ดูหนัง Invisible Target (2007) อึด ฟัด อัด ถล่มเมืองตำรวจ
ทุกท่าน! หากคุณคิดถึงหนังฮ่องกงในยุคที่เน้น “แอ็คชั่น” แบบถึงลูกถึงคน, สตันท์แมนเจ็บจริง, และระเบิดตูมตามแบบไม่ยั้ง วันนี้คุณมาถูกทางแล้ว! คือผลงานของผู้กำกับในตำนาน เบนนี่ ชาน ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความมันส์, ความแค้น, และมิตรภาพของเหล่าตำรวจหนุ่มเลือดร้อน!
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อแก๊งค์อาชญากรสุดโหดและวางแผนได้อย่างแยบยล นำโดย เทียนเหยี่ยนเซิง (อู๋จิง) ได้ก่อเหตุปล้นรถขนเงินอย่างอุกอาจกลางเมือง และจบลงด้วยการระเบิดที่คร่าชีวิตคู่หมั้นของตำรวจหนุ่มไฟแรง เฉิน ชุน (เซียะถิงฟง) ไปต่อหน้าต่อตา หกเดือนต่อมา… เฉิน ชุน ผู้จมอยู่กับความแค้น ยังคงตามสืบหาเบาะแสของแก๊งค์นี้อย่างไม่ลดละ ในขณะเดียวกัน ฟางอี้เหว่ย (หยูเหวินเล่อ)
ตำรวจนอกเครื่องแบบผู้บ้าระห่ำ และ เว่ยจิงห้าว (ฝัง จู่หมิง – ลูกชายเฉินหลง) ตำรวจหนุ่มผู้ยึดมั่นในกฎระเบียบ ก็ได้เข้ามาพัวพันกับคดีนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่แตกต่างกันไป สามตำรวจหนุ่มต่างสไตล์จึงต้องมาร่วมมือกันอย่างไม่เต็มใจ เพื่อไล่ล่าแก๊งค์อาชญากรอัจฉริยะกลุ่มนี้ ที่ดูเหมือนจะนำหน้าพวกเขาไปหนึ่งก้าวเสมอ การปะทะกันที่ดุเดือด, อันตราย, และเต็มไปด้วยการสูญเสียจึงเริ่มต้นขึ้น! movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- เซียะถิงฟง (Nicholas Tse) รับบทเป็น เฉิน ชุน
- หยูเหวินเล่อ (Shawn Yue) รับบทเป็น ฟางอี้เหว่ย
- ฝัง จู่หมิง (Jaycee Chan) รับบทเป็น เว่ยจิงห้าว
- อู๋จิง (Wu Jing) (ซูเปอร์สตาร์นักบู๊ในปัจจุบัน) ในบทบาท เทียนเหยี่ยนเซิง วายร้ายสุดโหดและน่าจดจำ
- ผู้กำกับ: เบนนี่ ชาน (Benny Chan) ปรมาจารย์ผู้ล่วงลับแห่งวงการหนังแอ็คชั่นฮ่องกง! เขาคือผู้กำกับผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ New Police Story (วิ่งสู้ฟัด 5), Rob-B-Hood (วิ่งกระเตงฟัด) และอีกมากมาย ซึ่งลายเซ็น “แอ็คชั่นระห่ำเมือง” ของเขาปรากฏชัดเจนในเรื่องนี้
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Invisible Target คือหนังแอ็คชั่นฮ่องกง “พันธุ์แท้” ที่สมบูรณ์แบบ!
- แอ็คชั่นระดับ ‘บ้าคลั่ง’: นี่คือจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นเหตุผลที่คุณต้องดู! สมชื่อ เบนนี่ ชาน หนังอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่ “ใหญ่”, “ดัง”, และ “อันตราย” อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งฉากไล่ล่า, ฉากยิงปืน, ระเบิดตูมตาม, และที่สำคัญคือ “ฉากสตันท์เสี่ยงตาย” ที่นักแสดงเล่นจริงเจ็บจริง ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากในหนังยุคปัจจุบัน
- ความดิบและความสมจริง: หนังเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอภาพแอ็คชั่นที่สวยงาม แต่เน้นความ “ดิบ”, “เถื่อน”, และ “หนักหน่วง” ทุกการปะทะดูเจ็บจริง ซึ่งทำให้เราลุ้นตามตัวละครได้อย่างเต็มที่
- การแสดงที่ทุ่มเท: นักแสดงนำทั้งสามคนทุ่มเทให้กับฉากแอ็คชั่นอย่างเต็มที่ และ อู๋จิง ในบทบาทตัวร้ายก็โดดเด่นและน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
- IMDb: ให้คะแนน 6.7/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์สูงถึง 74% ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพในฐานะหนังแอ็คชั่นชั้นดี
DICK STEEL
⭐ 6/10
