ดูหนัง Transformers One (2024) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 1
เรื่องราวต้นกำเนิดของ โอไรออน แพ็กซ์ (ออพติมัส ไพรม์) และ ดี-16 (เมกะทรอน) ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ตั้งแต่แรกเริ่มที่พวกเขาพบกัน การร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่จนกลายมาเป็นเพื่อนซี้ที่ผูกพันกันมาเหมือนพี่น้อง และสุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูคู่อาฆาต ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าไซเบอร์ทรอนไปตลอดกาล
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Chris Hemsworth
Brian Tyree Henry
Scarlett Johansson
Keegan-Michael Key
ผู้กำกับ : Josh Cooley
รีวิว
ekka_eak
[CR] [#Review] Transformer One – จากเพื่อนรักสู่สงครามจักรวาล ขีดจำกัดที่หนังคนแสดงทำไม่ได้ถูกก้าวข้ามทั้งหมด
เชื่อว่าคนที่ดูหนัง Transformer ที่ผ่านมาทั้ง 7 ภาค บางคนก็เริ่มจะเบื่อๆ กับหนังหุ่นยนต์เรื่องนี้กันไปบ้างแล้ว แต่ด้วยความที่ยังเป็นแฟนของเหล่าหุ่นยนต์เหล่านี้อยู่ ผมก็เชื่ออีกแหละว่าพอมีภาคใหม่ออกมาฉาย ก็ต้องซื้อตั๋วไปดูกันอย่างแน่นอน กับเรื่องนี้หนังมาแนวใหม่ เป็น Animation 100% แบบที่ผมไม่ได้คิดว่ามันจะดี เพียงแต่เนื้อเรื่องมันน่าสนใจตรงที่ มันคือการพาเราย้อนกลับไปถึงเรื่องราวก่อนที่จะเกิดความแตกแยกกันของสองเพื่อนรัก Optimus Prime และ Megatron
🚛🚛🚛
หนังพาย้อนกลับไป เมื่อเหล่า Cybertron เกิดมาโดยไม่มีเฟืองกลายร่าง Orion Pax และ D-16 คู่หูเพื่อนรักที่มีความทะเยอทะยาน ได้รับรูถึงเรื่องราวเบื้องหลังของผู้นำอย่าง Sentinial Prime ที่ไม่ขาวสะอาดอย่างที่คิด ทำให้ทีมทั้ง 4 คือ Orion Pax, D-16, B-127, และ Elita-1 ต้องรวมทีมขึ้นมาต่อต้าน แต่กลับมีบางสิ่งที่ทำให้ D-16 กลายเป็นคนบ้าคลั่ง และแตกหักกันกับ Orion Pax จนเกิดเป็นสงครามจักรวาลในภาคต่อๆ มา
🚛🚛🚛
ช่วงต้นเรื่องหนังเล่าออกมาเป็นแนวผจญภัยของสองหุ่นเพื่อนซี๊ ซึ่งผมดูช่วงแรกก็คิดในใจว่า เอาแล้ว…มันจะกลายเป็นหนังเด็กไปสำหรับเรารึเปล่า เพราะถ้าเป็นเรื่องการผจญภัยวัยหนุ่มของสองหุ่น มันจะเหมือนผมนั่งดูการ์ตูนขบวนการซุปเปอร์ทรัคอยู่ แต่พอหนังเริ่มกล่าวถึงเรื่องของเหลา่อัศวิน Prime ที่สูญหายไป และทีมทั้ง 4 ต้องออกไปตามหาความจริง หนังก็สนุกขึ้นเป็นทวีคูณ
🚛🚛🚛
ในภาคนี้หนังพาเราไปรู้จักตัวละครหลักอย่าง Orion Pax กับ D-16 ก่อนทีจะกลายมาเป็น Optimus Prime กับ Megatron แบบลึกมากขึ้น เรารู้จักกับตัวละครสองตัวนี้ในหลายมิติ รวมไปถึงตัวละครไฮไลท์อย่างเจ้า B-127 หรือ Bumblebee ซึ่งหนังเรื่องนี้จะทำให้เราตกหลุมรักตัวละครมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราจะเห็นที่มาที่ไปและการเปลี่ยนแปลงและเติบโตของตัวละครเหล่านี้อย่างเป็น step ที่เราจะเห็นได้อย่างละเอียด
🚛🚛🚛
สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังมันดูสนุกมากๆ นั่นคือขีดจำกัดหลายๆ อย่างที่หนังคนแสดงทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดีหรือไม่เนียนตา พอกลายมาเป็นอนิเมชั่นแล้ว ขีดจำกัดเหล่านั้นมันโดนปัดตกไปหมด อย่างสิ่งที่เห็นชัดๆ คือ ตอนเป็นหนังคนแสดง การกลายร่างของเหล่าหุ่นยนต์มันจะดูแบบเร็วๆ งงๆ โป๊งเป๊ง แล้วมันจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอกลายมาเป็นอนิเมชั่น ทำไมการกลายร่างมันดูเนียนตากว่าเยอะเลย หรือแม้แต่ฉากต่อสู้กันระหว่างเพื่อนรัก มันก็ดูเนียนตาและดูสนุกมากๆ
🚛🚛🚛
แล้วเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้มันถูกกลั่นกรองบทหนังมาอย่างดีมาก กลายเป็นว่าหนังมีบทสรุปที่ดีมาก แและทำให้คนที่ดูจนจบจะกลับมารักหนัง transformer อีกครั้งหลังจากที่อาจจะเบื่อไปแล้วกับหลายๆ ภาคที่ผ่านมา ซึ่งจะบอกว่ามันคือหนัง transformer ที่สนุกแทบจะที่สุดในแฟรนส์ชายส์นี้เลยก็ว่าได้ อยากให้ลองดูกันครับ
เสพติดดูหนัง
Movie Review
• Transformers One
• ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 1
(2024)
– ไร้การสปอยเนื้อหาสำคัญ –
กลับมาอีกครั้งสำหรับจักรวาล Transformers ที่คราวนี้พาเรากลับสู่จุดเริ่มต้นของเหล่าหุ่นยนต์ที่เราคุ้นเคย โดยมาในรูปแบบ Animation ผ่านวิสัยทัศน์ของ “Josh Cooley” ที่โด่งดังในวงการ Animation คุณภาพมาหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านกำกับอย่าง Toy Story 4 หรือเขียนบทให้กับ Inside Out มาแล้ว แน่นอนว่าการกลับมาของเขาในจักรวาลใหม่ จะต้องมีอะไรน่าสนใจบ้างแหละครับ
.
เรื่องราวจะพาเราไปสำรวจบนดาวไซเบอร์ตรอน เรื่มต้นตั้งแต่การสร้างอาณานิคม ให้เหล่าหุ่นยนต์ที่ไม่สามารถแปลงร่างได้ ทำงานเหมืองเพื่อขุดเจาะเอาสารพิษออกจากอาณานิคม และ “โอเรี่ยน แพ็กซ์” กับ “ดี-16” ที่เป็นเพื่อนซี้กัน พยายามหาทางพิสูจน์ตัวเอง ว่าสามารถมีศักยภาพที่มากกว่าการเป็นแรงงานเหมืองทั่วไป โอเรี่ยน แพ็กซ์มุ่งมั่นในการตามหามวลพลังบางสิ่ง จากสงครามยุคของไพรม์ แต่เรื่องราวดันบานปลาย พาไปสู่การต่อสู้สุดเดือดที่มีเรื่องของมิตรภาพเป็นเดิมพันด้วย
.
ดูจบคือโคตรทัชใจเลยยยย อิ่มเอมมากกก จนไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเสียน้ำตาให้กับหนังหุ่นยนต์ เรื่องราวในคราวนี้มันพาเราไปค้นพบที่มาที่ไปในดาวของพวกเขาจริง ๆ และภายใต้เรื่องราวมันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและหัวใจมาก ๆ ที่ก็ยังสอดแทรกประเด็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งการพิสูจน์ตัวเอง มิตรภาพ จนไปถึงการเมืองการปกครอง และการรับมือความเจ็บปวด ที่หากเรารับมือจากมุมมองความรู้สึกโกรธแค้น มันจะพาเราไปสู่การกระทำอะไรที่มีแต่เรื่องเจ็บปวดทับซ้อนมากกว่าเดิม
.
และในหลาย ๆ ซีนแอ็คชันคือสนุกโคตร มูฟเมนต์ Element ฉูดฉาด คือโคตรแพรวพราว เพราะหนังดีไซน์ Visualization เมืองต่าง ๆ ออกมาได้น่าสนใจไปหมด คือดู #IMAX แล้วฟินตาฉ่ำจริง ๆ! มันเต็มอิ่มจริง แม้จะเป็นประเด็นที่ง่าย ๆ และทั่วไป แต่ทุกอย่างหลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างมีพลัง มันเลยทัชใจกับผู้ชมได้ทุกคนจริง ๆ ใครที่กำลังคิดว่า “เห็นเป็นฉบับ Animation แล้วคิดว่าสำหรับเด็ก” คิดผิด! เพราะมันเป็นหนังสำหรับทุกคนได้ครับ ไปดูกันนะ 26 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ พร้อมระบบ IMAX, 4DX และ Dolby Atmos
.
.
“มีฉาก Mid-Credit และ Post-Credit ด้วยนะ”
.
Score : 9/10
Admin Minho
Marvel Universe Lover Thailand
[ Review ] TRANSFORMERS ONE [ 8/10 ]
นี่คือภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ที่ได้รับคะแนนเปิดตัวสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และยกให้เป็นอีก 1 ในภาพยนตร์อนิเมชันที่ดีที่สุดในปี 2024
.
.
.
นี่คือเรื่องราวที่จะทำให้คนทั่วโลก คนทั่วไปที่นอกเหนือจากแฟน Transformers ได้รู้จักที่มาที่ไปของชาว Cybertron เพราะหนังเรื่องผ่านมาก็ได้แต่ฟังเป็นเรื่องเล่า ว่าเมื่อก่อนเขารักกันดี จนแตกหักเป็น 2 ฝ่าย
ภาคนี้เราจะได้เห็นถึงต้นกำเนิดความสัมพันธ์ของ Orion Pax และ D-16 ก่อนที่จะกลายมาเป็น Optimus Prime และ Megatron ในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ดั่งที่น้อง เพื่อนเเท้เพื่อนตาย ยอมโดนโยมตายแทนกันได้ และเนื้อหาเหล่านี้ ล้วนเป็น pattern ต้นกำเนิด Transformers ในเกือบทุกๆเวอร์ชั่น
เป็น Transformers ที่ไม่มีคน ไม่มีการไล่ล่าอพยพจำเจ หรือซ่อนตัวแต่เป็นต้นกำเนิดก่อนเกิดสงครามไซเบอตรอน แค่นี้ก็น่าสนใจละครับเพราะเราก็ไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อนในฉบับจอเงิน ถึงเเม้ว่าจะไม่ได้ไปเชื่อมโยงกับภาคไหนๆ เป็นจักรวาลของตัวเองเเละเป็นอนิเมชั้นก็ตาม
และเราจะได้เห็นการเติบโตของเขาเสียที จาก Orion Pax สู่ Optimus Prime ว่าเขาเหมาะสมคู่ควรจะเป็นผู้นำขนาดไหน
***ไม่เหมือนหนังทุกภาคที่ผ่านว่าที่มาถึงก็ตีตรา Optimus เป็นหัวหน้าทีมอยู่แล้ว แล้วก็มายืนพ่นคำคมเห่ยๆ พูดเนิ้บๆ สู้ก็เหมือนจะเก่ง แต่ก็รอมร่อตลอด เหมือนเปนตัวเอก แต่ถูกบทนำโดน Bumble Bee หรือคนอื่นๆ (Mirage ภาคล่าสุด) มาเอาซีนไป เลยทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันจะเป็นตัวเอกหรือเหมาะสมกับผู้นำเสียเท่าไหร่ นอกจากจะเป็นตัวละครตีตราตัวละคร Iconic ของเเบรนด์ Transformers เฉยๆ ซึ่ง
กับ Transformers One นั้น ทำได้ครับ Orion Pax เท่มากจริงๆ ภาคนี้คือ เรารู้จักเขาจริงๆ รู้นิสัยเขา รู้ทัศนคติเขา เราถึงอินเราถึงเชื่ออย่างเต็มใจ ความบ้าบิ่น ความหวังความเชื่อที่เขามุ่งมั่นเหนือใครๆ ความมุทะลุของเขา เป็นความกล้าที่ไม่มีใครเคยมีมาก่อน ทำให้เขานั้นโคตรพระเอกสู่ Optimus Prime ผู้นำเหล่า Autobots ในที่สุด
ที่ชอบมากๆคือความสัมพันธ์ของตัวละครเอก เล่าควบคู่ไปกับ World Setup ของจักรวาลนี้ ที่มาที่ไป เรื่องเล่า ตำนานเป็นมาอย่างไร ใครคือมิตร ใครคือโดยหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวในจักรวาลของมันเอง ไม่เกี่ยวกับหนังภาคอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องไปดูอะไรมาก่อน และนี่เป็นเรื่องราวเริ่มต้น ของสงคราม Cybertron ที่กำลังจะมาถึงในอนาคต
การที่หนังโรงมาในรูปเเบบ 3D Animation เต็มๆ แบบนี้เราอาจจะสบประมาทกับมันไปมาก เพราะมันก็มาจากอนิเมชั่นมาก่อน
ถ้าถามว่าเจ๋งสุดเลยไหม ??? ผมให้เจ๋งสุดชอบสุด แต่ก็ยังแพ้ในสร้างปรากฏการณ์แบบ First Impression ให้ว้าวได้แบบ Transformers ภารแรกของ Michael Bay เพราะอันนั้นเหมือนเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้โลกรู้จัก Transformers
แต่ Transformers One มันมีสิ่งที่หนังภาคอื่นไม่มี เล่าในสิ่งที่หนังภาคอื่นไม่ได้เล่า มันเลยสนุกและน่าสนใจ และทำให้เราเข้าใจมันยิ่งขึ้นแบบไม่ซ้ำซาก ก็คือ ยกให้เป็นอนิเมชั่นยอดเยี่ยมแห่งปีอีกเรื่องของปีนี้เลย
มี Mid-Credit Scene 1 ฉาก , Post-Credit 1 ฉาก = 2 ฉาก