ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: เรนนี ฮาร์ลิน (Renny Harlin)
นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังฉลามสุดมันส์ที่ครบรสและคาดเดายาก
“Deep Blue Sea” คือหนังแอ็กชัน-สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม หนังโดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ “ฉลามอัจฉริยะ” ที่ทำให้มันแตกต่างจากหนังฉลามเรื่องอื่นๆ ความฉลาดของพวกมันสร้างสถานการณ์ที่กดดันและคาดเดายาก ทำให้ผู้ชมต้องคอยลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันและฉากระทึกขวัญที่น่าจดจำมากมาย โดยเฉพาะฉากการตายของตัวละครที่กลายเป็น “ตำนาน” และถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ (โดยเฉพาะฉากของ ซามูเอล แอล. แจ็กสัน ) ซึ่งเป็นการหักความคาดหมายของคนดูได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่า CG ในบางฉากอาจจะดูเก่าไปบ้างตามยุคสมัย แต่ด้วยการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว, ความตื่นเต้น, และความสนุกที่หนังมอบให้ ก็ทำให้ “Deep Blue Sea” เป็นหนังฉลามอีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงความคลาสสิกและสามารถหยิบกลับมาดูซ้ำได้เสมอ
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 5.9/10
Rotten Tomatoes: 60% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
drawlife
⭐ 5/10
ปัญหาของหนังฉลามก็คือ พอได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้ปุ๊บ คนก็จะนึกถึง Jaws ผลงานชิ้นเอกของสตีเวน สปีลเบิร์กทันที แล้วเราจะสร้างหนังฉลามโดยไม่ให้ซ้ำ Jaws ได้ยังไง คำตอบคือ Deep Blue Sea นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างน้ำหล่อเลี้ยงสมองจากฉลามเพื่อนำมารักษาโรคอัลไซเมอร์ แต่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ไม่รู้ ดร.ซูซาน แมคอเลสเตอร์ (แซฟฟรอน เบอร์โรวส์) และ ดร.จิม วิทล็อค (สเตลลัน สการ์สการ์ด) ได้ละเมิดจรรยาบรรณและดัดแปลงพันธุกรรมฉลามเพื่อเพิ่มขนาดสมอง ส่งผลให้ฉลามฉลาดขึ้นและตัวใหญ่ขึ้น ในหนังแนวนี้ที่เต็มไปด้วยความซ้ำซากจำเจ หนังเรื่องนี้อย่างน้อยก็ทำให้คุณต้องเดาไปเรื่อยๆ สิ่งที่ผู้กำกับเรนนี ฮาร์ลิน ยึดถือคือ ใครๆ ก็ตายได้ นักแสดงทั้งหมดล้วนเป็นของสิ้นเปลือง และท้ายที่สุดก็กลายเป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นอย่างน้อยเขาก็ทำให้คุณได้รู้จักตัวละครก่อนที่พวกเขาจะเป็นอาหารของฉลาม ซึ่งบางคนก็มากกว่าคนอื่นๆ
เข้าใจได้ว่าทำไมดร. แมคอเลสเตอร์ถึงมุ่งมั่นหาทางรักษา แต่สุดท้ายแล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ล้วนเป็นความผิดของเธอ โทมัส เจนเล่นได้ดีในบทคาร์เตอร์ เบลค นักต้อนฉลาม เขายังหลบฉลามทุกตัวที่เข้ามาหาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมยังขี่ครีบฉลามได้เหมือนอควาแมน แม้จะดูไม่สมจริงเท่าไหร่ แต่หนังเรื่องนี้สนุกมากจนเราอินไปกับมันได้ เจนก็รับมือกับฉากแอ็กชั่นได้ดีทีเดียว แถมเขายังกลั้นหายใจใต้น้ำได้อย่างที่มนุษย์ทั่วไปทำไม่ได้ ซึ่งถือว่าน่าประทับใจ แต่ก็ดูจะเกินจริงไปสักหน่อย แอลแอล คูล เจ และไมเคิล ราพาพอร์ต ถ่ายทอดมุกตลกที่เฉียบคมและอารมณ์ขันของภาพยนตร์ได้ดี ซามูเอล แอล. แจ็กสัน ก็มีบทบาทสมทบที่ดีในบทรัสเซล แฟรงกิน ผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินของทีมวิจัย
การตายของฉลามนั้นโหดร้ายและโหดร้าย อาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายใจ ปัญหาของหนังเรื่องนี้คือ ถึงแม้การโจมตีของฉลามจะได้ผล แต่มันก็พยายามทำให้รู้สึกไม่สบายใจมากเกินไป จนกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายเกินไป แน่นอนว่าในหนังแบบนี้มันคาดเดาได้อยู่แล้ว ตลอดเวลาคุณไม่รู้เลยว่าใครจะตายคนต่อไป และฉลามพวกนั้นก็ดุดันและโหดกว่าเยอะ ผู้กำกับ Renny Harlin ใช้จังหวะ ความตื่นเต้น และความประหลาดใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอชื่นชมเขาจริงๆ หุ่นเชิดฉลามดูดีมาก แต่เอฟเฟกต์ฉลาม CGI นี่มันเชยและไม่น่าดูเอาเสียเลย Deep Blue Sea เป็นความบันเทิงแบบป๊อปคอร์นล้วนๆ หนังไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ออกมา แต่มันก็ทำให้คุณต้องเดาไปเรื่อยๆ และบางครั้งก็ทำให้ลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้เลย มันเป็นหนังฉลามที่มีประสิทธิภาพ และมันเหนื่อยมากที่จะเป็นหนังที่ดี นั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชม
communistgodzilla
⭐ 5/10