ไม่มีอะไรที่มองไม่เห็นเกี่ยวกับเป้าหมายในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเบนนี ชาน เรื่องและในความเป็นจริง ดูเหมือนว่าเป้าหมายที่ทุกคนในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมุ่งเป้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายร้ายหรือตำรวจดี ก็คือเศษกระจกจำนวนมากที่ถูกกระสุนปืนพุ่งชนจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือบ่อยครั้งกว่านั้นคือร่างมนุษย์ เห็นกระจกหน้าต่างสวยๆ นั่นไหม? มันกำลังจะแตกกระจายในไม่ช้านี้ หรือกระจกหน้าอาคารแบบสองบานนั่น? ใช่แล้ว ทันทีที่คุณสังเกตเห็น ฉากต่อไปจะเผยให้เห็นมันทีละน้อยบนพื้นพร้อมกับร่างที่ดิ้นรน มันอาจจะใช้ชื่อที่เหมาะสมว่า Glass Target ก็ได้
แต่อย่าเข้าใจฉันผิด Invisible Target ยังคงสนุกอยู่ เพราะมันทำให้คุณได้กลิ่นอายของหนังแอ็คชั่นฮ่องกงทั่วไป โดยมีเบนนี ชานเป็นผู้กำกับ ขณะที่เราเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับพล็อตเรื่องตุ่นกับตุ่นที่มักพบเห็นกันบ่อยๆ ซึ่งมักเป็นสูตรสำเร็จของหนังระทึกขวัญอาชญากรรมฮ่องกง (ซึ่งก็ต้องขอบคุณความสำเร็จของหนังเรื่อง You Know What) ผมคิดว่า Invisible Target ชวนให้นึกถึงหนังเก่าของจอห์น วูอย่าง Hard Boiled ยกเว้นแต่ว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีปืน กลับมีฉากชกต่อยกันเพียบ ตอนจบที่ยืดเยื้อและยืดเยื้อก็น่าเบื่อเกินไปที่จะดูจนจบ แม้ว่าจะมีฉากบิ๊กแบงและฉากแอ็กชั่นแบบแบ่งตอนอยู่บ้าง ซึ่งพยายามดึงความสนใจของคุณ ร้านน้ำชายังคงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการก่อเหตุทะเลาะวิวาท (เช่นเดียวกับใน Hard Boiled) และในเรื่องนี้ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งความผูกพันระหว่างชายชาตรีทั้งสามคนของเรา ชาน ชุน (นิโคลัส เซียะ), ฟง ยิกเว่ย (ชอว์น เยว่) และไว คิงโฮ (รับบทโดยเจซี ชาน)
แต่ระหว่างฉากแอ็คชั่นนั้น ก็มีบทพูดคนเดียวที่แสนเจ็บปวดแสนสาหัสของวายร้าย เทียน เยิงเซิง (อู๋จิ้ง) และแก๊งค์สุดฮา 7 คน (ซึ่งมีแอนดี้ โอน รับบทเป็นพี่ชาย เยิงเยี่ย) ที่พยายามจะอธิบายการกระทำของพวกเขาว่า “ข้าคือวายร้าย ข้าจึงฆ่า” และพูดถึงความยุติธรรมและความอยุติธรรมในโลก อู๋จิ้งก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังอีกครั้ง ด้วยรัศมีเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่ไม่เคยจางหายไปเมื่อเขาขยี้ก้นทุกคนอย่างแรง! เราได้เห็นแล้วว่าเขาทำอะไรได้บ้างใน SPL ทีนี้มาดูเขาทำแบบนั้นด้วยความเร็วและความเข้มข้นที่มากขึ้นเป็นสองเท่า และด้วยจำนวนเหยื่อที่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า อย่างน้อยที่สุด Invisible Target ก็เป็นหนังของอู๋จิ้ง และเป็นหนังที่ผมไม่แปลกใจเลยถ้าหลายคนจะยอมทุ่มแรงสนับสนุนให้เขา มันเป็นหนังที่วายร้ายสามารถเอาชนะพระเอกได้อย่างง่ายดาย
ด้วยตำรวจสามนายที่แยกตัวออกมา Invisible Target ใช้เวลาค่อนข้างมากในการแนะนำพวกเขาทีละคน ชานของนิโคลัสมักจะครุ่นคิดและบุ่มบ่ามอยู่เสมอโดยที่เขากำลังโศกเศร้ากับการสูญเสียคู่หมั้น เขาพยายามจะจับเทียนเพราะเธอบังเอิญเป็นฝ่ายเสียหาย ฟงของชอว์นนั้นหยิ่งผยอง จนกระทั่งเขาถูกบังคับให้กินตะกั่ว (ในฉากที่คุณต้องเห็นถึงจะเชื่อ) โดยเทียน และอีโก้ที่บอบช้ำของเขาบอกว่าเขาต้องจัดการกับตัวร้ายให้ได้ ส่วนไวของเจซีซีน่าจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม เป็นตำรวจข้างถนนที่ทำตามตำราและกำลังสืบสวนการหายตัวไปของพี่ชาย (ลองเล่นบทรับเชิญสองครั้งดูสิ!) ซึ่งอาจจะตกไปอยู่ในมือของเทียนก็ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนล้วนเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ และอยากจะพกอาวุธติดตัวไว้ตลอดเวลา
