ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: ริชาร์ด เฟลชเชอร์ (Richard Fleischer)
- นักแสดงนำ:
- อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) รับบท โคแนน
- เกรซ โจนส์ (Grace Jones) รับบท ซูล่า
- วิลท์ แชมเบอร์เลน (Wilt Chamberlain) รับบท บอมบาตา (นักบาสเกตบอล NBA ในตำนาน!)
- มาโกะ (Mako) รับบท อากิโระ
- โอลิเวีย ดาโบ (Olivia d’Abo) รับบท เจ้าหญิงเจนน่า
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังแฟนตาซี-ผจญภัยที่ดูสนุก
“Conan the Destroyer” คือภาพยนตร์ที่เปลี่ยนโทนจากภาคแรกอย่างชัดเจน หนังลดทอนความดาร์ก, ความรุนแรง, และความจริงจังลง แต่ไปเน้นที่ความเป็น “หนังผจญภัย-แฟนตาซี” ที่ดูสนุกและเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งทำให้หนังมีความเป็นมิตรกับผู้ชมในวงกว้างมากกว่า
หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่น่าตื่นตาตื่นใจ, การออกแบบงานสร้างและอสูรกายที่เปี่ยมด้วยจินตนาการ, และที่สำคัญคือเสน่ห์ของทีมนักแสดง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ยังคงยอดเยี่ยมในบทบาทโคแนนผู้แข็งแกร่ง แต่ที่ขโมยซีนและเป็นที่จดจำมากที่สุดคือ เกรซ โจนส์ ในบทนักรบหญิงซูล่าที่ทั้งแข็งแกร่งและดุดัน
โดยสรุป “Conan the Destroyer” เป็นหนังแฟนตาซี-ผจญภัยสไตล์ยุค 80s ที่ดูสนุกและให้ความบันเทิงได้อย่างเต็มที่
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 5.9/10
- Rotten Tomatoes: 26% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
SnoopyStyle
🤩 7/10
ราชินีทารามิส (ซาราห์ ดักลาส) เสนอให้โคนัน นักรบเถื่อน (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) ฟื้นคืนชีพวาเลเรีย คนรักของเขา โคนันและมาลัก (เทรซีย์ วอลเตอร์) ผู้ช่วยของเขาจะพาเจห์นนา (โอลิเวีย ดาโบ) หลานสาวพรหมจารีของทารามิส ไปหากุญแจและเขาสัตว์อัญมณี บอมบาอาตา (วิลต์ แชมเบอร์เลน) บอดี้การ์ดของเธอมาด้วย แต่ทารามิสบอกให้เขาหักหลังโคนัน ระหว่างทาง โคนันช่วยพ่อมดอากิโร (มาโก) และซูลา (เกรซ โจนส์) และพวกเขาก็เข้าร่วมกลุ่มนักเดินทางที่ไม่ค่อยจริงจัง มันดูงี่เง่ากว่าภาคแรก ข้อดีคือมันสนุกตราบใดที่คุณไม่ได้จริงจังกับมัน ฉันคิดว่าบทสนทนามันดูงุ่มง่ามขึ้นจริงๆ ไม่มีอะไรเหมือนเรื่องนี้เลย เกรซ โจนส์ดูเท่สุดๆ มาโกและเทรซีย์ วอลเตอร์กำลังเล่นมุกตลก วิลต์ แชมเบอร์เลนกำลังแสดงอยู่จริงๆ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้แย่ไปกว่าอาร์นี่เท่าไหร่ โอลิเวีย ดาโบดูสวยมากเลย กลุ่มนี้บ้าไปแล้ว
Shield-3
🤩 7/10
โอ้ ฉันเข้าใจเลยว่าทำไม “Conan the Destroyer” ถึงเป็นแบบนี้ “Conan the Barbarian” ภาคดั้งเดิมสุดคลาสสิกก็ดังอยู่แล้ว แต่เหล่าคนดังในฮอลลีวูดกลับตัดสินใจว่าพวกเขาน่าจะได้เงินมากกว่านี้เยอะถ้าทำภาคต่อที่เหมาะกับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งทำให้แฟรนไชส์นี้เปิดตลาดหนังเด็กที่ทำกำไรมหาศาล (แต่ถึงอย่างนั้น ตราบใดที่ยังมีเรตติ้งหนังที่ “จำกัด” อยู่ เด็กๆ ก็รู้วิธีหาหนังที่อยากดูอยู่แล้ว) เอาฉากเซ็กส์ออก ลดความรุนแรงลง เพิ่มอารมณ์ขัน แล้ว… หนังเรื่องนี้ก็ออกมา มันเหมือนกับว่า “Destroyer” ติดอยู่ในสภาวะการพัฒนาแบบครึ่งๆ กลางๆ เนื้อเรื่องพื้นฐานก็โอเค แต่บทหนังกลับให้โคนันมีตัวละครเสริมที่ไม่จำเป็นมากมาย (ราวกับว่าโคนันไม่ใช่ตัวละครที่แข็งแกร่งพอที่จะแบกหนังไว้คนเดียว) เกรซ โจนส์ดูน่าสนใจแต่ก็น่าเบื่อเร็วมาก ตัวประกอบขี้ขลาดก็ยิ่งน่ารำคาญขึ้นทุกวินาที มาโกะแสดงสีหน้าแบบนี้ราวกับว่าเขามารับบทนี้เพื่อเงินอย่างเดียว โอลิเวีย ดาโบ คัดเลือกมาผิดแบบเห็นๆ เลย เหมือนกับว่าเธอเป็นเครื่องหมายที่ควรจะเขียนว่า “เพิ่มตัวละครที่น่าสนใจยิ่งขึ้นในฉบับร่างที่สอง” อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์เล่นบทโคนันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เรากลับไม่เห็นพลังดิบและพละกำลังอันดิบเถื่อนของภาคแรก มีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความสามารถและความนิ่งเฉย ระหว่างนักแสดงกับดารา โรเจอร์ มัวร์ใช้เวลาหกปีกว่าจะมาถึงจุดนั้นในซีรีส์เจมส์ บอนด์ ขณะที่ชวาร์เซเน็กเกอร์ก็มาถึงจุดเดียวกันในโคนันในสองภาคแรก
ผมคิดว่าปัญหาส่วนหนึ่งคือแนวคิดของโคนันมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะกลายเป็นอาหารสำหรับครอบครัวหรือไม่ และคำตอบของผมคือ “ไม่” แฟนๆ ของโคนันที่โรเบิร์ต อี. โฮเวิร์ดเขียนถึงรู้ดีว่าซิมเมอเรียนของเขาเป็นฮีโร่ที่โหดเหี้ยม ฉลาดแกมโกง ดื่มหนัก และต่อสู้อย่างหนัก และภาพยนตร์โคนันภาคแรกก็ถ่ายทอดแก่นแท้นั้นออกมาได้ การเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนใจง่ายผู้ทำความดีแบบ “โคนัน เดอะ เดสทรอยเยอร์” ก็เหมือนกับการทำลายแก่นแท้ของโคนัน และตัวหนังเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย “โคนัน เดอะ เดสทรอยเยอร์” น่าดูไหม? ใช่ สำหรับคนที่ไม่รู้จักโคนันเลยสักนิด ผมคิดว่ามันเป็นหนังป๊อปคอร์นที่เน้นดาบและเวทมนตร์แบบสบายๆ ส่วนแฟนๆ โคนัน มันก็เหมือนกับ “ตำนานโลนเรนเจอร์” สำหรับแฟนๆ โลนเรนเจอร์ เป็นตัวอย่างที่ยากจะต้านทานได้ของความเลวร้ายที่ฮอลลีวูดกระทำต่อตัวละครโปรดของคุณ ผมแค่หวังว่าถ้ามีหนังโคนันภาคใหม่ (ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ต้องขอบคุณ “เดสโตรเยอร์”) ผู้สร้างจะมุ่งเน้นไปที่การทำแบบ “โคนัน เดอะ บาร์บาเรียน” และมองข้ามเรื่องนี้ไป
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนวแฟนตาซี-ดาบและเวทมนตร์ เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Conan the Barbarian (1982): ภาคแรกสุดคลาสสิกที่มีความดาร์กและดิบเถื่อนกว่า
- Red Sonja (1985) ซอนย่า ราชินีเมืองหิน: การผจญภัยในโลกเดียวกัน ที่ได้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ มารับบทเป็นลอร์ดคาลิดอร์
- The Beastmaster (1982): เรื่องราวของนักรบผู้มีความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ทำไมโทนของหนังถึงเปลี่ยนไปจากภาคแรกมาก?
A: เป็นความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการจะสร้างหนังที่สามารถเข้าถึง “ผู้ชมกลุ่มครอบครัว” ได้มากขึ้นครับ จึงได้ลดระดับความรุนแรงและฉากทางเพศลง และเพิ่มความเป็นแฟนตาซีผจญภัยที่สดใสกว่าเดิม ซึ่งเป็นทิศทางที่แฟนๆ ดั้งเดิมหลายคนไม่ค่อยชื่นชอบเท่าไหร่
Q: วิลท์ แชมเบอร์เลน คือนักบาสจริงๆ หรือไม่?
A: ใช่แล้วครับ! เขาคือ วิลท์ แชมเบอร์เลน หนึ่งในผู้เล่นเซ็นเตอร์ที่ยิ่งใหญ่และโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีก NBA เลยทีเดียว!
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังแฟนตาซี-ผจญภัยสไตล์ยุค 80s, แฟนๆ ของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์, และคนที่อยากดูหนังที่ให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน