ดูหนัง Wonder Woman (2017) วันเดอร์ วูแมน ก่อนที่เธอจะเป็น เธอคือไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งดินแดนอเมซอน (Amazon) เธอมุ่งมั่นกับการฝึก เพื่อเป็นสุดยอดนักรบที่ไม่มีใครล้มเธอได้ เธออาศัยอยู่บนหมู่เกาะ เธอมิสซิล่า (Themyscira) ที่สวยงามราวกับสวรรค์ แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไป เมื่อเครื่องบินรบของอเมริกา ตกบริเวณเกาะของเธอ ทำให้เธอได้พบกับ สตีฟ เทรเวอร์ (Steve Trevor) เธอได้ช่วยเหลือเขาจากการจมน้ำ หลังจากที่เธอได้พูดคุยกับ สตีฟ เทรเวอร์ ทำให้เธอได้รู้ว่า บนโลกนี้ยังมีสงครามอีกมากมาย ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางออกจากเกาะบ้านเกิด ออกเดินทางเพื่อยุติสงครามเหล่านั้น และในการเดินทางครั้งนี้ทำให้เธอเรียนรู้พลังที่แท้ของเธอ และโชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเธอ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Gal Gadot
Chris Pine
Robin Wright
Lucy Davis
ผู้กำกับ
Patty Jenkins
รีวิวหนัง Wonder Woman (2017) ดูหนังออนไลน์
เปรี้ยงปร้างแบบขีดสุด ชนิดที่สามารถกู้หน้าให้ซูเปอร์ฮีโร่ฝั่ง DC กลับมาเริงร่าและน่าติดตามอีกครั้ง หลังภาพยนตร์ 3 เรื่องแรกในจักรวาลขยายของดีซี (DC Extended Universe) นั่นมีฟีดแบคที่ไม่ปังเท่าที่ควร ดูได้จากรายรับที่ยังไม่ถึงขั้นโกยเงินแบบมหาศาล แถมหนังที่เข้าฉายในปีหลังๆก็มีคะแนนวิจารณ์อยู่ในระดับที่ไม่ค่อยจะดีนัก บวกกับปัญหาภายในที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เลยทำให้สถานการณ์ของค่ายดูร่อแร่ๆมาตลอด และก็มาถึงวันที่ฟ้าเปลี่ยนสี เมื่อค่ายหนังส่ง “Wonder Woman” หนังเดี่ยวของซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนเดียวในตอนนี้ของค่ายเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แม้จะยังไม่การันตีเรื่องรายรับเพราะตัวหนังเพิ่งได้ฤกษ์เข้าฉาย แต่เมื่อมาถึงตอนนี้จะพบว่า มันสร้างความมั่นใจให้ผู้ชมได้มากอยู่ จะเห็นได้จากกระแสนักวิจารณ์ไปที่ต่างพากันเทคะแนนและลงความเห็นไปในด้านบวกกันเยอะทีเดียว
.
โดยเหตุการณ์ของหนังทั้งหมดจะพูดถึงที่มาที่ไปก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์นามว่า “Wonder Woman” โดยหนังเริ่มไร่เรียงเรื่องราวตั้งแต่เธอยังเป็น “เจ้าหญิงไดอาน่า” แห่งชาวอะเมซอน ผู้ฝึกตนเป็นนักรบเพื่อหวังที่จะปราบ “เอเรียส” เทพเจ้าแห่งสงครามที่คอยบันดาลให้มนุษยชาติรบราฆ่าฟันกันเอง ซึ่งการเล่าเรื่องในลักษณะนี้เป็นจุดดีของหนังที่เหมือนเป็นการทำความรู้จักตัวละครและทำให้เราเห็นพัฒนาการทางด้านความคิดและสามารถของตัวละครมาตั้งแต่เด็กจนผ่านการฝึกฝนและออกสู่สนามรบจริง ส่วนนี้เองเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างตัวละครกับผู้ชมให้กลายเป็นทีมเดียวกันและเอาใจช่วยกันไปแบบเนียนๆ
.
นอกจากนี้ ความน่าสนใจของหนังอีกประเด็นหนึ่ง คือการท่ีหนังเลือกใช้เหตุการณ์จากสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นฉากหลังของเรื่อง ซึ่งแม้หนังลักษณะนี้จะมีความแฟนตาซีอยู่บ้าง แต่การนำเสนอของผู้สร้างสามารถทำได้เรียลและทำให้เชื่อสนิทถึงความมหัศจรรย์ของตัวนางเอกที่ไม่ได้ดูแปลกประหลาดหรือเข้าถึงยากเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ การครีเอตฉากสู้รบก็ทำออกมาได้สวยงามและดูมีพลังสุดๆ ภาพที่ถ่ายทำออกมาสวยราวกับจับวางแบบช็อตต่อช็อต ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างตัวละครของ “กาล กาดอท” ที่แรกเริ่มเดิมทีก็สวยและมีเสน่ห์มากอยู่แล้ว แต่หลังจากที่ได้ชม เราจะพบว่าเธอมีเสน่ห์และขึ้นจอมาก มันยิ่งทำให้คลั่งไคล้เธอมากขึ้นไปอีก ซึ่งจุดนี้ถือว่าทั้งตัวหนังและตัวนักแสดงต่างก็เอื้อประโยชน์ต่อกันได้ดี นับเป็นการแคสตัวละครที่เหมาะสมมากๆๆๆๆ ผมคอนเฟิร์ม
.
ในส่วนของความโดดเด่นอีกหนึ่งอย่างของหนังที่ผมประทับใจก็คือประเด็นคอมเมดี้ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ในระดับที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ที่สำคัญคือแต่ละฉากกุ๊กกิ๊กของสองพระนางนั้น สามารถสร้างเสน่ห์ให้กับหนังได้มาก จนผมเองก็อดจิ้นความน่ารักของทั้งคู่ไว้ไม่ไหว เผลอขำก๊าก อมยิ้ม และแอบจิกเบาะเบาๆอยู่หลายต่อหลายหน ในมุมของตัวร้าย หนังก็ทำภาพลักษณ์ออกมาได้น่าหวาดกลัว โดยเฉพาะตัว Dr.Poison ผู้ใส่หน้ากากกระเบื้องที่ให้อารมณ์ไม่น่าไว้ใจอยู่ตลอด (ตอนดูนี่คือกลัวนางมาก) พูดมาเยอะแล้ว เอาเป็นว่าในภาพรวมของหนังนั้นน่าประทับใจมากและเรียกศรัทธาจากแฟนๆดีซีกลับมาได้เยอะเลย และสิ้นปีนี้เราจะได้พบกับเธออีกครั้งในหนังรวมฮีโร่ของดีซีอย่าง “Justice League” ผมนี่รอชมเธอเลย… (คลั่งนางหนักมาก)
trueid
เป็นภาพยนตร์ฮีโร่สาวที่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นภาพยนตร์ที่จะมากอบกู้ชื่อเสียงของค่าย DC เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่มีการเล่าตั้งแต่จุดกำเนิด ไปถึงปัญหา และฉากแอ็กชันที่ขอบอกว่ามันส์ และลุ้นกันสุดๆ ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าค่ายนี้ทำหนังออกมาแนวๆ นี้ก่อนเรื่อยๆ ผมว่าน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่า เพราะมันคือการนำเสนอตัวละครต่างๆ ให้ผู้ชมได้รู้จัก และรู้สึกผูกพันก่อน แล้วจากนั้นค่อยๆ รวมฟอร์มฮีโร่เป็นหนังรวม เหมือนอย่างที่หนังเดี่ยวอย่าง ทำ แต่ก็อย่างที่ผลลัพธ์ออกมาให้เราได้เห็นกัน
ภาคนี้เป็นการปูเนื้อเรื่องให้กับคนที่ยังไม่รู้จักตัวละครนี้ได้รู้จักเธอ เธอคือเจ้าหญิงไดอาน่า (Diana) แห่งเกาะลึกลับอย่าง เกาะเทอมิสกีร่า ที่ซึ่งเกาะแห่งนี้จะมีแต่นักรบที่เป็นเพศหญิง และผู้คนส่วนใหญ่ที่นั่นก็ไม่ได้รู้จักเพศชายเท่าไหร่นัก ทำให้มีครั้งหนึ่งที่ Steve Trevor ทหารหนุ่มผู้หลงเข้าไปในเขตแดนของชาวอะเมซอนโดยบังเอิญ และได้เจอกับเจ้าหญิงไดอาน่า เหตุการณ์นั้นทำให้เธองุนงงกับสิ่งที่เธอเห็น เนื่องจากเธอไม่เคยพบเจอเพศชายมาก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอต้องออกผจญภัยเพื่อยับยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของเทพสงคราม แอรีส ที่ชาวโรมันเรียกว่า มาร์ส (Mars) กำลังปลุกปั่นทหารบนโลกเพื่อความต้องการของตน และเธอก็ต้องเดินทางเพื่อหยุดสิ่งเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมกับความสัมพันธ์ุที่มีต่อ Steve Trevor ที่เพิ่มมากขึ้น
ภาพยนตร์แอ็กชันอย่าง ภาคนี้ได้ใจผมไปอย่างมากทั้งเรื่องของบท, ฉากต่างๆ , Special effect มากมายที่มีทั้งหมดมันเข้ากัน ซึ่งโดยรวมแล้วเป็น 2 ชั่วโมงที่คุ้มมากๆ สำหรับแฟนๆ DC
ฉากประทับใจตรงไหนบ้าง?
เอาจริงๆ ก็หลายฉากนะ แต่จะเฉพาะเจาะจงเลยก็จะเป็นฉากต่อสู้เป็นส่วนใหญ่เลยที่คิดว่าเขาทำออกมาได้ดี ทั้งฉากสู้รบในสงครามที่ไดอาน่าต้องเผยตัวตนของเธอให้โลกรู้จัก และยิ่งโดยเฉพาะตอนท้ายๆ เรื่องที่มีการเน้นพลัง และการต่อสู้ของทั้งตัวไดอาน่ากับแอรีสเป็นอะไรที่ว้าวมาก และถ้าเพื่อนๆ ถามถึงฉากที่ไม่ประทับใจก็คงต้องตอบว่า “ไม่มี” เพราะมีหลายฉากมากที่ชอบ รวมทั้งฉากที่ดูได้เรื่อยๆ เพลินโดยไม่ได้เบื่อ
ความรู้สึกโดยรวมหลังดูนะครับ
ประทับใจครับ มีความหลากหลายในด้านอารมณ์การรับชมตั้งแต่ฉากระทึกบ้าง ฉากต่อสู้มันส์ๆ หลายฉาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ ถ้าถามเรื่องคะแนนสำหรับผู้เขียน และก็เป็นคนดูหนังทั่วๆ ไปก็ให้ไปเลย 10/10 นอกจากนี้ในเรื่องเราจะเห็นฉากสโลโมชันบ่อยมาก และมันก็เป็นอะไรที่ลงตัวกับทุกฉากบู้ที่เพิ่มลูกเล่นตัวนี้เข้าไปครับ หลายครั้งทำให้เราได้เห็นรายละเอียดอะไรเยอะขึ้นมาก