ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: สตีฟ ไมเนอร์ (Steve Miner)
ผู้เขียนบท: เดวิด อี. เคลลีย์ (David E. Kelley)
นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังสัตว์ประหลาดที่ตลกและกวนที่สุด
“Lake Placid” คือภาพยนตร์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากหนังสัตว์ประหลาดเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยบทภาพยนตร์จากฝีมือของ เดวิด อี. เคลลีย์ (ผู้สร้างซีรีส์ Ally McBeal) หนังจึงเต็มไปด้วยบทสนทนาที่เฉียบคม, ตลกร้าย, และจิกกัดกันไปมาอย่างสนุกสนาน ความฮาของหนังไม่ได้มาจากมุกตลกโฉ่งฉ่าง แต่มาจากคาแรคเตอร์สุดป่วนของตัวละครที่ดูไม่น่าจะมาอยู่ร่วมกันได้
หนังสามารถสร้างสมดุลระหว่างความน่ากลัวของจระเข้ยักษ์กับความตลกของสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เป็นหนังที่ดูสนุกและให้ความบันเทิงได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และที่ขาดไม่ได้เลยคือการปรากฏตัวของ เบ็ตตี้ ไวต์ ในบทคุณป้าสุดเพี้ยนที่คอยเอาวัวมา “เลี้ยง” ไอ้เคี่ยม ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำที่น่ารักและขโมยซีนที่สุดของเรื่อง
โดยสรุป “Lake Placid” เป็นหนัง Creature Feature ที่ยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่อยากดูหนังสยองขวัญที่ไม่ต้องเครียดมากนัก
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 5.7/10
Rotten Tomatoes: 47% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
⭐ 6/10
หนังว่าด้วยจระเข้ขนาดยักษ์ที่อาศัยอยู่ในบึง ซึ่งมันได้เขมือบนักวิจัยคนหนึ่งไป ทำให้เคลลี่ สก็อต (Bridget Fonda) ถูกส่งมาตรวจสอบ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีจระเข้พันธุ์เก่าแก่อยู่ที่นั้น ที่นี่เองเธอก็ได้พบกับ แจ๊ค เวลส์ (Bill Pullman) เจ้าหน้าที่ผู้ถูกตามมาจัดการกับจระเข้, นายอำเภอแฮงค์ (Brendan Gleeson) ที่หงุดหงิดได้ทุกเวลา และ เฮคเตอร์ (Oliver Platt) มหาเศรษฐีนักค้นคว้าผู้บูชาจระเข้แบบสุดๆ … ครับ ผมบอกว่าหนังว่าด้วยจระเข้ยักษ์ก็จริง แต่ความสนุกมันไม่ได้อยู่ที่ตัวจระเข้เลยนะครับ มันมามันส์เอาตรงตัวละครทั้งหลายแหล่เนี่ยแหละ เพราะแต่ละคนที่สาธยายนั้น ล้วนมีบุคลิกฮาๆ ติดตัวอยู่ตลอด เจ๊เคลลี่เธอก็หาเรื่องโวยวายโน่นนี่ได้สารพัด ส่วนนายอำเภอกับเฮคเตอร์ก็หาเรื่องตีกันไม่เว้นชั่วโมง และถือเป็นคู่ฮาของเรื่องเลยครับ
แล้วหนังมันระทึกขวัญตรงไหน…? ก็เวลาจระเข้พุ่งขึ้นมาโฉบใครไปรับประทานนั้นน่ะ คนก็ตัวขาดจะๆ เลยนะครับ นี่จึงเป็นเหตุให้หนังติดเรท R ทันทีโดยไม่มีอุทธรณ์ แหม ก็เล่นถึงขั้นไส้ทะลักออกมากองยังเงี้ย หัวเหอขาดจากคออย่างเงี้ย มันก็ไม่งามตาซักเท่าไหร่น่ะนะครับ การติดเรท R เลยพอเข้าใจ ว่าง่ายๆ คือเวลาจระเข้ต้องออกโรงนี่ มันก็เป็นภาพที่โหดพอดูครับ แต่ที่ผมยอมรับเลยก็คือ หนังมันฮาไปด้วย ระทึกไปด้วย มันไปกันได้น่ะครับ ไม่สะดุดแต่อย่างใด และสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี่เด่นเอามากๆ คือ บทสนทนาเฉียบๆ มุกตลกคำพูดเด็ดๆ ที่รับประกันว่าคอมุกแนวนี้จะไม่ผิดหวังครับ ถ้าฟังทันล่ะฮาทั้งเรื่องแน่ๆ นักแสดงก็ทำได้ดีมากๆ เป็นธรรมชาติสุดๆ ครับ Pullman น่ะไม่เท่าไหร่ แต่ Fonda นี่สิ เจ๊แกปกติเล่นแต่หนังเครียดครับ นานทีปีหนที่จะโดดมาเล่นบทต๊องๆ ขนาดนี้ ส่วนคู่นายอำเภอกับเฮคเตอร์ก็ไม่ต้องพูดถึงล่ะครับ มันฮาสุดๆ จริงๆ เอาแค่แววตาหาเรื่องที่นายอำเภอชอบจ้องเฮคเตอร์นี่ก็สุดบาทาแล้วล่ะ
