ดูหนัง X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต
“การรวมตัวต่อสู้กับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าเอ็กซ์-เม็น เพื่อหาทางเอาตัวรอดจากสายพันธุ์ที่มีอายุข้ามสองยุคสมัยในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: DAYS OF FUTURE PAST เหล่าตัวละครโปรดจากภาพยนตร์ไตรภาค “X-Men” ต้นฉบับกลับมาผนึกกำลังร่วมกับตัวเองในอดีตจาก “X-Men: First Class” ในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงอดีตเพื่อรักษาอนาคตของเราไว้ จากการปรึกษากันระหว่างกบดานในที่ปลอดภัย โลแกนอาสาตัวเองเพื่อกลับไปยังอดีตเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ก่อนที่มิสทีคหรือเรเวน (เจนนิเฟอร์ ลอวเรนซ์) จะสังหารโบลิวาร์ ทราสก์ (ปีเตอร์ ดิงเคลจ) ผู้ประดิษฐ์คิดค้นหุ่นเซนติเนล เพราะหลังจากเธอสังหารทราสก์ได้สำเร็จ เธอก็ถูกนำยีนไปสังเคราะห์เพื่อสร้างเซนติเนล โดยการดำเนินงานของสไตรค์เกอร์ (จอช เฮลแมน) ดังนั้นเมื่อหยุดมิสทีคไม่ให้สังหารทราสก์ได้ เซนติเนลก็จะถูกระงับการใช้งานไปด้วย คิตตี้จึงใช้พลังที่มีอยู่ของตัวเอง ดึงจิตของโลแกนกลับไปยังเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งห่างจากปีที่พวกเขากำลังมีปัญหาถึง 50 ปี
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
James McAvoy
Michael Fassbender
Jennifer Lawrence
ผู้กำกับ : ไบรอัน ซิงเกอร์
รีวิว X-Men 7 Days of Future Past (2014) X-เม็น สงครามวันพิฆาตกู้อนาคต
ขอบสหนัง
ในทีแรกตั้งใจจะรีวิวในวันที่ 22 พฤษภาคม เนื่องจากครบรอบ 6 ปี ที่หนังเรื่องนี้เข้าฉาย และมันคือ X-Men ที่มีความยาวมากถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง นับตั้งแต่แฟรนไชส์เรื่องนี้มีการสร้างมา มันเป็นงานที่นำเรื่องราวยุคเก่าและยุคใหม่มาปรับผสมผสานให้ลงตัว ผสมผสานกับฉากแอ็คชั่นและงาน Special Effect ที่งดงาม
การเดินทางของตัวละครจากอนาคตกลับไปยังอดีตมีเส้นเรื่องคือแก้ไขเหตุการณ์ความเลวร้ายความผิดพลาดเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นในโลกอนาคต โดยการปรุงแต่งเรื่องราว 2 ช่วงเวลาได้ลงตัว งานดีกว่าตอนที่พี่แกทำ X-men ภาคแรกและภาคสอง
.
ข้อดี
ชอบที่หนังมีความกลมกล่อมนำเส้นเรื่องอนาคตที่มนุษย์กลายพันธ์ชุดสุดท้ายกำลังสูญพันธ์มาผสมผสานกับการย้อนเวลาไปยังอดีตเพื่อยับยั้งเหตุการณ์เลวร้ายที่จะทำลายเหล่า Mutant
เนื้อหาของหนังเลยเข้มข้นทั้งในประเด็นความดราม่าของมนุษย์กลายพันธ์ุที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในเรื่องของเผ่าพันธ์ุตัวเอง ประเด็นหลักๆจึงอยู่ที่พาร์ทอดีต โดยที่ดูไม่สะเปะสะปะ ฉากแอ็คชั่นทำได้ดี เหมือนเอาใจแฟนหนังเรื่องนี้ชัด ได้เห็นการดีไซต์อะไรใหม่ๆ ดึงขีดความสามารถเฉพาะตัวออกมาเยอะ คือยอมรับเลยว่านี่เป็น X ที่ทำให้เรารู้สึกหวือหวามากสะใจเราเลยละ
.
นักแสดง
นี่เป็นการรวมตัวนักแสดง X-Men ที่เยอะแยะมากมายจากชุดเดิมของไบรอัน ซิงเกอร์ มาทีมจากผู้กำกับแมทธิว วอห์น แม้จะอยู่เส้นเรื่องคนละเวลา แต่เป็นการรวมตัวที่เยอะเหลือเกิน น้ำหนักส่วนใหญ่จะหนักไปทางแก๊งค์ First class เจมส์ แม็คอะวอย, ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, นิโคลัส ฮูลท์ โดยมี ฮิวจ์ แจ็คแมน เข้ามาเป็นอีก 1 เมนหลักของเรื่อง หลายๆคนรับส่งฝีมือออกมาได้อย่างล้นเหลือในบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ได้เห็นได้เข้าใจมิสทิคมากยิ่งขึ้น บทดราม่าและฉากแอ็คชั่นพวกเขาสอบผ่าน โดยที่ยอมรับว่าหนังสามารถเกลี่ยบทของนักแสดงนำทั้งหมดได้ลงตัวไม่มีใครกระโดด หรือเด่นเกินไป
.
ข้อเสีย
ผมไม่ชอบจังหวะจะโคนของหนังที่ให้ความรู้สึกยืดเยื้อ คือไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับอยากบิ้วอัพหนัง แต่ในความจริงแล้วไม่ไหวจริงๆ ควรปล่อยจังหวะรับส่งของตัวละครดีกว่า เพราะมันดูไม่เข้าท่าในความเห็นส่วนตัว
.
สรุป
ชอบการนำมนุษย์กลายพันธุ์ทุกรุ่นมารวมตัวเล่าเรื่องราวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน
อัดแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นทำได้น่าตื่นตาตื่นใจ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นงานที่ดีสุดในแฟรนไชส์เวอร์ชั่นฟ็อกซ์เลยก็ว่าได้
