ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: เพย์ตัน รีด (Peyton Reed)
นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังฮีโร่-รอมคอมที่สนุกและสร้างสรรค์
“Ant-Man and the Wasp” คือภาคต่อที่ทำได้ “ดีกว่า” ภาคแรกในหลายๆ ด้าน หนังโดดเด่นอย่างมากในการใช้พลัง “ย่อ-ขยาย” ส่วนได้อย่างสร้างสรรค์และน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งฉากไล่ล่ารถที่สามารถย่อส่วนได้, ตึกทั้งหลังที่ถูกทำให้กลายเป็นกระเป๋าเดินทาง, หรือแม้แต่ตู้ใส่เป็ด Pez ยักษ์!
หนังเต็มไปด้วยอารมณ์ขันที่เข้าถึงง่ายและเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะแก๊งเพื่อนซี้ของสก็อตต์ที่นำโดย หลุยส์ (รับบทโดย ไมเคิล เพ็นย่า) ที่กลับมาขโมยซีนด้วยลีลาการเล่าเรื่องสุดยืดยาวของเขาอีกครั้ง! เคมีระหว่าง พอล รัดด์ และ อีแวนเจไลน์ ลิลลี ในฐานะคู่หูฮีโร่ก็ทั้งน่ารักและลงตัว
นี่คือหนังมาร์เวลที่ดูแล้วรู้สึก “ดี” เป็นหนังที่มอบความบันเทิง, Ant man and the wasp เสียงหัวเราะ, และความอบอุ่นหัวใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 7.0/10
Rotten Tomatoes: 87% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
chiragrathod09
⭐ 7/10
!! อาจมีสปอยล์!!
Ant man and the wasp * เป็นภาคต่อที่น่ารื่นรมย์ที่ต่อยอดเสน่ห์และอารมณ์ขันของภาคก่อน ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานแนวซูเปอร์ฮีโร่เข้ากับสูตรหนังปล้นได้อย่างลงตัว สร้างสรรค์เป็นภาพยนตร์ผจญภัยที่ดำเนินเรื่องรวดเร็วและสนุกสนาน พอล รัดด์ และ เอแวนเจลีน ลิลลี่ กลับมารับบทสก็อตต์ แลง และ โฮป แวน ไดน์ ตามลำดับ ด้วยเคมีที่เข้ากันได้ดีบนหน้าจอที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและอารมณ์ขันให้กับภาพยนตร์ การแนะนำมิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ รับบทเจเน็ต แวน ไดน์ วอสป์ คนแรก เพิ่มมิติให้กับเรื่องราวและขยายจักรวาลของแอนท์-แมน การสำรวจอาณาจักรควอนตัมของภาพยนตร์นั้นน่าทึ่งมาก ด้วยสิ่งมีชีวิตที่เปี่ยมจินตนาการและภูมิประเทศที่ท้าทายความคิด ฉากแอ็กชั่นทั้งน่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ โดยใช้ความสามารถในการย่อและขยายของตัวละครอย่างสร้างสรรค์ องค์ประกอบการปล้นของเรื่องราวเพิ่มความซับซ้อนและความระทึกขวัญ ดึงดูดผู้ชมให้ติดตาม
ฉากแอ็กชั่นมีความคิดสร้างสรรค์และดึงดูดสายตา การใช้เทคโนโลยีที่ค่อยๆ ขยายขนาดและพัฒนาขึ้น ก่อให้เกิดแนวทางการต่อสู้ที่แปลกใหม่และทรงพลัง ไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปล้นที่เดิมพันสูงและการต่อสู้กับโกสต์ผู้ร้ายกาจนั้นทั้งน่าตื่นเต้นและระทึกขวัญ ฉากแอ็กชั่นผสมผสานเข้ากับองค์ประกอบตลกขบขันได้อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การรับชมที่สนุกสนานอย่างแท้จริง แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเท่ากับภาพยนตร์ Marvel เรื่องอื่นๆ แต่ก็ชดเชยด้วยการเน้นการพัฒนาตัวละครและอารมณ์ขัน นักแสดงสมทบอย่าง Luis ของ Michael Peña และ Hank Pym ของ Michael Douglas ล้วนมีส่วนช่วยเสริมเสน่ห์โดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ *Ant-Man and the Wasp* เป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนานและเบาสมอง หลีกหนีจากธีมที่หนักหน่วงของ MCU เป็นภาพยนตร์ที่ยกย่องพลังของการทำงานเป็นทีมและความสำคัญของครอบครัว ความสามารถของภาพยนตร์ในการสร้างสมดุลระหว่างเสียงหัวเราะและแอ็กชั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ
The_Man_XX7
⭐ 7/10