นิโคลัสและชอว์นไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ในวงการแอ็คชั่น ก่อนหน้านี้เคยแสดงร่วมกันในภาพยนตร์อย่าง Dragon Tiger Gate และโชคดีที่พวกเขาเลิกไว้ผมยาวในภาพยนตร์เรื่องนั้นแล้วหันมาเล่นบทสั้นร่วมสมัยในเรื่องนี้ ถึงแม้ทั้งสองคนจะค่อนข้างมีประสบการณ์ในวงการนี้ แต่ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะดุ้งทุกครั้งที่เจย์ซีปรากฏตัวบนจอ อย่างแรกเลย เขาเป็นลูกชายของเฉินหลงผู้เป็นตำนาน และในผมอดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าเจย์ซีตอนหนุ่มถูกทุบตี ทุบตี และถูกทำร้ายร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครของเขาซึ่งไร้เดียงสาและไร้เดียงสาที่สุดในกลุ่ม กลับตรงกันข้ามกับตัวละครตำรวจคลาสสิกที่พ่อของเขาเคยเล่นอย่างสิ้นเชิง และผมคิดว่าเขาจงใจให้เขาดูแข็งแกร่งน้อยที่สุดในกลุ่ม ฉากเด็กดีหลายฉากถูกเล่นเพื่อความตลกขบขัน หรือเพื่อย้ำว่าเขาเหนือกว่าตำรวจดีคนอื่นๆ ในแง่ของการมีนิสัยดี ตัวละครแบบเขาหายากในยุคที่ตำรวจที่ดุดันกว่าเดินเตร่ตามท้องถนน
ในขณะที่นิโคลัสและชอว์น สองพี่น้องได้แสดงฉากแอ็คชั่นสุดแฟนตาซีเพื่อโชว์ฝีมือ เจซีกลับได้บทที่ด้อยกว่าด้วยการเป็นภาระหนักในบางครั้ง อ้อ แล้วบทบาทของอีแลนน์ กวงล่ะ? น่าเศร้าที่ไม่มีอะไรให้สาวสวยทำมากนัก เพราะตัวละครของเธอคือเหลียง ทำงานในหน่วยข่าวกรองตำรวจ และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงเมื่อเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก น่าเสียดาย บทบาทแจกันดอกไม้ทั่วๆ ไป ที่มีเวลาฉายรวมกันไม่ถึง 5 นาที แม้จะเน้นฉากแอ็คชั่นหนักหน่วงที่นักแสดงแต่ละคนแสดงออกมา และโดยรวมแล้วดูสมจริงสมจัง โดยลดทอนฉากแอ็คชั่นที่เห็นในตัวอย่างลงอย่างมาก แต่ก็มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่เห็นได้ชัดในเรื่องความต่อเนื่อง ทำให้เสียอรรถรสของหนังไปบ้าง มีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับหนังแอ็คชั่นคลาสสิก แต่ความยาวกว่า 2 ชั่วโมงนั้นเป็นเพราะความทุ่มเทมากเกินไปกับฉากที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังแอ็คชั่นฮ่องกงสุดเดือด เราขอแนะนำ:
- New Police Story (2004) วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด: ผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับคนเดียวกัน ที่มีสไตล์ใกล้เคียงกันมาก
- SPL (Sha Po Lang) (2005) / Flash Point (2007): สองสุดยอดหนังแอ็คชั่น-อาชญากรรมฮ่องกงที่ดิบเถื่อนและเน้นการต่อสู้ระยะประชิด
- The Raid: Redemption (2011): หนังแอ็คชั่นจากอินโดนีเซียที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยคิวบู๊สุดดิบและนอนสต็อป
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้บู๊ทั้งเรื่องเลยหรือเปล่า?
A: เกือบทั้งเรื่องเลยครับ! โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของหนังคือการอัดฉากแอ็คชั่นใส่กันแบบไม่ยั้ง เป็นหนังที่ดูแล้วเหนื่อยแทนตัวละครแน่นอน
Q: ฉากสตันท์ในเรื่องนี้อันตรายจริงเหรอ?
A: จริงแท้แน่นอนครับ! นี่คือลายเซ็นของหนังแอ็คชั่นฮ่องกงในยุคนั้น คือการใช้สตันท์แมน (และนักแสดง) เล่นฉากเสี่ยงตายจริงๆ โดยมีการป้องกันที่น้อยมาก ซึ่งทำให้ฉากแอ็คชั่นดูน่าทึ่งและน่าหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน
Q: ต้องเป็นแฟนหนังฮ่องกงถึงจะดูสนุกไหม?
A: ถ้าคุณเป็นแฟน “หนังแอ็คชั่น” ไม่ว่าชาติไหน คุณจะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนครับ! มันคือความบันเทิงที่ตรงไปตรงมาและอัดแน่นไปด้วยความมันส์ระดับสุดยอด
บทสรุป: Invisible Target คือหนึ่งในหนังแอ็คชั่นฮ่องกงที่ดีที่สุดและดิบเถื่อนที่สุดแห่งยุค 2000 เป็นผลงานที่แฟนๆ ของผู้กำกับ เบนนี่ ชาน และคอหนังบู๊ตัวจริง “ห้ามพลาด” ด้วยประการทั้งปวง!