งาน Effect ดีครับ การถ่ายภาพนับว่าดีทีเดียว โลเกชั่นก็สวยและงดงามมาก น่าไปเที่ยวจริงๆครับ ฉากใต้น้ำก็ถ่ายทำได้ดี คนที่ชอบฉากลงน้ำน่าจะพอใจครับ มันให้อารมณ์ดีๆจริงๆ สรุปว่าหนังโอเคน่ะครับ ต้องชมผู้กำกับ Steve Miner (Friday The 13th Part 2 และ 3) ด้วยครับ ที่ทำหนังได้โอเค ไม่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ย่ำแย่ ก็ถ้าคาดหวังความสยองล่ะก็ หนังไม่ได้ถึงขนาดนั้นหรอกครับ นี่ไม่ใช่อะไรอย่าง Alien หรือ Jaws ครับ มันเป็นหนังตลกที่เผอิญไปเกิดเหตุที่บึงซึ่งมีจระเข้ยักษ์อาละวาดแบบโหดๆ มากกว่า – เรื่องรายได้ก็กลางๆ ครับ ทำเงินไป $56 ล้านจากทั่วโลก ส่วนทุนน่ะ $35 ล้าน คาดว่าตอนนี้น่าจะเกินทุนและเข้าโซนกำไรบ้างแล้ว เป็นหนังที่เข้าท่าครับสำหรับแนวสัตว์โลกน่ารัก ถ้าอ่านที่ผมเขียนแล้ว รู้สึกว่านี่น่าจะเป็นหนังสำหรับคุณล่ะก็ ดูได้เลยครับ ไม่น่าผิดหวังหรอก
cwpnewpaltz
⭐ 6/10
ฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก มันตลกดี มีการแสดงที่ฮาสุดๆ ของเบ็ตตี้ ไวท์ บริดเจ็ต ฟอนด้าที่มีเสน่ห์ (เป็นครั้งแรกในความทรงจำ) และเบรนแดน กลีสันกับโอลิเวอร์ แพลตต์ที่น่ารักสุดๆ บิล พูลแมนก็เล่นได้ดี แต่แย่ที่สุด แล้วจะไม่ชอบได้ยังไง? คือ ใครบ้างจะไม่อยากช่วยจระเข้ที่กำลังกัดคนเป็นสองท่อนในทะเลสาบอันบริสุทธิ์ที่อยู่ห่างจากใจกลางรัฐเมนไป 25 ไมล์? มีหนังห่วยๆ มากมายที่เสียเวลาเปล่าๆ ความรุนแรง ไร้สาระ หยาบคาย หรือซาดิสต์ไร้สาระมากมายเหลือเกิน จนเรื่องราวเสียดสีประชดประชันที่มีตัวละครเพี้ยนๆ และตอนจบที่เฉียบคมนี้ต้องถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เรานั่งยิ้มได้โดยไม่รู้สึกผิด เรื่องนี้ทำได้ยาก และไม่ควรมองข้าม
juneebuggy
⭐ 5/10
หนังสยองขวัญที่ทั้งสนุกและสนุกจริงๆ ว่าด้วยจระเข้ยักษ์ดุร้ายที่ไล่จับคนจากทะเลสาบอันเงียบสงบในรัฐเมน คุ้มค่าแก่การดูแค่เบ็ตตี้ ไวท์ปากร้ายที่ขโมยซีนไปเท่านั้น แต่หนังสัตว์ประหลาดเกรดบีก็ยอดเยี่ยม หนังเรื่องนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก นักแสดงทุกคนต่างก็เข้ากันได้ดี ทั้งทีมสืบสวน นายอำเภอท้องถิ่น และนักล่าจระเข้จอมเพี้ยน บทสนทนาฉลาดหลักแหลม เต็มไปด้วยมุกตลกขบขัน และความรักหวานๆ ที่ไม่ดูจริงจังระหว่างบิล พูลแมนกับบริดเจ็ต ฟอนด้าที่ตอนแรกน่ารำคาญสุดๆ ซึ่งตัวละครของเธอยิ่งดูก็ยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อเธอ (ยังคง) ถูกโยนออกจากเรือ ชอบโอลิเวอร์ แพลตต์ในบทนักล่าสัตว์ใหญ่ และบทสนทนาที่เต็มไปด้วยหนามกับนายอำเภอเบรนแดน กลีสัน มีการฆ่าจระเข้ที่โหดๆ อยู่สองสามครั้ง โดยเฉพาะตอนแรกที่จระเข้โดนกัดครึ่งตัว เซอร์ไพรส์มาก! ทำให้ฉันขำได้หลายรอบเลย และเป็นหนัง feel good ที่คุณจะดูซ้ำหลายรอบเลย ตอนจบนี่เพอร์เฟ็กต์มาก… ขอบคุณ Betty White อีกครั้งนะ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: มีภาคต่อหรือไม่?
A: มีครับ! แต่เป็นภาคต่อที่สร้างเพื่อฉายทางโทรทัศน์ (TV Movie) และลงแผ่นโดยตรงอีกหลายภาค ได้แก่ Lake Placid 2 (2007), Lake Placid 3 (2010), Lake Placid: The Final Chapter (2012), Lake Placid vs. Anaconda (2015) และ Lake Placid: Legacy (2018) ซึ่งไม่มีนักแสดงและทีมงานชุดเดิมจากภาคแรกเลยครับ
Q: ทำไมหนังถึงกลายเป็น “คัลท์คลาสสิก”?
A: เพราะเป็นหนังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก การผสมผสานระหว่างหนังสัตว์ประหลาดกับหนังคอมเมดี้ที่มีบทสนทนาเฉียบคมนั้นหาได้ยากในยุคนั้น ทำให้หนังเป็นที่จดจำและมีแฟนๆ ชื่นชอบในความแตกต่างของมันมาจนถึงปัจจุบัน
Q: จระเข้ในเรื่องเป็นของจริงหรือ CG?
A: เป็นการผสมผสานกันระหว่างหุ่นจระเข้แอนิเมโทรนิกส์ (Animatronics) ที่สร้างโดยทีมงานของ สแตน วินสตัน และเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก (CG) ซึ่งถือว่าทำออกมาได้น่าทึ่งมากในยุคนั้น