ดูหนัง Catch Me If You Can (2002) จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง
หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่มอบ “ความบันเทิง” ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด… หยุดหาได้เลยครับ เพราะ Catch Me If You Can คือคำตอบสุดท้าย! นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่หยิบเอาชีวิตจริงของสุดยอดนักต้มตุ๋นอัจฉริยะ มาเล่าใหม่ในรูปแบบของหนัง “วิ่งไล่จับ” ที่ทั้งสนุก, ตลก, และน่าประทับใจ วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่จะทำให้คุณทึ่งไปกับความกล้าบ้าบิ่นของมนุษย์ และยิ้มไปกับมิตรภาพที่น่ารักที่สุดระหว่างผู้ร้ายกับผู้รักษากฎหมาย
เรื่องย่อ
หนังสร้างจากเรื่องจริงของ แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เด็กหนุ่มวัย 16 ปีที่ชีวิตต้องพลิกผันหลังจากการหย่าร้างของพ่อแม่ เขาวิ่งหนีออกจากบ้านพร้อมกับพรสวรรค์ในการโกหก, ความกล้า, และเช็คเปล่าเพียงไม่กี่ใบ ด้วยเสน่ห์และมันสมองอันเฉียบแหลม แฟรงค์ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการ “ปลอมตัว” เป็นในสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน! เขาปลอมเป็นนักบินของสายการบิน Pan Am, ปลอมเป็นแพทย์ในโรงพยาบาล, และปลอมเป็นทนายความในสำนักงานอัยการ… ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะอายุครบ 19 ปี! ระหว่างนั้น เขาก็ได้ปลอมแปลงเช็คมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ไปทั่วประเทศ
การต้มตุ๋นที่ยิ่งใหญ่และอุกอาจของเขาไปเข้าตา คาร์ล แฮนแรตตี้ (ทอม แฮงค์ส) เจ้าหน้าที่ FBI แผนกคดีฉ้อโกงสุดเก๋า ผู้ยึดมั่นในกฎระเบียบและไม่เคยปล่อยให้อาชญากรคนไหนลอยนวล การวิ่งไล่จับข้ามทวีปที่เต็มไปด้วยไหวพริบและชั้นเชิงระหว่างจอมโจรหนุ่มกับเจ้าหน้าที่ FBI รุ่นใหญ่จึงเริ่มต้นขึ้น แต่ยิ่งไล่ล่ากันนานเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับค่อยๆ เปลี่ยนจากผู้ล่ากับเหยื่อ กลายเป็นมิตรภาพต่างวัยที่น่าประหลาดใจ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ: การรวมตัวของ ‘ที่สุด’
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) รับบทเป็น แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์: การแสดงที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์, ความฉลาด, และความเปราะบางของวัยรุ่นที่หลงทาง
ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) รับบทเป็น คาร์ล แฮนแรตตี้: ในบทเจ้าหน้าที่ FBI ผู้ดูตึงเครียดแต่จิตใจดี
คริสโตเฟอร์ วอลเคน (Christopher Walken) รับบทเป็น แฟรงค์ อบาเนล ซีเนียร์: พ่อของแฟรงค์ ซึ่งบทบาทนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ผู้กำกับ: สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ปรมาจารย์แห่งฮอลลีวูดที่หันมากำกับหนังแนวนี้ได้อย่างสนุกสนานและมีสไตล์ที่สุด
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
Catch Me If You Can คือความบันเทิงที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องหนึ่ง
พล็อตเรื่องที่น่าทึ่ง: การที่หนังสร้างจากเรื่องจริงคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างน่าสนใจขึ้นเป็นสิบเท่า ความสามารถในการเอาตัวรอดและการปลอมตัวของแฟรงค์นั้นเหลือเชื่อจนเราต้องคอยเอาใจช่วย
