นักแสดงนำและผู้กำกับ
- จิม แคร์รี่ (Jim Carrey) รับบทเป็น ชาร์ลี / แฮงค์: นี่คือเวทีปล่อยของที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเขา การสลับบทบาทระหว่างคนดีสุดติ๋มกับคนเลวสุดขั้วคือการแสดงระดับปรมาจารย์ด้านตลกที่หาใครเทียบได้ยาก
- เรเน่ เซลล์เวเกอร์ (Renée Zellweger) รับบทเป็น ไอรีน: นางเอกสาวสวยที่เป็นเหมือนศูนย์กลางความวุ่นวาย และต้องรับมือกับความเพี้ยนของพระเอกตลอดเรื่อง
- ผู้กำกับ: พี่น้องฟาร์เรลลี (Peter and Bobby Farrelly) คู่หูผู้สร้างตำนานหนังตลก Gross-out Comedy ที่การันตีความฮาแบบไม่เกรงใจใคร
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและมุมมองความฮา
บอกกันตรงๆ เลยว่า Me, Myself & Irene คือหนังตลกที่ถ้าฉายในยุค 2025 นี้ อาจโดนดราม่าถล่มทลายจนไม่มีที่ยืน! เพราะมุกตลกในเรื่องนั้นทั้งหยาบโลน, ไม่สนใจความถูกต้องทางการเมือง (Politically Incorrect) และล้อเลียนทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่หากคุณสามารถมองมันในฐานะผลงานแห่งยุคสมัยและปลดปล่อยตัวเองไปกับความบ้าของมันได้ นี่คือหนึ่งในหนังที่ฮาที่สุดในชีวิตของคุณ!
หนังอัดแน่นไปด้วยฉากตลกในตำนานที่น่าจดจำ (และน่าตกใจ) มากมาย ตั้งแต่ฉากวัว, ฉากสู้กับตัวเอง, ไปจนถึงตัวละคร “ไวท์ตี้” หนังไม่ปล่อยให้คุณได้พักหายใจหายคอจากความเพี้ยนเลยแม้แต่วินาทีเดียว
- IMDb: ให้คะแนน 6.6/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 48% แต่คะแนนจากฝั่งผู้ชม (Audience Score) สูงถึง 74% ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่านี่คือหนังที่ “ถูกใจมหาชน” แม้นักวิจารณ์จะเสียงแตกก็ตาม
bat-5
⭐ 8/10
คงไม่มีหนังเรื่องไหนที่ออกฉายช่วงซัมเมอร์นี้ที่จะเรียกเสียงหัวเราะได้มากไปกว่า Me, Myself & Irene แน่นอนว่ามันหยาบคาย บางครั้งก็ดูเด็กเกินไป แต่บางครั้งเราก็อยากย้อนเวลากลับไปตอนเด็กๆ ที่เคยหัวเราะกับเรื่องที่เราอาจจะมองว่าน่าขยะแขยง ความสนุกหลักๆ คือการได้เห็นแคร์รี่เปลี่ยนจากชาร์ลีผู้แสนหวาน กลายเป็นแฮงค์ผู้หยาบคายแบบฉบับ Dirty Harry แฮงค์ทำในสิ่งที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง และก็น่าดีใจที่ได้เห็นเขารอดตัวไปได้บ้าง ลูกชายทั้งสามของชาร์ลีก็ตลกไม่แพ้กัน ทั้งคู่ฉลาดหลักแหลม รักพ่อ และใช้คำพูดบางอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางคนอาจรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้หยาบคายและบางครั้งก็ตลก แต่ส่วนตัวแล้ว ผมชอบมันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นวิธีคลายเครียดจากวันที่แย่ๆ ได้ดีทีเดียว
kittiwake
⭐ 8/10
เอาล่ะ แฟนๆ จิม แคร์รี่ย์ นี่คือจิมที่เล่นได้ดีที่สุดแล้ว Me Myself & Irene ฉันคิดว่าคงไม่มีใครเล่นบทชาร์ลี เบลีย์เกตส์ได้เหมือนฉันอีกแล้ว ฉันผิดหวังกับการแสดงของเรเน่ เซลวีเกอร์ แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ค่อยชอบการแสดงของเธอเท่าไหร่ (และขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ฉันก็ไม่ค่อยชอบสไตล์การแสดงที่เว่อร์วังอลังการของแคร์รี่ย์เท่าไหร่ แต่ฉันก็เลือกดูไปเรื่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้เห็นเขาเล่นบทบาทที่ฉันชอบ) พี่น้องฟาร์เรลลี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความตลกแบบดิบๆ ทำให้หนังเรื่องนี้สนุกและฮามาก ฉันไม่อยากสปอยล์หนังให้ใคร แค่คาดหวังว่าจะมีจุดหักมุมที่ทำให้หัวเราะได้ก็พอ หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนใจไม่สู้ และไม่เหมาะกับเด็กๆ (ถ้าคุณไม่เคยดูหนังของฟาร์เรลลี่มาก่อน คุณต้องรู้ไว้!) หนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นการแสดงระดับ “ออสการ์” เลยสักนิด แต่แค่ดูตอนที่อยากหัวเราะโดยไม่ต้องคิดอะไร — หนังแบบนี้ก็ดีนะ ถ้าคุณกำลังมองหาแบบนั้นอยู่ เนื้อเรื่องก็เยี่ยมยอด การคัดเลือกนักแสดง (โดยรวม) ก็ยอดเยี่ยมมาก ประทับใจครอบครัวของชาร์ลีมาก คุณจะเห็นเอง! ส่วนตัวแล้ว พวกเขาสนุกที่สุดเลย ไปดูกับเพื่อนดีๆ ที่ชอบหัวเราะ ฉันคิดว่าเราทุกคนน่าจะค้นพบอะไรแบบชาร์ลีได้ในตัวเรา
capike
⭐ 8/10
หนังที่ตลกที่สุดที่ฉันเคยดูมาในรอบหลายปี เสียดายที่ไม่ได้ดูเร็วกว่านี้ ตอนแรกนึกว่าเบื่อหนังของจิม แคร์รี่แล้ว เขาดูเป็นตัวละครเดิมๆ แทบทุกเรื่อง จริงอยู่ ฉันยังเห็นองค์ประกอบเดิมๆ ของตัวละครแบบนี้ในหนังเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่คิดว่าเนื้อเรื่องดีทีเดียว เรเน่ เซลเวกเกอร์น่ารักและเซ็กซี่มาก หนังเรื่องนี้มีโมเมนต์ตลกๆ เยอะมาก ตั้งแต่ตอนที่จิม แคร์รี่ดูดนมคุณแม่ยังสาวที่น่ารักคนนี้ ไปจนถึงตอนจบที่ลูกชายสามคนจากไปพร้อมคำว่า “ขอบคุณที่ดูหนังห่วยๆ ของเรานะ!” จริงๆ แล้วฉันชวนเพื่อนๆ ไปดูด้วยกันหมด เพราะฉันตื่นเต้นกับหนังเรื่องนี้มาก หนังเรื่องนี้ก็เกือบ 7 ขวบแล้ว ใครจะไปรู้? ฉันคิดว่านั่นแสดงให้เห็นว่าเราไม่สามารถตัดสินนักแสดงหรือหนังได้จนกว่าจะได้ดูจริงๆ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชอบความฮาแบบไร้ขีดจำกัดของ จิม แคร์รี่ และพี่น้องฟาร์เรลลี เราขอแนะนำ:
- Dumb and Dumber (1994) ใครว่าเราแกล้งโง่…วะ: ผลงานมาสเตอร์พีซที่จับคู่ จิม แคร์รี่ กับ เจฟฟ์ แดเนียลส์ ได้อย่างลงตัว
- There’s Something About Mary (1998) มะรุมมะตุ้มรุมรักแมรี่: หนังตลกทะลึ่งอีกเรื่องของพี่น้องฟาร์เรลลีที่กลายเป็นปรากฏการณ์
- Liar Liar (1997) ขี้จุ๊เทวดาฮากลิ้ง: อีกหนึ่งหนังคอนเซปต์สูงของ จิม แคร์รี่ ที่เขาต้องพูดแต่ความจริงเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้ตลกแบบไหน? เหมาะกับทุกคนไหม?
A: เป็นหนังตลกประเภท Slapstick (ตลกเจ็บตัว), Gross-out (ตลกน่าแหวะ), และตลกร้ายที่เสียดสีอย่างรุนแรง ไม่เหมาะกับทุกคนอย่างแน่นอน! ถ้าคุณเป็นคนขวัญอ่อนหรือซีเรียสกับมุกตลกที่ไม่เหมาะสม ควรข้ามเรื่องนี้ไป แต่ถ้าคุณชอบความฮาแบบถึงลูกถึงคน นี่คือหนังของคุณ
Q: จิม แคร์รี่ แสดงเป็นสองคนได้สุดยอดแค่ไหน?
A: อยู่ในระดับ “อัจฉริยะ” ครับ การเปลี่ยนแปลงทั้งสีหน้า, ท่าทาง, และน้ำเสียงระหว่าง “ชาร์ลี” กับ “แฮงค์” คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าทำไมเขาถึงเป็นราชาแห่งวงการหนังตลกในยุคนั้น
Q: หนังเรื่องนี้ถือว่า ‘ล้าสมัย’ ไปแล้วหรือยัง?
A: ในแง่ของ “ความถูกต้องทางการเมือง” อาจจะใช่ครับ แตในแง่ของ “พลังงานความฮา” และความคิดสร้างสรรค์ในการปล่อยมุก มันยังคงทำงานได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับคนที่ชอบหนังแนวนี้
บทสรุป: Me, Myself & Irene คือรถไฟเหาะตีลังกาแห่งความบ้าคลั่ง เป็นหนังตลกที่ไม่ประนีประนอมและเป็นตัวแทนของยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือโชว์เคสที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ จิม แคร์รี่ ในช่วงที่เขาอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ หากคุณพร้อมที่จะปลดล็อคสมองและหัวเราะไปกับเรื่องราวสุดเพี้ยน นี่คือหนังที่คุณต้อง “ดูหนัง” ให้ได้สักครั้งในชีวิต!