ดูหนัง Oceans Eleven (2001) 11 คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง
หากคุณกำลังมองหาหนังที่ “เท่” ตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย… หยุดหาได้เลยครับ เพราะ Ocean’s Eleven คือคำตอบ! นี่คือภาพยนตร์ที่ผู้กำกับรางวัลออสการ์ สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก ได้รวบรวมเอามหกรรมซูเปอร์สตาร์แห่งฮอลลีวูดมาไว้ในเรื่องเดียว และสร้างสรรค์หนังแนว Heist (หนังปล้น) ที่ทั้งฉลาด, ตลก, มีสไตล์, และดูสนุกซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นเหมือนค็อกเทลชั้นเลิศ ที่ผสมทุกอย่างออกมาได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว
เรื่องย่อ 11 คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง
แดนนี่ โอเชี่ยน (จอร์จ คลูนีย์) จอมโจรมาดเนี้ยบเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เขาก็พร้อมแล้วสำหรับแผนการปล้นครั้งใหม่ที่ทั้งบ้าบิ่นและท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์! เป้าหมายของเขาคือ ตู้นิรภัยกลางของคาสิโน 3 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส (เบลลาจิโอ, มิราจ, และเอ็มจีเอ็ม แกรนด์) ซึ่งทั้งหมดเป็นของ เทอร์รี่ เบเนดิกต์ (แอนดี้ การ์เซีย) Oceans Eleven นักธุรกิจผู้ไร้ความปรานีและ… เป็นแฟนใหม่ของ เทสส์ (จูเลีย โรเบิร์ตส์) อดีตภรรยาสุดที่รักของแดนนี่เอง
ภารกิจนี้ไม่ใช่แค่การปล้นเพื่อเงิน แต่ยังเป็นการทวงคืนหัวใจอีกด้วย! แดนนี่จึงเริ่มรวบรวม “ทีมเฉพาะกิจ” 11 คนที่แต่ละคนคือสุดยอดในด้านของตัวเอง นำโดย รัสต้ี้ ไรอัน (แบรด พิตต์) คู่หูจอมกะล่อน, ไลนัส คอลด์เวลล์ (แมตต์ เดมอน) นักล้วงกระเป๋ามือฉมัง, ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด, แฮกเกอร์, นักกายกรรม, และอีกมากมาย พวกเขาต้องร่วมมือกันวางแผนที่ซับซ้อนที่สุดเพื่อเจาะระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่มีใครเคยเจาะได้มาก่อน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำ: มหกรรมรวมพลซูเปอร์สตาร์
นี่คือจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง!
ผู้กำกับ
- สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก (Steven Soderbergh) ผู้กำกับรางวัลออสการ์จากเรื่อง Traffic เขานำสไตล์การกำกับที่เป็นเอกลักษณ์, การตัดต่อที่ฉับไว, และการใช้สีที่โดดเด่น มายกระดับให้หนังปล้นเรื่องนี้กลายเป็นงานศิลปะสุดคูล
โปสเตอร์หนัง

รีวิวและบทวิเคราะห์
Ocean’s Eleven คือความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ 100% มันคือหนังที่ทำให้คุณรู้สึก “ฉลาด” และ “เท่” ไปพร้อมกับตัวละคร
- บทภาพยนตร์ที่เฉียบคม: บทสนทนาในเรื่องนี้ทั้งตลก, กวน, และฉลาดหลักแหลม การโต้ตอบกันระหว่างตัวละคร โดยเฉพาะคู่ของคลูนีย์และพิตต์ คือความสุขของคนดูอย่างแท้จริง
- สไตล์ที่เหนือชั้น: ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดง, เพลงประกอบแนวแจ๊สสุดกรูฟโดย เดวิด โฮล์มส์, ไปจนถึงการกำกับภาพ ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ถูกออกแบบมาให้ “เท่” แบบไร้ที่ติ
- แผนการปล้นที่น่าทึ่ง: แม้จะดูซับซ้อน แต่หนังก็สามารถอธิบายแผนการและทำให้เราติดตามการปล้นไปได้อย่างลุ้นระทึกและสนุกสนาน
- IMDb: ให้คะแนนสูงถึง 7.7/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์อย่างท่วมท้นถึง 83% (Certified Fresh) ซึ่งเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและความสนุกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
หมื่นทิพ
⭐ 8/10
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะได้ดูแล้วครับ หนังระดับนี้ไม่น่าพลาดอยู่แล้วแดนนี่ โอเชี่ยน (George Clooney) ได้รวมสมัครพรรคพวกเพื่อทำการปล้นเงินจากบ่อนใหญ่ 3 แห่งในลาส เวกัส นี่แหละครับเนื้อเรื่องคร่าวๆ คือ หนังมันส์ครับ ดูเพลินตลอด แค่ดาราก็คุ้มแล้วมากันตั้งกี่รายล่ะ Oceans Eleven และแต่ละคนยังเกลี่ยบทได้ค่อนข้างลงล็อคด้วย ก็ต้องขอชมพี่ Steven Soderbergh ผู้กำกับล่ะครับ ทำหน้าที่ได้ยอดมากๆ หนังมีมุขเยอะครับ มุมกล้องดี ดนตรีต้องเรียกว่าโคตรแห่งความยอด จังหวะสามารถผสมความตื่นเต้น, กวนตีนและเร่าร้อนแบบ Jazz ไว้ได้อย่างน่าปรบมือ งานด้านอื่นๆ ก็โคตรจะโปรทั้งสิ้น การเดินเรื่องก็โคตรจะลื่นไหล ไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย ฉากต่อฉากอย่างลงตัวแบบที่หาได้ยากเหลือเกินครับ คือการต่อฉากแต่ละฉากนั้นมันต่อเนื่องทางอารมณ์จริงๆ
ยอมรับครับว่า หนังแบบนี้ผมเขียนถึงลำบากไม่น้อย มันอาจไม่ได้มีแง่คิดลึกล้ำ แต่สามารถดูเอามันส์และเอาเพลินได้อย่างยอดเยี่ยม และยังเป็นหนังประเภทเหมาะสำหรับทุกเพศด้วย แต่อาจไม่ทุกวัย เพราะเด็กบางคนอาจจะรับมุขในหนังไม่ทันหรือไม่เก็ทก็ได้ แต่เหมาะกับทุกเพศจริงๆ ครับ พวกผู้ชายก็ดูไป กับเนื้อหาสนุกๆ ฉากโจรกรรมสุดมันส์ และความเท่ห์อีกกองสองกอง ส่วนสาวๆ ก็ดูดาราหนุ่มๆ สุดสมาร์ทกันไป เนื้อเรื่องน่าติดตาม สนุกเร้าใจ แฝงอารมณ์ขันกำลังเหมาะ ผมก็ไม่ทราบจะพูดอะไรต่อครับ หนังมันแนวๆ อยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ตลาดด้วย สรุปว่าไม่ควรพลาดกันล่ะครับ
MissCzarChasm
⭐ 8/10
ตอนที่ผมเห็นตัวอย่างหนัง Oceans 11 ครั้งแรก ผมทึ่งมากที่พวกเขาสามารถดึงนักแสดงแบบนั้นมาใส่ในหนังได้ George Clooney, Brad Pitt, Julia Roberts และ Matt Damon ถือเป็นบุคคลระดับท็อปของฮอลลีวูด และนักแสดงที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่าง Don Cheadle, Bernie Mac, Scott Caan และ Casey Affleck ก็สร้างความประทับใจอย่างมากในหนังเรื่องอื่นๆ ที่พวกเขาเคยแสดง ทุกครั้งที่นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังมาเล่นหนัง ผมมักจะอยากรู้ว่าพวกเขาสร้างหนังดีจริงหรือแค่เอาหนังมารวมกันเพื่อทำกำไรแล้วได้หนังห่วยๆ จากนั้นผมก็ได้ยินว่า Steven Soderbiergh เป็นผู้กำกับ ตอนนั้นผมติดหนึบเลยเพราะเขากำกับหนังเรื่องโปรดเรื่องหนึ่งของผม Traffic หลังจากรอคอยมานานเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้คืนนั้น คืนเปิดงานกับเพื่อนๆ ประมาณ 12 คน และโรงภาพยนตร์ที่คนแน่น หลังจากดูหนังจบ ผมต้องบอกว่า… หนังเรื่องนี้สนุก ตื่นเต้น และฉลาดมากจริงๆ คำพูดไม่สามารถบรรยายได้ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้มากแค่ไหน นักแสดงเหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลกำไร พวกเขาทำเพื่อสร้างหนังที่น่าจดจำ ผมไม่อยากเปิดเผยเนื้อเรื่องใดๆ เพราะมันดีเกินไป แต่ผมจะบอกสิ่งที่ผมชอบและสิ่งที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
สิ่งที่ผมชอบ: จอร์จ คลูนีย์ และแบรด พิตต์ เป็นตัวแทนของเสน่ห์ ผมเป็นผู้ชายแท้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองคนนี้มีสไตล์และเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ไม่ต้องพูดถึงพรสวรรค์เลย ผมชื่นชอบจอร์จ คลูนีย์ในฐานะนักแสดงมาโดยตลอด และทุกครั้งที่เขาแสดง เขาก็ยิ่งเป็นนักแสดงที่เก่งขึ้น ผมเองก็เป็นแฟนตัวยงของแบรด พิตต์เช่นกัน เขาดูเหมือนผู้ชายธรรมดาๆ ในหนังของเขา เป็นธรรมชาติและสบายๆ มาก เขาเหมาะกับบทบาทนี้จริงๆ นักแสดงสมทบทุกคนล้วนดีหมด การได้เห็นจูเลีย โรเบิร์ตส์เล่นบทสมทบในตอนแรกนั้นดูแปลกๆ แต่ถึงแม้ในไม่กี่ฉากที่เธอเล่น คุณก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีพรสวรรค์ ฉากที่เธอเล่นคู่กับคลูนีย์นั้นประเมินค่าไม่ได้ บทสนทนาในฉากเหล่านี้ทั้งเฉียบคมและเฉียบคม ดอน ชีเดิลและเบอร์นี แม็คก็สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมเช่นกัน ดอน ชีเดิลกำลังกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงคนโปรดของฉัน และเห็นได้ชัดว่าแม็คกำลังไปได้สวยกับหนังเรื่องนี้และรายการทีวียอดฮิตของเขาเอง แมตต์ เดมอนเล่นได้ดีในบทบาทนี้ และเคมีของเขากับคลูนีย์ในองก์สุดท้ายทำให้เรามีช่วงเวลาที่ทั้งสนุกและฮาอย่างแท้จริง แอนดี้ การ์เซียเป็นตัวร้ายที่นุ่มนวลในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันไม่ได้เห็นเขาเล่นบ่อยนักในช่วงหลัง ซึ่งน่าเสียดายเพราะเขาเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม สก็อตต์ คาน และเคซีย์ แอฟเฟล็กเป็นคู่หูที่เข้ากันได้ดี พวกเขาสร้างช่วงเวลาที่ตลกขบขันที่สุดในหนังเรื่องนี้ และนั่นก็เป็นเพราะเคมีที่แหวกแนวของพวกเขา
โซเดอร์เบิร์กเป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยม เขามีความหลงใหลในภาพยนตร์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้เขาสร้างภาพยนตร์ที่ดีได้ เขารู้ทุกเทคนิคของภาพยนตร์และนำเทคนิคเหล่านั้นมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง ดนตรีก็ช่วยเสริมความละเอียดอ่อนให้กับภาพยนตร์เช่นกัน ภาพต่างๆ ประกอบกับซาวด์แทร็กสุดฮิปทำให้ภาพยนตร์มีความโดดเด่น Oceans Eleven โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากสุดท้าย โซเดอร์เบิร์กอาจเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในยุคนี้ เวกัสเป็นฉากหลังที่น่าสนใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เวกัสเปรียบเสมือนตัวละครอีกตัวหนึ่งในภาพยนตร์ และด้วยผลงานของโซเดอร์เบิร์กในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาจึงทำให้ภาพยนตร์มีชีวิตชีวาขึ้นมา ครึ่งหลังของภาพยนตร์นั้นยอดเยี่ยมมาก มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เรื่องราวก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงรักหนังปล้นที่มีสไตล์และทีมเวิร์คยอดเยี่ยม เราขอแนะนำ:
- Ocean’s Twelve (2004) & Ocean’s Thirteen (2007): ภาคต่ออย่างเป็นทางการที่รวมทีมเดิมกลับมาอีกครั้ง
- The Italian Job (2003) ปล้นซ้อนปล้น พลิกถนนล่า: หนังปล้นอีกเรื่องที่รวมทีมนักแสดงชั้นยอดและมีฉากไล่ล่าด้วยรถมินิที่น่าจดจำ
- Now You See Me (2013) อาชญากลปล้นโลก: หนังปล้นยุคใหม่ที่ใช้มายากลเป็นเครื่องมือ มีความหวือหวาและสไตล์จัดจ้าน
- Catch Me If You Can (2002) จับให้ได้ถ้านายแน่จริง: หนังอีกเรื่องที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความฉลาดหลักแหลมของตัวละคร
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญหรือเปล่า?
A: ไม่ใช่เลยครับ นี่คือหนังแนว “Heist” ที่เน้น “การวางแผน” ที่ชาญฉลาด, “ความตึงเครียด” ในการปฏิบัติภารกิจ, และ “เสน่ห์” ของตัวละครเป็นหลัก มีฉากใช้ความรุนแรงน้อยมากครับ
Q: ต้องดูเวอร์ชั่นเก่าปี 1960 ก่อนไหม?
A: ไม่จำเป็นเลยครับ เวอร์ชั่นปี 2001 นี้คือการรีเมคที่สมบูรณ์แบบในตัวเอง และโด่งดังกว่าต้นฉบับมากจนกลายเป็นภาพจำของชื่อ Ocean’s Eleven ไปแล้ว
Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงประสบความสำเร็จและเป็นที่รักมาก?
A: เพราะมันคือส่วนผสมที่ลงตัวของทุกอย่างครับ! ทีมนักแสดงในฝันที่มีเคมีเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ, ผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์, บทภาพยนตร์ที่เฉียบคม, และพล็อตเรื่องที่สนุกและดูง่าย ทุกอย่างมารวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
บทสรุป: Ocean’s Eleven คือมาสเตอร์พีซแห่งความเท่ เป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกได้ทุกยุคทุกสมัย และเป็นหนึ่งในหนังปล้นที่ดีที่สุดตลอดกาล มันคือความบันเทิงชั้นเลิศที่จะทำให้คุณยิ้มได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และรู้สึกอยากจะใส่สูทเท่ๆ เดินออกจากโรงหนัง นี่คือหนังที่คอหนังทุกคน “ต้องดู”