เคมีของนักแสดง: ความสัมพันธ์แบบ “แมวไล่จับหนู” ระหว่างตัวละครของดิคาปริโอและแฮงค์สคือหัวใจของเรื่อง มันทั้งตลก, น่ารัก, และอบอุ่นหัวใจอย่างไม่น่าเชื่อ
สไตล์ย้อนยุคที่ยอดเยี่ยม: หนังจำลองบรรยากาศยุค 60s ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเสื้อผ้า, รถยนต์, และที่สำคัญคือ “เพลงประกอบ” แนวแจ๊สสุดเท่จากฝีมือของ จอห์น วิลเลียมส์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปจริงๆ
IMDb: ให้คะแนนสูงถึง 8.1/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์อย่างท่วมท้นถึง 96% (Certified Fresh) ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ
rbverhoef
⭐ 6/10
ระหว่างที่ดู Catch Me If You Can ผมสนุกมากจนยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มนั้นถูกขัดจังหวะด้วยเสียงหัวเราะ หนังเล่าเรื่องราวของแฟรงค์ ดับเบิลยู. อะบิกเนล จูเนียร์ ที่ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่แสร้งทำเป็นครู หลังจากที่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เขาก็หนีไปและแสร้งทำเป็นนักบินผู้ช่วย หมอ หรือทนายความ วิธีการแสดงของเขานั้นทั้งตลกและยอดเยี่ยม ผมไม่ค่อยชอบลีโอนาร์โด ดิคาปริโอที่รับบทแฟรงค์เท่าไหร่ แต่ในหนังเรื่องนี้เขาแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาแสดงได้ยอดเยี่ยมมาก ทอม แฮงค์ส รับบทเป็นคาร์ล เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่กำลังตามล่าเขา และแฮงค์สก็แสดงได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย เรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ผมไม่รู้ว่ามันจริงแค่ไหน แต่การได้ดูผู้ชายคนนี้ สิ่งที่ผมอยากเห็นคือเขาเล่นมุกตลกๆ ของเขามากขึ้น ฉากที่เขาแสร้งทำเป็นครูนั้นยอดเยี่ยมมาก ถ้าคุณอยากดูหนังตลกๆ ที่ไม่หนักเกินไป เรื่องนี้จะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน
rosscinema
⭐ 7/10
ตอนแรกผมคิดว่าจะได้ดูหนังเบาๆ จากผู้กำกับฝีมือเยี่ยม แต่กลับได้ดูผลงานที่น่าประทับใจอีกเรื่องของสตีเวน สปีลเบิร์กแทน มีบางอย่างที่โดดเด่น และแน่นอนว่าการแสดงก็ยอดเยี่ยมมาก เลโอนาร์โด ดิคาปริโอ น่าเชื่อถือในบทบาทผู้ชายที่สามารถโน้มน้าวใจคนให้เชื่อว่าเขาเป็นคนอื่น ดิคาปริโอมีเสน่ห์และนุ่มนวลมากเมื่อเห็นตัวละครของเขาพูดจาโอ้อวดกับสาวๆ ทอม แฮงค์ส ในบทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอทำให้ผมนึกถึงตัวละครที่เย้ยหยันใน “A League of Their Own” และเพียงแค่การปรากฏตัวของเขาก็ทำให้หนังเรื่องนี้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก เป็นสัญลักษณ์ของดาราหนังที่ยอดเยี่ยม และคริสโตเฟอร์ วอล์คเคน ก็แสดงได้ดีที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพนักแสดงที่น่าสนใจอยู่แล้ว ฉากสุดท้ายที่เขาคุยกับลูกชายในร้านอาหารนั้นซาบซึ้งใจมาก สะท้อนถึงพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ของวอล์คเคน คุณคงเข้าใจว่าทำไมดิคาปริโอถึงชื่นชมและรักพ่อของเขา วอล์คเคนถ่ายทอดอารมณ์เหล่านี้ออกมาได้และทำให้ผู้ชมรู้สึกได้อย่างแม่นยำ