หลังจาก Avengers: Infinity War ผมกังวลว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นกับ Marvel ต่อจากนี้จะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ผมคิดผิด เพราะ Ant-Man และ Wasp ใช้สูตรสำเร็จเดียวกับ Ant-Man ภาคก่อน นั่นคือเป็นเรื่องราวเล็กๆ และเน้นครอบครัว อยู่ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ เนื้อเรื่องหลักคือ Janet Van Dym ภรรยาของ Hank Pym กำลังพยายามเอาตัวรอดจาก Quantam ขณะที่ Ant-Man ถูกกักบริเวณ เรื่องราวค่อนข้างเรียบง่ายและถูกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงดี องก์แรกค่อนข้างช้าแต่ก็ไม่น่าเบื่อ เพราะฉากต่างๆ ดำเนินไปตามตัวละคร และมีฉากแอ็กชั่นสนุกๆ โดยเฉพาะตอนที่มี Wasp เข้ามา องก์ที่สองค่อนข้างน่าเบื่อ จังหวะช้าลง ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น องก์ที่สามเร่งจังหวะขึ้น และฉากแอ็กชั่นส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ซึ่งถือเป็นส่วนที่ฉันชอบที่สุด ตัวร้ายหรือตัวร้ายของหนังเรื่อง Ghost ก็ไม่ได้แย่
แต่ก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ เธอมีเหตุผลที่จะแสดง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มอะไรสำคัญๆ ให้กับเนื้อเรื่อง นอกจากพลังพิเศษที่ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่ดี การแสดงของ Michael Douglas และ Pual Rudd เป็นตัวละครที่ดีที่สุดในหนัง เพราะพวกเขาจริงจังเมื่อจำเป็น และตลกเมื่อจำเป็น Wasp อย่างที่บอกไปก็ดูเท่ดี Ant man and the wasp เหมือนกับการแสดงของ Lilly Michelle Pfeiffer ทำได้ดีในบทบาทที่ได้รับ และมีเคมีที่ดีในฉากที่เธอแสดงกับ Michael Douglas Antman and the Wasp ตลกกว่าภาคแรก แต่แน่นอนว่ามันคือ Marvel นั่นแหละ แต่มีอารมณ์ขันแปลกๆ ที่ทำให้ฉากจริงจังหายไป แต่แน่นอนว่ามันคือ Marvel เช่นกัน ภาคนี้มีฉากแอ็คชั่นเยอะกว่าด้วย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ช่วง 40 นาทีสุดท้าย เพราะอย่างที่บอกไป ฉากที่สองค่อนข้างจะเนือยๆ และยืดเยื้อไปหน่อย สิ่งที่ได้จากทั้งหมดนี้ก็คือ Antman and the Wasp คล้ายกับ Back to the Future มันตลก มีเรื่องราวที่ซาบซึ้ง และเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ที่สนุกแบบธรรมดาๆ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังฮีโร่ที่มีอารมณ์ขัน เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Ant-Man (2015) มนุษย์มดมหากาฬ : ภาคแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
Guardians of the Galaxy (2014) รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล : แก๊งฮีโร่สุดเกรียนแห่งกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยความฮาและเพลงประกอบสุดไพเราะ
Shazam! (2019) ชาแซม! : เมื่อเด็กหนุ่มได้รับพลังให้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ร่างผู้ใหญ่!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน จะดูรู้เรื่องไหม?
A: เพื่ออรรถรสสูงสุด แนะนำให้ดู Ant-Man (2015) และ Captain America: Civil War (2016) มาก่อนครับ เพราะเนื้อเรื่องของภาคนี้ต่อเนื่องและอ้างอิงถึงเหตุการณ์ในสองเรื่องนั้นโดยตรง
Q: หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนของจักรวาล MCU?
A: เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้น “ก่อน” และ “ระหว่าง” เหตุการณ์ใน Avengers: Infinity War ครับ ซึ่งฉากท้ายเครดิต (Post-credit scene) ของเรื่องนี้จะเชื่อมโยงเข้ากับ Infinity War และ Endgame โดยตรงและสำคัญอย่างยิ่ง! ห้ามพลาดเด็ดขาด!
Q: จะมีภาคต่อหรือไม่?
A: มี ! ภาคที่สามในชื่อ “Ant-Man and the Wasp: Quantumania” ได้เข้าฉายไปแล้วในปี 2023 ซึ่งจะพาเราไปผจญภัยในมิติควอนตัมและเปิดตัววายร้ายคนสำคัญคนต่อไปของ MCU