคู่บุญอย่าง หลี่ ลี่ฉือ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “คู่หูในตำนาน” Ng Man-tat (อู๋ ม่งต๊ะ)
ทั้งคู่สร้างเคมีตลกที่เข้าขากันที่สุดในประวัติศาสตร์หนังฮ่องกง ผลงานในช่วงนี้ของเขาที่แฟนๆ Movie24HD ต้องเคยดูผ่านตา (และฮากระจาย) ได้แก่:
All for the Winner (1990) (คนตัดเซียน): ภาคต่อกลายๆ ของ God of Gamblers ที่ทำให้เขาดังเปรี้ยง
Fight Back to School (1991) (คนเล็กนักเรียนโต): หนังตลกในโรงเรียนที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของฮ่องกงในยุคนั้น
God of Cookery (1996) (คนกุ๊กเทวดา): จุดเริ่มต้นของการผสมผสานความตลกเข้ากับดราม่าและฉากทำอาหารสุดเว่อร์
King of Comedy (1999) (คนเล็กไม่เกรงใจฟ้า): หนังที่หลายคนเชื่อว่าอิงจากประวัติชีวิตจริงของเขาในฐานะตัวประกอบผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง
ก้าวสู่ผู้กำกับระดับโลก: Shaolin Soccer & Kung Fu Hustle
ถ้าช่วงยุค 90s คือยุคทองของเขาในฐานะ “นักแสดง” ยุค 2000s ก็คือยุคที่เขาประกาศศักดาในฐานะ “ผู้กำกับ” ระดับโลก! โจว ซิงฉือ เริ่มกำกับหนังของตัวเอง และผลักดันการใช้ CGI เข้ามาผสมกับกังฟูและความตลกได้อย่างบ้าคลั่ง
Shaolin Soccer (2001) (นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่): หนังที่ผสมผสานกังฟูเข้ากับฟุตบอลได้อย่างลงตัว กวาดรางวัลเรียบในฮ่องกง และทำให้ชื่อของเขาดังไปทั่วโลก
Kung Fu Hustle (2004) (คนเล็กหมัดเทวดา): นี่คือ “มาสเตอร์พีซ” ของเขาอย่างแท้จริง! หนังเรื่องนี้คือการคารวะหนังแนวกังฟูในอดีต ผสมกับความตลกเหนือจริงและฉากแอ็กชันสุดตะลึง ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในหนังเอเชียที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล
หลังจาก Kung Fu Hustle เขาก็ผันตัวไปอยู่เบื้องหลังเต็มตัว โดยเน้นการกำกับและโปรดิวซ์ เช่น CJ7 (2008) และ The Mermaid (2016) (ซึ่งเคยทำสถิติเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีน)
ตรวจสอบเรตติ้งและผลงาน (IMDb & Rotten Tomatoes)
ฝีมือของเขาไม่ใช่แค่ตลกในสายตาคนเอเชีย แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะผลงานกำกับของเขา:
หากคุณชอบ โจว ซิงฉือ แนะนำให้ดู…
สำหรับคอหนังที่หลงรักสไตล์ “ตลกหน้าตาย” ผสม “แอ็กชันสุดเว่อร์” แบบ โจว ซิงฉือ ทาง Movie24HD ขอแนะนำ:
Jackie Chan (เฉินหลง): อีกหนึ่งตำนานที่ผสมผสานกังฟูเข้ากับความตลก (Comedy Kung Fu) ได้อย่างลงตัว
Ng Man-tat (อู๋ ม่งต๊ะ): ลองย้อนกลับไปดูผลงานเดี่ยวของเขา หรือหนังที่เขาแสดงคู่กับ โจว ซิงฉือ รับรองว่าเคมีเข้ากันสุดๆ
Everything Everywhere All at Once (2022): แม้จะไม่ใช่หนังฮ่องกง แต่ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจและคารวะสไตล์ “Mo Lei Tau” ของ โจว ซิงฉือ มาเต็มๆ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ โจว ซิงฉือ
มาถึงช่วงตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ “ซิงเหย่” กันครับ!
Q1: ทำไม โจว ซิงฉือ ถึงถูกเรียกว่า “ราชาตลก”?
A: สวัสดีครับ! เพราะในช่วงยุค 90s หนังแทบทุกเรื่องที่เขาแสดงนำ สามารถทำลายสถิติรายได้สูงสุดในฮ่องกงได้แทบทั้งหมด สไตล์ตลกของเขาไม่เหมือนใคร และเขาก็คือผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ “Mo Lei Tau” ที่ฮิตไปทั่วเอเชียครับ
Q2: ทำไม โจว ซิงฉือ ถึงไม่แสดงหนังเองแล้ว?
A: หลังจากเรื่อง CJ7 (2008) เขาก็ประกาศว่าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงานเบื้องหลังในฐานะ “ผู้กำกับ” และ “โปรดิวเซอร์” ครับ เขาบอกว่าเขาเจอไอเดียที่อยากเล่ามากมายจนไม่มีเวลามาแสดงเองแล้ว
Q3: คู่หู อู๋ ม่งต๊ะ หายไปไหน ทำไมไม่เล่นหนังด้วยกัน?
