ดูหนัง The Batman (2022) เดอะ แบทแมน
มหาเศรษฐีผู้หยิ่งผยอง บรูซ เวย์น ในช่วง 2 ปีแห่งการย่องเดินตามท้องถนนในร่างแบทแมน (โรเบิร์ต แพททินสัน) เอาชนะความกลัวและเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรมทั้งหลาย จนบรูซ เวย์นถลำตัวเข้าสู่เงามืดแห่งก็อตแธม ซิตี้ โดยมีสหายที่วางใจได้เพียงไม่กี่คนอย่างอัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ (แอนดี้ เซอร์คิส), เจมส์ กอร์ดอน (เจฟฟรีย์ ไรท์) ท่ามกลางกลุ่มผู้ทุจริตที่เลื่องชื่อของเมือง ศาลเตี้ยผู้โดดเดี่ยวต้องออกโรงแก้แค้นเพียงลำพังท่ามกลางประชาชนที่อยู่เคียงข้างเขา ในปีที่สองของการต่อสู้กับอาชญากรรมของแบทแมน เขาได้สำรวจการคอรัปชันที่เกิดขึ้นภายในเมืองก็อตแธมและมันเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขาได้อย่างไรและเขาได้เผชิญหน้ากับฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อว่า ริดเลอร์
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Robert Pattinson โรเบิร์ต แพตตินสัน
โซอี คราวิตซ์
พอล เดโน
ผู้กำกับ : แมตต์ รีฟส์
รีวิว The Batman (2022) เดอะ แบทแมน
entertainment
แบทแมนใช้เวลานานหน่อยกว่าจะกลับมา แต่แบทแมนก็กลับมา และหนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 45 นาที กว่าสามชั่วโมง เรียกได้ว่าโคตรนานเลย ในความคิดเห็นของผู้เขียน นี้คือแบทแมนเวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยดูเลย
เมื่อคนร้ายพูดว่า ฉันจะนำความวุ่นวายมาสู่เมืองนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือความดุดัน ความโกรธ และความรุนแรงที่ปรากฏและฉายชัดในสายตาและสีหน้าของโรเบิร์ต แพททินสันในบทของบรูซ เวยน์ ซึ่งฉบับโนแลน ไม่มีแบบนี้ ฉบับโนแลนจะเป็นแบบ ฉันจะกำจัดแกออกจากเมืองเองด้วยท่าทางนิ่งๆแบบซูเปอร์ฮีโร่สไตล์ comics มากกว่า และเพราะหนังเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวนและการตามหาความจริง ความลุ้นของหนังจึงไม่ใช่การกำจัดหรือปราบเหล่าร้าย แต่เป็นการโค่นล้มระบบทั้งระบบอันเป็นต้นเหตุให้เกิดคนชั่วร้ายลงมา
ภาพ เสียง และธีมเพลงเปิดตัว ต้องขอบอกว่าดีสุดๆและเอาออกจากหัวไม่ได้จริงๆหลังดูจบ หนังจึงมีความสนุกแบบซูเปอร์ฮีโร่สำหรับผู้ใหญ่ หรือเด็กที่โตแล้ว ไม่เหมาะกับคนที่ชอบหนังฮีโร่ที่เน้นไปที่ฉากแอคชัน ฉากบู๊ ฉากปราบเหล่าร้าย หรือการที่ฮีโร่ปรากฏตัวออกมาแล้วตื่นเต้นดีใจ
beartai
สิ่งที่ต้องชื่นชมแมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ในฐานะผู้กำกับเลยก็คือความแน่วแน่ในการเสนอให้หนังแบทแมนฉบับนี้กลายเป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน และการนำตัวละครที่คนดูคุ้นชื่อคุ้นหูตามที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นมาเดินวนเวียนในก็อตแธมฉบับชื้นแฉะที่สุดเวอร์ชันหนึ่งก็ทำให้ภาพแฟนตาซีของหนังฮีโรค่อย ๆ ถูกชะล้างแล้วแทนที่ด้วยกลิ่นคาวเลือดและปริศนามรณะที่เชื้อเชิญคนดูให้ค่อย ๆ คลายปมทีละเปลาะไปกับบรูซ เวย์น
ซึ่งบทที่รีฟส์ได้ร่วมเขียนกับปีเตอร์ เครก (Peter Craig) ก็แสดงให้เห็นว่า รีฟส์และเครกไม่เพียงต้องการสร้างให้บรูซ เวย์นเป็นแค่ร่างทรงของแบทแมนเท่านั้น ตรงกันข้ามหัวใจของเรื่องคือบรูซ เวย์นและเรื่องราวในตระกูลเวย์นเองก็กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ให้คำตอบว่าทำไมก็อตแธมถึงกลายเป็นเมืองที่พระเจ้าหันหลังได้ขนาดนี้และที่สำคัญมันยังคงหัวใจของเมืองก็อตแธมที่ว่าเมืองที่คอรัปชันกัดกินมันจะสร้างฆาตกรขึ้นมา
และจุดที่หนังเด่นมาก ๆ คือการเพิ่มความสมจริงเข้าไปในเรื่องราวโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างแบทแมนกับตำรวจที่ไม่สู้ดีนัก และมันก็ดันมีเหตุผลรองรับซะด้วยว่าถ้าหากมีศาลเตี้ยอย่างแบทแมนแล้ว ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายอย่างพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นเพียงอาชีพที่มีไว้ประดับให้เมืองดูมีความปลอดภัยแต่ทว่าก็ดันเกิดเหตุฆาตกรรมและกลิ่นอายความกังฉินของคนในเครื่องแบบก็ส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมเพื่อต่อสู้กับระบบขึ้น