ผมเชียร์เขาให้ถึงรางวัลออสการ์แน่นอน อีกสิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือภาพที่สวยงามของ Janusz Kaminski ศิลปินตัวจริงผู้เปี่ยมไปด้วยฝีมือการถ่ายภาพ และเคยร่วมงานกับภาพยนตร์ของ Spielberg มาแล้วหลายเรื่อง ภาพหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือแสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างห้องครัวของ Walken ชวนให้ขบคิด และแน่นอนว่าเนื่องจากเป็นภาพยนตร์ของ Spielberg จึงมีความเฉพาะตัวมาก Spielberg สนใจตัวละคร Frank Abagnale เพราะตอนเด็กๆ เขามาจากครอบครัวที่แตกแยกและอยากเป็นคนอื่น Spielberg มักจะแอบเข้าไปในสตูดิโอและบอกคนอื่นว่าเขาทำงานที่นั่น นอกจากนี้ Frank Abagnale Jr. ตัวจริงยังปรากฏตัวในบทบาทตำรวจฝรั่งเศสอีกด้วย ผลงานสร้างที่ยอดเยี่ยม การแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ที่เฉียบคม ผู้ชมดูเหมือนจะลืมไปว่าแท้จริงแล้วนี่คือภาพยนตร์เกี่ยวกับการแตกแยกของครอบครัวและผลที่ตามมา นี่คือภาพยนตร์ส่วนตัวของ Spielberg อย่างแท้จริง และเป็นภาพยนตร์ที่ดีมาก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังอาชญากรรมที่ทั้งฉลาดและมีสไตล์ เราขอแนะนำ:
Ocean’s Eleven (2001) : หนังรวมดาวปล้นสุดเท่ ที่เต็มไปด้วยแผนการที่ซับซ้อนและมีสไตล์ไม่แพ้กัน
The Wolf of Wall Street (2013) : การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของดิคาปริโอในบทบาทอาชญากรที่มีตัวตนอยู่จริง แต่มีโทนที่ดาร์กและดิบเถื่อนกว่ามาก
American Hustle (2013) : หนังรวมดาวนักต้มตุ๋นที่มีบรรยากาศย้อนยุคและเต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง 100% เลยเหรอ?
A: สร้างจากเรื่องจริงของ แฟรงค์ อบาเนล จูเนียร์ ครับ! แต่เหมือนกับหนังชีวประวัติทั่วไป มีการดัดแปลงและเสริมแต่งบางเหตุการณ์เพื่ออรรถรสในการเล่าเรื่อง แต่แกนหลักของการปลอมตัวเป็นนักบิน, หมอ, และทนายความนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาชญากรรมที่จริงจังหรือเปล่า?
A: ไม่ใช่เลยครับ! นี่คือหนังแนว “Crime Caper” ที่มีโทนเรื่องเบาสมอง, สนุกสนาน, และตลกขบขัน ไม่ได้มีความรุนแรงหรือดาร์ก หนังเฉลิมฉลองความฉลาดในการต้มตุ๋นมากกว่าตัวอาชญากรรมเอง
Q: ทำไมความสัมพันธ์ระหว่าง แฟรงค์ กับ คาร์ล ถึงน่าสนใจ?
A: เพราะมันคือความสัมพันธ์ที่สร้างจากความนับถือซึ่งกันและกันครับ คาร์ลคือคนเดียวที่ฉลาดพอจะไล่ตามแฟรงค์ทัน และแฟรงค์ก็คืออาชญากรคนเดียวที่ฉลาดพอจะท้าทายคาร์ลได้ นอกจากนี้ คาร์ลยังกลายเป็นเหมือนพ่ออีกคนของแฟรงค์ ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งซึ้งและน่ารัก
บทสรุป: Catch Me If You Can คือภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ เป็นผลงานที่พิสูจน์ให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของผู้กำกับและนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการ มันทั้งตลก, ฉลาด, มีสไตล์, และเต็มไปด้วยหัวใจ นี่คือหนังที่คุณสามารถดูซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ และเป็นหนัง “ต้องดู” ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าบางครั้งเรื่องจริงก็สนุกกว่านิยาย