ดูหนัง The Banker (2020)
ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง เปิดแผนลับสุดชาญฉลาดแห่งการต่อสู้เพื่อ “อเมริกันดรีม” และความเท่าเทียมในช่วงปี 1960s ของสองผู้ประกอบการ (Anthony Mackie และ Samuel L. Jackson) ในปี 1954 เบอร์นาร์ด การ์เร็ตต์ต้องการเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แต่กลับต้องเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติซึ่งทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หลังจากบังเอิญพบกับโจ มอร์ริส เจ้าของคลับผู้มั่งคั่ง เขาก็โน้มน้าวโจให้ร่วมลงทุนกับเขา พวกเขาช่วยกันโน้มน้าวแมตต์ สไตเนอร์ ชายผิวขาว ให้แสร้งทำเป็นหน้าด้านของบริษัทในการประชุมเพื่ออำนวยความสะดวกในการขาย ในที่สุด พวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของลอสแองเจลิส โดยทั้งสองสอนแมตต์เกี่ยวกับพื้นฐานของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งสามคนได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์จำนวนหนึ่งในลอสแองเจลิสและผสานรวมย่านที่แยกกันอยู่ก่อนหน้านี้เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการขายและให้เช่าแก่ครอบครัวผิวสี หลังจากประสบความสำเร็จนี้ เขาจึงมุ่งเป้าไปที่ธนาคารในท้องถิ่นในบ้านเกิดของเขาในรัฐเท็กซัสเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับผู้อยู่อาศัยที่เป็นคนผิวสี การปฏิบัติของธนาคารที่เหยียดเชื้อชาติทำให้คนผิวสีไม่สามารถกู้เงินเพื่อธุรกิจขนาดเล็กและเป็นเจ้าของบ้านได้ โจคัดค้านแนวคิดนี้ในตอนแรกแต่ในที่สุดก็ยอมแพ้และทั้งสามคนก็ย้ายไปเท็กซัส
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Anthony Mackie แอนโธนี่ แม็คคี่

Nicholas Hoult

Nia Long

ผู้กำกับ : George Nolfi
รีวิว The Banker (2020)
playinone
เป็นหนังที่เล่าถึงการปฏิวัติความเท่าเทียมกันในการยกระดับชีวิตคนผิวสีที่มีการเหยียดสีผิว โดยเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนที่ Bernard ยังเป็นเด็กซึ่งเป็นช่วงปี 1939 เป็นยุคที่คนผิวสีถูกจำกัดสิทธิ์มากมาย ทั้งเรื่องของอาชีพ และการใช้ชีวิตนอกบ้าน ซึ่งนั่นน่าจะเป็นแรงผลักดันให้ Bernard อยากรู้ว่าคนขาวเขาหาเงินกันยังไง ถึงแม้หนังจะกระโดดข้ามชีวิตจากช่วงวัยเด็กมาถึงตอนที่ Bernard มีครอบครัวเลยก็ตาม แต่ก็ยังทำให้หนังเรื่องนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่แทนที่จะเป็นสองชั่วโมงที่อาจจะมีช่วงหน้าเบื่อชวนหลับ แต่กลับเป็นสองชั่วโมงที่สนุกและน่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ และถึงแม้ว่าเนื้อหาหนังส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับของกับการทำธุรกิจ การเงินและการลงทุนก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ชมที่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องเหล่านั้นรู้สึกเบื่อหน่าย หรือมึนงงจนไม่อยากดูต่อ
หากจะว่าไปถ้าเทียบกับหนังเหยียดสีผิวเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ยังถือได้ว่ามุมมองเหล่านั้นใน ยังเบามาก เราอาจไม่ได้เห็นภาพการดูถูก กดขี่ คนผิวสีในหนังเรื่องนี้มากนัก เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การทำธุรกิจ การต่อรอง การวางแผน ที่จะเป็นเจ้าของอสังหาฯ ที่คนขาวยึดครองอยู่ได้อย่างไร ในหนังอาจจะดูเหมือนว่า Bernard ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนรอบตัวแบบง่ายๆ แต่ในความเป็นจริง อาจเพราะทุกคนที่ให้การสนับสนุน Bernard มองเห็นคุณค่าและความเป็นเพชรในตัวของเขา จึงให้ความรู้สึกไว้วางใจพร้อมที่จะสนับสนุนเขาอยู่เสมอ ซึ่งโดยส่วนตัวผมรู้สึกชอบมุมมองในการทำธุรกิจของทั้ง Bernard และ Joe ทั้งคู่อาจจะมีนิสัยที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือความฝันที่อยากจะช่วยเหลือคนผิวสี ที่ถูกกีดกันโอกาสจากคนผิวขาว ให้ได้มีโอกาสเท่าเทียมกัน และเข้าถึงคำว่า All American Dream*