นักแสดงนำและผู้กำกับ
แกสปาร์ อุลลิแอล (Gaspard Ulliel) (ผู้ล่วงลับ) รับบทเป็น ฮันนิบาล เล็คเตอร์ วัยหนุ่ม: การแบกรับบทบาทที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยแรงกดดัน
กงลี่ (Gong Li) รับบทเป็น เลดี้ มุราซากิ ชิกิบุ
รีส อีวันส์ (Rhys Ifans) รับบทเป็น วลาดิส กรุตาส์
ผู้กำกับ: ปีเตอร์ เว็บเบอร์ (Peter Webber) (ผู้กำกับจาก Girl with a Pearl Earring )
ผู้เขียนบท: โธมัส แฮร์ริส (Thomas Harris) เกร็ดสำคัญ: เขาคือ “ผู้สร้าง” ตัวละครฮันนิบาล เล็คเตอร์ และเป็นผู้เขียนนิยายต้นฉบับทุกเล่ม! การที่เขาลงมาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เอง จึงเป็นการการันตีว่านี่คือเรื่องราวต้นกำเนิด “อย่างเป็นทางการ”
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
Hannibal Rising คือภาพยนตร์ที่ “เสียงแตก” อย่างรุนแรงที่สุดในแฟรนไชส์
การทำลายความลึกลับ?: จุดที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุดคือการที่หนังพยายาม “อธิบาย” ที่มาที่ไปของความชั่วร้ายของฮันนิบาลมากเกินไป ซึ่งแฟนๆ จำนวนมากรู้สึกว่ามัน “ทำลาย” มนต์ขลังและความน่ากลัวของตัวละคร ที่เคยเป็นปีศาจที่เข้าใจยากและคาดเดาไม่ได้
เปลี่ยนแนวไปสู่หนังล้างแค้น: หนังเรื่องนี้มีโทนที่เหมือน “หนังล้างแค้น” (Revenge Thriller) ทั่วไป มากกว่าจะเป็น “หนังทริลเลอร์-จิตวิทยา” ที่ซับซ้อนเหมือน The Silence of the Lambs หรือ Red Dragon ทำให้ขาดความตึงเครียดและความเฉียบคมที่เคยเป็นลายเซ็นของแฟรนไชส์
ข้อดี: ต้องชื่นชมในการแสดงของ แกสปาร์ อุลลิแอล ที่พยายามอย่างเต็มที่ในการถ่ายทอดบทบาทที่ยากนี้ และงานสร้างที่จำลองบรรยากาศยุคสงครามและหลังสงครามออกมาได้ดี
โดยรวมแล้ว นี่คือภาคต้นที่อาจจะตอบคำถามบางอย่างได้ แต่ก็ทำให้ตัวละครที่เคยน่าสะพรึงกลัวกลายเป็นเพียง “เหยื่อ” ที่น่าเห็นใจ ซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่แฟนๆ ต้องการ
IMDb: ให้คะแนน 6.1/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์เพียง 16% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความผิดหวังอย่างกว้างขวาง
A_Roode
⭐ 6/10
ต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่จะเกิดขึ้นกับภาคต้นเรื่อง เมื่อผู้ชมรู้แล้วว่าโครงเรื่องโดยรวมจะคลี่คลายอย่างไร คุณจะทำให้ภาคต้นเรื่องใหม่น่าสนใจได้อย่างไร ด้วยปริศนาอันน่าหลงใหลอย่าง Hannibal ก็มีความเสี่ยงสูงที่เวอร์ชันใหม่สำหรับเด็กจะดูเหมือนเป็นการล้อเลียนเวอร์ชันเก่าที่คุ้นเคยกว่าซึ่งรับบทโดย Anthony Hopkins ผมเชื่อว่า ‘Hannibal Rising’ ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่โดดเด่น แต่โดยรวมแล้วผมพอใจกับมัน และคิดว่ามันมีคุณค่ามากกว่าแค่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังสือของ Thomas Harris ผมให้อันดับสองสบายๆ จากห้าภาคที่มีตัวละคร Hannibal เป็นตัวละคร (ผมนับ ‘Manhunter’ ด้วย)
‘Hannibal Rising’ ดูจะค่อนข้างขาดๆ เกินๆ และสำหรับพล็อตเรื่องที่สำรวจสิ่งที่ผลักดันให้ตัวละครเข้าสู่ภาวะโรคจิตและความปรารถนาที่จะแก้แค้น มันไม่ได้ใช้เวลามากนักในการพยายามทำให้ตัวละคร Hannibal สมบูรณ์ยิ่งขึ้น คุณเข้าใจถึงแก่นเรื่องและแก่นเรื่อง แต่รายละเอียดปลีกย่อยหลายอย่างดูเหมือนจะถูกมองข้ามไป ผมคิดว่าประเด็นของผมคือ ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ว่าสิ่งต่างๆ เปลี่ยน Hannibal ให้กลายเป็น Hannibal ได้อย่างไร — กระบวนการภายใน — ไม่ใช่แค่การได้เห็นเขาไล่ล่าและทำลายล้างผู้ที่ขัดขวางเขาเท่านั้น อาจจะเป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ แต่ผมก็รู้สึกแปลกใจเมื่อได้ดูเรื่องนี้ที่หนังชุดที่อุทิศให้กับตัวละครที่ทรงคุณค่าที่สุดตัวหนึ่งของวงการภาพยนตร์กลับไม่ได้เจาะลึกการสำรวจตัวละครในภาคต้นของหนัง
