ดูหนัง Umma (2022) อุมมา
เรื่องราวของอแมนด้า และลูกสาวของเธอ ซึ่งใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในฟาร์มอเมริกัน จนกระทั่งเถ้าของมารดาที่เหินห่างมาถึงจากเกาหลี อแมนด้าก็ถูกหลอกหลอน ด้วยความกลัวว่าแม่อาจเข้าครอบงำเธอ อแมนดา ผู้ย้ายถิ่นฐานจากเกาหลี และคริสซี่ “อามานี” ลูกสาวที่เรียนที่บ้าน อาศัยอยู่ในฟาร์มในชนบท เลี้ยงผึ้ง ขายน้ำผึ้ง เลี้ยงไก่ และใช้ชีวิตโดยปราศจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เนื่องจากอแมนดามี “อาการแพ้” ต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า เธอเสียใจเมื่อรู้ว่าคริสซี่ต้องการออกจากฟาร์มเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัย เมื่ออแมนดาได้รับเถ้ากระดูกของแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตหรือ ที่เรียกว่า อุมมา ในกระเป๋าเดินทางจากลุงของเธอ มิสเตอร์คัง ที่ไปเยี่ยมเธอจากเกาหลีเธอต้องเผชิญกับความทรงจำในวัยเด็กที่ถูกทารุณกรรม อุมมาถูกทิ้งให้เลี้ยงดูอแมนดาเพียงลำพังในสหรัฐอเมริกา เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้และรายล้อมไปด้วยคนที่ไม่เข้าใจหรือปฏิบัติตามวัฒนธรรมของเธอ พบว่าอแมนดาแต่งเรื่อง “แพ้” อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาหลังจากถูกอุมมาช็อตไฟฟ้าหลายครั้งเพื่อเป็นการลงโทษ เมื่ออแมนดาตัดสัมพันธ์กับแม่ เธอก็ตัดสัมพันธ์กับมรดกทางวัฒนธรรมเกาหลีของเธอทั้งหมด รวมถึงการสละนามสกุลของเธอด้วย ขณะที่คุณคังจากไป เขาตำหนิอแมนดาที่ละทิ้งแม่และมรดกทางวัฒนธรรมของตัวเองและไม่สอนภาษาและวัฒนธรรมเกาหลีให้คริสซี่ ไม่นานหลังจากที่อัฐิมาถึง วิญญาณชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อยึดร่างของอแมนดาเป็นของตนเอง เมื่อปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังจากอัฐิของแม่เธอถูกส่งมาให้ ก็เริ่มตั้งแต่ภาพนิมิตของวิญญาณชาวเกาหลีที่ถูกทรมาน (รวมถึงวิญญาณของอุมมา) ไปจนถึงการเผชิญหน้ากับคูมิโฮที่กำลังกินไก่ของเธอ อแมนดาเริ่มหวาดระแวงและหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นแม่ของตัวเอง ความกลัวนี้กลายเป็นจริงเมื่ออุมมาเข้าสิงร่างลูกสาวของเธอสำเร็จในขณะที่อแมนดาพยายามฝังอัฐิ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Sandra Oh แซนดรา โอห์

Dermot Mulroney

Fivel Stewart

ผู้กำกับ : Iris K. Shim
รีวิว
เอาจริงๆหนังน่ากลัวมากนะทั้งดนตรีประกอบแบบหลอนๆ ชวนสงสัยหวาดระแวง และ sound effect ที่สมจริงจนทุกอย่างดูน่ากลัว เรื่องราวมีการดำเนินเนื้อเรื่องด้วยการเล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ แต่ไม่น่าเบื่อเลย กลับรู้สึกน่าสนใจ ชวนติดตาม และอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเรื่องด้วย คุณภาพงานถือว่าออกมาดีเลยสำหรับหนังสยองขวัญที่ไม่ได้ใช้โทนสีมืดจนเกินไปแต่ก็ไม่ได้คุมโทนมากจนภาพออกมาต้องเป๊ะเว่อร์อะไรขนาดนั้น ทุกอย่างอยู่ในระดับพอดีๆ แต่สนุกมากๆ ตัวละครในเรื่องมีไม่มากด้วยแต่กลับคุมโทนทุกอย่างของเส้นเรื่องได้อยู่หมัด ต้องชื่นชมผลงานการแสดงของแซนดรา โอห์ และน้องไฟเวลเลย ตอนที่ดูหนังจบแอบน้ำตาซึมด้วย
โดยรวมหนังออกมาสนุก สนุกโคตรๆ ไม่มีฉากตุ้งแช่เลย ตอนผีออมม่าโผล่ออกมาก็ทำออกมาได้โคตรหลอน โคตรน่ากลัวเลย โดยจะเน้นการถ่ายโดยการใช้กล้องหลายๆตัวมาถ่ายนักแสดงก่อนจะค่อยๆตัดภาพออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงความรู้สึกและเลนมองของตัวละครในเรื่องดี
เพราะแอบรู้สึก Related กับชีวิตตัวเองนิดหนึ่ง มันก็เป็นธรรมดาของครอบครัวเอเชียที่พ่อแม่จะติดลูกมากและหวงลูกมาก ไม่ยอมให้ลูกออกไปข้างนอก ไม่ยอมให้ลูกออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อลูกด้วยความเชื่อที่ว่าลูกของเราจะต้องอยู่กับเราตลอดทั้งชีวิต เอาจริงๆ ถ้าตัดเรื่องผีออก มันก็คือหนังเรื่องการต่อสู้กับความเชื่อของพ่อแม่ชาวเอเชียเลยนะที่จะปล่อยลูกไปหรือจะดูแลลูกด้วยความรักตามประเพณีดั้งเดิมที่ลูกๆของเราอาจจะอึดอัดได้
มันก็เป็นปกติของวัฒนธรรมเอเชียไม่เฉพาะแค่ประเทศเกาหลีอย่างเดียว ที่ต่อให้ลูกที่เราเลี้ยงมาโตแล้ว ทำงานแล้ว หรือแต่งงาน มีครอบครัวแล้ว เราก็คงยังมีความคิดและความเชื่อว่าลูกต้องอยู่กับเรา ลูกต้องดูแลเรา และลูกต้องอยู่ข้างๆเรา โดยรวมหนังมีพลอตเรื่องที่ดีเลย ดึงจุดเด่นของชีวิตและวัฒนธรรมชาวเอเชียออกมาได้ดีสมจริงจนน่าขนลุกและดูตลกร้ายด้วย เพราะแม้ว่าพ่อแม่จะให้กำเนิดชีวิตของเรา แต่ชีวิตของเราจะทำอะไรมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและทางเลือกของคนเป็นลูกแล้ว คนเป็นพ่อแม่แม้จะหวงและเป็นห่วงมากแค่ไหนก็ทำได้แค่มองและสนับสนุนแล้ว ส่วนตัวรู้สึกตกหลุมรักการแสดงของแซนดรา โอห์เลย เอาอยู่ทุกอารมณ์จริงๆ แม้หนังจะไม่ค่อยมีบทพูดหรือซีนอารมณ์มากนัก แบบหนึ่งวินาทีเปลี่ยนสีหน้าและสายตาได้ทันทีอะ สุดยอดจริงๆ นับถือเลย