A: เป็นเรื่องที่น่าเศร้าครับ ทั้งคู่เคยมีข่าวลือว่าไม่ลงรอยกัน แต่ความจริงคือคิวงานไม่ตรงกันครับ โจว ซิงฉือ เคยชวน อู๋ ม่งต๊ะ กลับมาเล่น Kung Fu Hustle และ The Mermaid แต่ อู๋ ม่งต๊ะ ไม่สบายและคิวไม่ว่าง จนกระทั่งเขาเสียชีวิตไปในปี 2021 ปิดตำนานคู่หูตลอดกาลครับ
Q4: อยากดู “คนเล็กหมัดเทวดา” หรือ “นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่” หาดูได้ที่ไหน?
A: ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลครับ! แฟนๆ สามารถค้นหาผลงานมาสเตอร์พีซของ โจว ซิงฉือ ทั้งเก่าและใหม่ได้เลยบนเว็บไซต์ Movie24HD ของเรา รับรองว่ามีให้ชมครบทุกความฮาแน่นอนครับ!
โจว ซิงฉือ คือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนเสียงหัวเราะให้เป็นพลังบวก และสำหรับใครที่กำลังมองหา รีวิวหนัง หรือ สปอยหนัง มันส์ๆ อย่าลืมแวะไปติดตามช่องพาร์ทเนอร์ของเราได้เลยครับ!
ผลงานภาพยนตร์
ในปี ค.ศ.1987 โจว ซิงฉือ ได้แสดงละครซีรีส์ในบทสมทบเป็นครั้งแรก ในละครซีรีส์เรื่อง ค่าของคน(The Price Of Growing Up ,1987) มีนักแสดงขวัญใจของเขา ว่าน จื่อเหลียง เป็นพระเอกนำแสดง ในปี 1988 เขาได้แสดงภาพยนตร์ในบทสมทบเป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่อง โหดแค่แหลก (He Who Chases Afer the wind ,1988) มีว่าน จื่อเหลียง พระเอกขวัญใจของเขานำแสดงเช่นเคย เขาฉายแววความสามารถทางการแสดงได้อย่างโดดเด่น จนวงการภาพยนตร์ฮ่องกงกล่าวขานว่า เขาเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองในยุคนั้น ร่วมกับ หลิว เต๋อหัว , ม้อ เส้าชง และหลิน จุ้นเสียน ภาพยนตร์ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงอย่างมาก คือ ภาพยนตร์เรื่อง Final Justice (1988) หรือชื่อไทย เฉ่งไอ้คุณโป (หรืออีกชื่อ สารวัตรใจเพชร) ร่วมแสดงกับ หลี ซิ่วเสียน (Danny Lee) เขาแสดงบทสมทบได้อย่างโดดเด่นจนได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกง(Hong Kong Film Award) สาขานักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม(Best New Performer) แต่พลาดรางวัลไป แต่เขาก็ชนะเลิศได้รับรางวัลม้าทองคำไต้หวัน (Taiwan Golden Horse Award) ในสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม(Best Supporting Actor) จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน
คนตัดเซียน (1990)
อาซิง ชายหนุ่มจากกวางเจาเดินทางมาฮ่องกง เพื่อตามหาตัวลุงต้า ลุงแท้ ๆ ของตัวเองที่อาศัยอยู่ที่นี่ ขณะที่อาศัยอยู่กับลุงและเพื่อน ๆ ในอพาร์ตเมนต์ ลุงต้าค้นพบว่า อาซิง มีพลังจิตสามารถมองทะลุสิ่งของ และยังสามารถเปลี่ยนไพ่ด้วยการลูบไล้ได้ ลุงต้าหวังโกยเงินมหาศาล จึงผลักดันให้ อาซิง เข้าสู่วงการการพนัน อาซิงจึงได้โอกาสลับคมฝีมือกับนักพนันระดับล่างมากมาย ต่อมา อาซิงได้พบกับสาวสวยชื่อ หวีม่ง ที่เก่งกาจเรื่องศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก และตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง ปัญหาก็คือเธอเป็นลูกน้องของ อาฟ่ง เจ้าพ่อโคตรเซียนการพนัน
Lawyer Lawyer (1997) ลอว์เยอร์ ลอว์เยอร์
สตีเฟน โจวรับบทเป็นชาน มงกัต ทนายความชื่อดังชาวจีนที่ถูกฆ่าในสมัยราชวงศ์ชิง เขาต้องปกป้องลูกศิษย์ของเขา ฟุน ซึ่งถูกใส่ร้ายในข้อหาฆาตกรรมในฮ่องกง ในฐานะทนายความที่แย่ที่สุดเป็นอันดับสามในจีน เขาท้าทายระบบกฎหมายของอังกฤษโดยไม่มีหลักฐานในมือ และจัดการระบุตัวฆาตกรได้อย่างน่าขบขัน
เรื่องราวของสัตว์เลี้ยงต่างดาวจากฟากฟ้า ที่มาสร้างความปั่นป่วนให้กับกรรมกรคนยากกับลูกชายของเขาโดยเฉพาะ อาเถี่ย (โจวซิงฉือ) คือกรรมกรไส้แห้งที่ทำงานหาเช้ากินค่ำเพื่อเสี่ยวตี้ (ซูเจี๋ยว) ลูกชายสุดที่รัก เสี่ยวตี้นั้นไม่สามารถเข้ากับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้เพราะเขาใส่แต่เสื้อผ้าเก่าๆ และไม่มีของเล่นที่กำลังฮิตเหมือนคนอื่น