ถ้า ‘Jaws’ และ ‘Alien’ มีลูกด้วยกัน ลูกคนนั้นคงจะดูคล้ายกับ ‘Deep Blue Sea’ หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ เสียงดัง และงี่เง่า ที่ไม่ได้พยายามเสแสร้งเป็นอย่างอื่น หนังขาดตรรกะ บทสนทนาก็งี่เง่า นักแสดงส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ และวิทยาศาสตร์ก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ‘Deep Blue Sea’ ก็ยังสามารถสร้างความบันเทิงได้ เนื้อเรื่องของหนังเรียบง่าย: กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในศูนย์วิจัยใต้น้ำกำลังจะค้นพบวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ ทำอย่างไร? ด้วยการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสมองของฉลามเป็นๆ (อย่าถามเลย) ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งแม่ธรรมชาติเริ่มเบื่อหน่ายกับการที่สิ่งประดิษฐ์ของเธอถูกดัดแปลง ไต้ฝุ่นลูกหนึ่งและการระเบิดที่ไม่จำเป็นอีกหลายครั้ง นักวิทยาศาสตร์พบว่าตัวเองถูกตัดขาดจากพื้นผิวของศูนย์วิจัย และต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฉลามที่ฉลาดกว่าปลาทั่วไป ดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์ที่คอยแทรกแซงพวกนั้นจะทำให้ฉลามฉลาดขึ้น และพวกมันกำลังจะชดใช้ความโง่เขลาของตัวเอง เมื่อฐานทัพถูกน้ำท่วมและฉลามเดินเตร่ไปมาตามทางเดิน ผู้รอดชีวิตพบว่าตัวเองต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด
โดยส่วนใหญ่แล้ว ‘Deep Blue Sea’ ถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดี มีฉากสะเทือนขวัญและฉากแอ็คชั่นที่น่าสนใจอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย อย่างไรก็ตาม มีฉากตายหนึ่งฉากที่คาดไม่ถึงและน่าประหลาดใจมาก จนคุณอาจต้องกดปุ่ม ‘ย้อนกลับ’ บนรีโมทดีวีดีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ดูฉากนั้น ‘Deep Blue Sea’ ไม่ใช่หนังของนักแสดง แต่นักแสดงส่วนใหญ่ก็แสดงได้ค่อนข้างดี แร็ปเปอร์ LL Cool J ทำได้ดีกับตัวละครที่อาจจะดูซ้ำซากจำเจ (ชายผู้เคร่งศาสนาที่ต้องต่อสู้กับศรัทธาในยามคับขัน) และสอดแทรกความเป็นมนุษย์และอารมณ์ขันเข้าไปในบทบาทนี้ นอกจากนี้ เขายังได้พบกับฉลามในครัวที่น่าจดจำอีกด้วย โทมัส เจน รับบทเป็น ‘ฮีโร่แอ็คชั่น’ ได้อย่างลงตัว แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร แซฟฟรอน เบอร์โรวส์ รับบทนักวิทยาศาสตร์นำได้โอเค และเธอก็ไม่หวั่นไหวที่จะเปลื้องผ้าจนเหลือแต่กางเกงในถ้าสถานการณ์จำเป็น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครดู ‘Deep Blue Sea’ เพราะการแสดงหรอก ฉลามคือดาวเด่น และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ก็รู้ดี Deep Blue Sea’ ไม่ใช่หนังคลาสสิก แต่มันก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเรียบง่ายในแบบของตัวเอง ถ้าคุณยังหาหนังเกี่ยวกับคนและฉลามที่กินพวกมันไม่ได้มากพอ คุณก็หาหนังที่แย่กว่านี้ได้อีกเยอะ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนวสัตว์ร้ายไล่ล่ามนุษย์ เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Jaws (1975) จอว์ส : ต้นตำรับหนังฉลามสุดคลาสสิกของผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่สร้างปรากฏการณ์และทำให้คนไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลไปทั่วโลก
The Shallows (2016) นรกน้ำตื้น : หนังฉลามยุคใหม่ที่สร้างความกดดันและลุ้นระทึกได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อนักโต้คลื่นสาวต้องติดอยู่บนโขดหินกลางทะเลโดยมีฉลามขาวยักษ์คอยวนเวียนอยู่
Anaconda (1997) อนาคอนดา เลื้อยสยองโลก : การผจญภัยในป่าแอมะซอนที่ทีมสารคดีต้องเผชิญหน้ากับงูยักษ์ในตำนาน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ฉากที่น่าจดจำที่สุดของหนังคือฉากไหน?
A: คงหนีไม่พ้นฉากที่ตัวละครของ ซามูเอล แอล. แจ็กสัน กำลังกล่าวสุนทรพจน์ปลุกใจผู้รอดชีวิตอย่างสุดเท่ แต่แล้วก็ถูกฉลามพุ่งขึ้นมาจากน้ำงับไปต่อหน้าต่อตาทุกคน! เป็นฉากที่ช็อกและทำลายขนบของหนังทุกเรื่องในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง
Q: “Deep Blue Sea” มีภาคต่อหรือไม่?
A: มีครับ แต่เป็นภาคต่อที่สร้างลงแผ่นโดยตรงและมีทีมงาน/นักแสดงคนละชุดกัน ได้แก่ Deep Blue Sea 2 (2018) และ Deep Blue Sea 3 (2020) ซึ่งไม่ได้รับความนิยมและคำวิจารณ์ที่ดีเท่าภาคแรกครับ
Q: หนังเรื่องนี้เป็นแนววิทยาศาสตร์หรือสยองขวัญกันแน่?
A: เป็นการผสมผสานของทั้งสองแนวครับ โดยมีพื้นฐานมาจากแนวคิดทาง วิทยาศาสตร์ที่ผิดพลาด (Science-Fiction Gone Wrong) ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ สยองขวัญ-เอาชีวิตรอด (Survival Horror)