ดูหนัง Talk to Me (2023) จับ มือ ผี เมื่อกลุ่มเพื่อนได้ค้นพบวิธีปลุกวิญญาณด้วยการใช้มือของซากศพ พวกเขาและเธอจึงเสพติดความตื่นเต้นนี้ จนกระทั่งคนหนึ่งในกลุ่มได้ไปไกลเกินกว่าที่ควร และปลดปล่อยพลังเหนือธรรมชาติอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
Danny Philippou Michael Philippou ⭐ จดอ. JUST ดู IT. 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แม้แต่เรื่องลี้ลับซ่อนอันตรายก็สามารถกลายเป็นความสนุกของวัยรุ่น คือการสำรวจอำนาจของ “มืออาถรรพ์” ที่ผู้ใดจับมันแล้วลั่นวาจาว่า “พูดกับฉัน” จะสามารถติดต่อสื่อสารกับ “ผี” แน่นอนว่าความ “คึกคะนอง” ไม่เคยจบลงด้วย Happy Ending นี่คือรถไฟเหาะแห่่งความกลัวที่จะพาทุกคนไปสัมผัสความสยองอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนนับตั้งแต่ Jordan Peele และ Ari Aster การมาถึงของคู่แฝดยูทูบเบอร์ Danny & Michael Philippou แห่งช่องสายปั่นอย่าง RackaRacka อาจเป็นการเปิดตัว “สุดยอดผู้กำกับสายสยอง” คนใหม่แห่งยุคก็เป็นได้ ประสบการณ์อันโชคโชนในการทำหนังสั้นอัดแน่นด้วยสตันท์ของคู่แฝด ทำให้ไม่มุมไหน ชวนให้เรารู้สึกว่านี่เป็น “หนังเรื่องแรก” ช็อตดูเพอร์เฟกต์ วิชวลคมกริบ กำกับการแสดงถึงอารมณ์ หรือแม้กระทั่งการตัดต่อล้วนเต็มไปด้วยไอเดียสดใหม่ นี่คือการดูดหนังที่ทำให้เรารู้สึกขวัญผวา แต่ก็กระปรี้กระเปร่าในขณะเดียวกัน ส่วนที่แข็งแรงเป็นพิเศษของ คือบทภาพยนตร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมตีความได้หลากหลาย “ดูหนังเรื่องนี้ได้หลากหลายมุมมอง” มองเป็นหนังสยองขวัญเอาสนุก หนังก็สามารถมอบประสบการณ์หลอนจนตัวเกร็งกับ “ฉากผีเข้า” ที่คาดเดาอะไรไม่ได้ แถมไม่ได้สักแต่จะอัด Jump Scare ให้เราตกใจ พวกเขาค่อย ๆ ล่อคนดูให้ติดกับดักในความมืด ก่อนจะช็อคเราด้วยความผวาแบบหนีไม่พ้น แกล้มด้วยความรุนแรงที่ใช้ไม่บ่อยแต่ได้ผลกระทบติดตาทุกครั้งที่เลือดสาดหากมองในเชิงความเป็น Elevated Horror (หนังสยองที่เน้นมุมมองเชิงเปรียบเทียบกับบริบทสังคม) ก็ไม่ได้มีแค่มิติเดียว มุมหนึ่งหนังกำลังพูดถึงสังคมยุคใหม่ที่ผู้คนเริ่มไม่พูดไม่จาตัดขาดกันด้วยความรู้สึกที่อัดภายใน ไม่กล้าเปิดอกพูดกันต่อหน้าจนทำให้ความสัมพันธ์รอบตัวนั้นแย่ลง การสื่อสารถูกแทนที่ด้วย Social Media หรือซ้ำร้ายมันกลายเป็น “มืออาถรรพ์” แทนที่จะคุยกันตรง ๆ ดันไปคุยผ่านผีที่ไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่า “มาดีหรือมาร้าย” ประเด็นนี้นำพาไป สู่ ดราม่าที่หนักแน่นเข้าใจหัวอกของตัวละคร เธอและเขาไม่ได้ดูเป็นแค่ “ตัวละครโง่” ชอบหาเรื่องใส่ตัว แต่ปมในใจต่างหากที่บังหนทางสว่างเอาไว้ แต่มุมมองที่เราสนใจพิเศษ คือเปรียบเปรยให้ “มืออาถรรพ์” คือสิ่งเสพย์ติดรูปแบบใหม่ ถึงหนังจะมีการทำพิธีกรรมอัญเชิญวิญญาณ แต่ภาพที่ปรากฏบนจอแทบไม่ต่างจากการละเล่นของวัยรุ่นที่คึกคะนอง “ทุกคนรู้ดีว่ามันอันตรายเข้าขั้นถึงตาย” แต่ความอันตรายนี่แหละมันช่างเย้ายวนใจ เพราะในช่วงเวลาเล็ก ๆ ที่ได้ลองสัมผัส มันคือโลกใบใหม่ ความรู้สึกที่มากกว่า และอารมณ์มากมายที่ได้ปลดแอก นิด ๆ หน่อยอาจไม่เป็นไร.. แต่ถ้า “เลยป้าย” เมื่อไหร่ไม่เคยมีใครได้กลับมาเหมือนเดิม มิตินี้ทำให้ขวัญผวามากกว่าเรื่องผีสาง เพราะ “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” หากเราไม่สามารถแยกได้ว่าอะไรจริงหรือหลอก ชีวิตก็ไม่ต่างจากแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่เพียงแค่การกำกับที่เข้าขั้นเพอร์เฟกต์ Sophie Wilde (รับบท Mia) ได้มอบหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของปี 2023 ผ่านบทบาทวัยรุ่นสาวใจแหลก แววตาของคนที่สับสนหลงทาง สะกดเราให้หลงตามเธอไปในทุกสถานการณ์ ทั้งตอนที่เป็นคนปกติ หรือตอนถูกผีสิงร่างกลายเป็นบางสิ่งเกินจะอธิบาย ส่วนที่ว้าวไม่แพ้กันคือเหล่านักแสดงสมทบไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือใหญ่ ทุกตัวละครดูเป็นคนจริง ๆ ตอบโต้สื่อสารกับแบบคนสมัยใหม่จริง ๆ ทุกคนช่วยให้โลกของ ออกมาสมจริงมีลมหายใจและความตายซ่อนอยู่ในเงามืด บรรยากาศแสนมาคุถูกถ่ายทอดผ่านนักแสดงเด็กอย่าง Joe Bird (รับบท Riley) หนุ่มน้อยน้องคนเล็กที่ต้องรับบทหนักในทุกด้าน ทั้งการถูกกดทับโดยครอบครัว ไปจนถึงตำแหน่ง “คนซวย” โดนผีเล่นงาน ใบ้ว่า “ฉากในห้องน้ำ” จะเป็นหนึ่งในภาพติดตาทุกคนที่ตีตั๋วใครดูแล้วไม่อินคงได้แต่บอกว่า “เสียใจด้วย” เพราะสำหรับเรานี่คือหนังสยองขวัญที่ลงตัวสุดทุกกระเบียดนิ้วนับตั้งแต่ Hereditary หนังสื่อสารกับเราในทุกมิติและทำเราว้าวกับเทคนิคการนำเสนอมากมายที่คู่แฝด Philippou ปล่อยของออกมาให้เราทึ่ง และคุณพระคุณเจ้านี่คือหนึ่งในหนังที่มีตอนจบยอดเยี่ยมที่สุด กลมที่สุด สวยที่สุด ถูกที่สุด ในบรรดาหนังสยองขวัญยุคใหม่มากมายที่พยายามสร้างสิ่งใหม่ ไม่เพียงสร้าง “มาตรฐานใหม่ของหนังสยองวัยรุ่น”แต่ยังเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญ.. ไม่สิ!“หนึ่งในหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปี 2023” ⭐ All in Movie 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว เป็นหนังสยองขวัญประจำปีนี้ที่ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์มากพอสมควรในแนวทางของมัน สำหรับเราอาจจะยังไม่ได้รู้สึกว่าน่ากลัวมาก อาจมีตามขนบสูตรของหนังไปบ้าง แต่หนังก็บรรยากาศองค์รวมได้แปลกใหม่และแตกต่างจากหนังสยองขวัญที่ผ่านมา มีความไม่น่าไว้วางใจ ความอึดอัด ความระทึกที่อบอวลไปตลอดทั้งเรื่อง ชอบกลิ่นของหนังที่ดูมีความโหดและรุนแรงทั้งในแง่ของกายภาพและทางอารมณ์ แต่เอาจริงพอมองเป็นหนังผี มันก็เป็นหนังที่ผีหลอกของจริง 5555 ชอบมากที่หนังไม่ได้เน้นหลอกแบบ jump scare แต่กลับสร้างบรรยากาศชวนหลอน เน้นขับเคลื่อนไปด้วยมิติของตัวละครควบคู่ไปกับความสยงอขวัญของหนัง อีกทั้งคอนเซ็ปต์หนังก็ใช้ได้เวิร์คและคุ้มมาก โดยเฉพาะกับช่วงท้ายและตอนจบที่ผูกเข้ากับคอนเซ็ปต์และเรื่องราวได้อย่างกลืนไปในเนื้อเดียว สามารถสร้างความตราตรึงได้ แม้หนังจะจบไปแล้วก็ตาม (ซึ่งก็อยากเห็นภาคต่อเลยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป)สิ่งนึงที่ชอบมากคือความรู้สึกอันหนักหนาสาหัสที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละครนางเอก ทั้งประเด้นการสูญเสียคนใกล้ชิด การที่เห็นคนรอบตัวบาดเจ็บเพราะตัวเธอเอง หรือการเลิกกับแฟนที่เสมือนว่าหนังพูดถึงภาวะของคนเป็นซึมเศร้าที่ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่โศกเศร้า เสียใจ ความรู้สึกผิด การจมปรักอยู่กับอดีต ทุกสิ่งอย่างที่มันถาโถมเข้ามามันเลยน่าเศร้ามากเลยจนนำไปสู่การที่สุดท้ายแล้วคนในโลกความจริงอาจรู้สึกว่าพึ่งพาไม่ได้ จึงต้องอาศัยมือสื่อวิญญาณเพื่อคุยกับวิญญาณ คล้ายว่าตัวละครกำลังตามหาพื้นที่ที่สบายใจแบบที่คนบนโลกไม่สามารถให้ได้ มวลอารมณ์ของหนังเลยมีความอึดอัดและหนักอึ้งอย่างมาก มอบมิติตัวละครได้ครบ อีกทั้งมันก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่หาได้ยากจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นนักแสดง
Sophie Wilde โซฟี ไวลด์
Alexandra Jensen อเล็กซานดรา เจนเซ่น
Joe Bird โจ เบิร์ด
Otis Dhanji โอติส ดานจิผู้กำกับ
รีวิว Talk to Me (2023) จับ มือ ผี