ผมไม่ได้มีเจตนาจะวิจารณ์สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นหนังที่กำกับได้ดีและดำเนินเรื่องได้อย่างตึงเครียด มันเป็นหนังที่มีความรุนแรง — พูดเล่นใช่มั้ยล่ะ — แต่ความรุนแรงส่วนใหญ่ถูกสื่อเป็นนัยๆ ไม่ว่าจะในฉากหลังหรือนอกกล้อง ผมชื่นชมการตัดสินใจนี้จริงๆ เพราะจินตนาการของผมชัดเจนขึ้นมากเมื่อสิ่งต่างๆ ถูกนำเสนอแต่ไม่ได้ถูกนำเสนอ ‘Hannibal’ ไม่ได้ทำงานโดยการสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ชม แต่เป็นการสร้างความสยดสยองมากกว่า ผมรู้สึกประหม่าและขยะแขยงเมื่อฮันนิบาลปรากฏตัวในฉากต่างๆ พร้อมกับตัวละครที่เขาต้องการแก้แค้น ผมชอบนั่งดูหนังระทึกขวัญที่ตึงเครียดแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คลายเครียดลงเลย ซึ่งก็เกือบจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ผมและเพื่อนชาวแคนาดาหัวเราะจนน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าตัวละครตัวหนึ่งหนี “ไปหมู่บ้านนอกเมืองซัสคาตูน” แน่นอนว่าเป็นมุกตลกที่ไม่ได้ตั้งใจ และแทบจะแน่นอนว่าเป็นมุกเฉพาะกลุ่ม
สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดคือการพูดคุยกับเพื่อนๆ หลังจากดูหนังจบ ผมถามพวกเขาว่ารู้สึกเห็นใจฮันนิบาลหายไปตอนไหนในภาพยนตร์ และอย่าเข้าใจผิด เหตุการณ์ในฉากเปิดเรื่องถูกออกแบบมาเพื่อทำให้คุณเห็นใจฮันนิบาลอย่างมาก บางคนบอกว่าหลังจากฆ่าคนตายครั้งแรก บางคนบอกว่าตอนที่เขาเปลี่ยนจากเด็กเป็นวัยรุ่น ผมคิดว่ามันมาทีหลัง ฮันนิบาลเกือบจะเสียศูนย์ในตอนแรก ตัวร้ายของเขาชั่วร้ายและน่ารังเกียจยิ่งกว่าจนคุณรู้สึกเห็นใจเขาเสียอีก เรื่องราวเปลี่ยนไปเมื่อตำรวจขอให้ฮันนิบาลช่วยตามหาตัวร้ายกลุ่มเดียวกันนี้ ฮันนิบาลมีทางเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ ปฏิกิริยาตอบสนองและการกระทำของเขาตลอดช่วงที่เหลือของเรื่องได้ตัดสินความเห็นใจของฉันที่มีต่อตัวฉันเอง การกระทำที่ชั่วร้ายเล็กน้อยอาจถูกใช้เพื่อชำระล้างและชำระล้างการกระทำที่ชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่ก็ยังคงชั่วร้ายในตัวเอง เมื่อแรงจูงใจและผลที่ตามมาคือการทดแทนความรอดและความยุติธรรมด้วยการคอร์รัปชั่นและการแก้แค้น
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Red Dragon (2002) กำเนิดอำมหิต : ภาคก่อนหน้า (ที่สร้างทีหลัง) ซึ่งเล่าเรื่องราวที่ ฮันนิบาล (ฮ็อปกินส์) ถูกจับกุม
Batman Begins (2005) แบทแมน บีกินส์ : อีกหนึ่งหนังที่เล่าเรื่อง “จุดกำเนิด” ของตัวละครไอคอนิกได้อย่างยอดเยี่ยม
Manhunter (1986) : ภาพยนตร์เรื่องแรกสุดที่นำเสนอตัวละคร ฮันนิบาล เล็คเตอร์ (รับบทโดย ไบรอัน ค็อกซ์)
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: ต้องดูภาคอื่นๆ ของ Hannibal Lecter มาก่อนไหม?
A: ไม่จำเป็น เพราะนี่คือภาค “ต้นกำเนิด” ที่เล่าเรื่องราวก่อนภาคอื่นๆ ทั้งหมด แต่การได้ดูภาคอื่นๆ มาก่อน อาจจะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมแฟนๆ ถึงผิดหวังกับภาคนี้
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวเท่า The Silence of the Lambs ไหม?
A: ไม่เท่าอย่างสิ้นเชิง ความน่ากลัวในเรื่องนี้มาจากฉากความรุนแรงที่โหดร้ายและตรงไปตรงมา ไม่ใช่ความน่ากลัวเชิงจิตวิทยาที่กดดันเหมือนภาคอื่นๆ
Q: ทำไมผู้เขียนนิยายต้นฉบับถึงมาเขียนบทเอง?
A: มีข่าวลือว่าเขาถูก “กดดัน” จากโปรดิวเซอร์ให้เขียนเรื่องราวต้นกำเนิดนี้ขึ้นมาครับ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงดูเหมือนเป็นการ “ยัดเยียด” คำอธิบายให้กับตัวละครมากเกินไป
บทสรุป: Hannibal Rising คือความพยายามที่ทะเยอทะยานแต่กลับหลงทางในการขยายตำนานของฮันนิบาล เล็คเตอร์ เป็นภาคต้นที่อาจจะตอบคำถามที่คุณไม่เคยอยากรู้ และทำให้ปีศาจในตำนานดู “ธรรมดา” ลงไปอย่างน่าเสียดาย เหมาะสำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่ต้องการจะดูให้ครบทุกภาค หรือผู้ที่อยากจะเห็นจุดกำเนิดอย่างเป็นทางการเท่านั้น