รีวิว Venom The Last Dance (2024) เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ
beartai
‘Venom: The Last Dance’ ถือเป็นการกลับมาวาดลวดลายอีกครั้งของทอม ฮาร์ดี (Tom Hardy) ที่คราวนี้เขาพ่วงตำแหน่งผู้เขียนบท เพื่อหมายมั่นว่ามันจะเป็น Venom ภาคที่ดีที่สุด ให้สมกับที่ตนเคลมไว้ว่า คราวนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของเขากับเจ้าซิมบิโอตสีดำตนนี้
เรื่องราวของ ‘Venom: The Last Dance’ ดำเนินเรื่องหลังจาก ‘Venom: Let There Be Carnage’ และ ‘Spider-Man: No Way Home’ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เอ็ดดี้กับเวน่อม รู้ว่าตนสามารถท่องพหุจักรวาล ผ่านการรับรู้ของซิมบิโอตได้ โดยในช่วงท้ายของ ‘Venom: Let There Be Carnage’ พวกเขาได้หลุดมายังจักรวาล 616 (จักรวาล MCU) และพวกเขาก็ได้ใช้มันข้ามพหุจักรวาลกันเป็นว่าเล่นในช่วงต้นเรื่องของภาคนี้ ทว่าสิ่งนี้แหละ กลับเป็นการส่งสัญญาณให้แก่นัลล์ บิดาแห่งซิมบิโอต ชายผู้สามารถส่งปรสิต และเอเลียนข้ามมาทุกพหุจักรวาลได้รับรู้ว่าพวกเขามีตัวตน
ในภาคนี้หลังจากเอ็ดดี้ได้กลับมายังจักรวาลของตน เขาก็พบว่าตนยังคงต้องหนีการตามล่าจากตำรวจ อันเนื่องมาจากความเข้าใจผิดในเหตุการณ์ท้ายภาค ‘Venom: Let There Be Carnage’ อยู่ ทว่าในระหว่างที่เอ็ดดี้กำลังเดินทางไปยังกรุงนิวยอร์กเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์นั้น กลับมีหน่วยรบพิเศษที่มาตามล่าตัวเขา ซ้ำร้ายยังเจอกับเอเลียนฆ่าไม่ตาย ที่นัลล์ได้ส่งมาตามล่าต่ออีกทอด
สิ่งหนึ่งที่ชอบคือ Venom The Last Dance’ ได้เปิดเรื่องราวของนัลล์ บิดาผู้สร้างซิมบิโอตอย่างเป็นทางการ ผู้มาพร้อมเนื้อเรื่องที่สามารถอุดรอยรั่วเรื่องพหุจักรวาลได้ แม้บทบาทของนัลล์จะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าบอสตนนี้น่าเกรงขามขนาดไหน ซึ่งเป็นน้ำจิ้มในระดับที่เราเห็นเจ้าดาร์กไซด์ในภาพยนตร์ ‘Justice League’ (2017) กันเลยล่ะ
majorcineplex
อีกนิดหนึ่งก็กลายเป็นหนังคัลท์ไปแล้วสำหรับภาพยนตร์ปิดไตรภาค Venom: The Last Dance การเดินทางครั้งสุดท้ายของสองคู่หูที่ทำให้พวกเราลืมไปได้เลยว่าบทหนังจะเป็นอย่างไร เพราะแค่ไปดูพวกเขาโต้ตอบกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว จริง ๆ แล้วเส้นเรื่องของภาพยนตร์ภาคนี้ไม่มีอะไรมากเลย มันก็แค่ความพยายามในการหาวิธีใช้ชีวิตปกติของทั้งเวน่อมและเอ็ดดี้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถทำได้จึงต้องเผชิญหน้ากับจุดสุดท้ายของชีวิตที่ผูกโยงกับการชี้ชะตาของจักรวาล