ดูหนัง Mission Impossible The Final Reckoning (2025) มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ
หลังจากหนีจากอุบัติเหตุรถไฟที่เลวร้าย อีธานก็ตระหนักได้ว่าเอนทิตี้ถูกซ่อนอยู่บนเรือดำน้ำรัสเซียเก่า แต่ศัตรูจากอดีตของเขาที่ชื่อกาเบรียลก็อยู่บนเส้นทางเช่นกัน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ แมคควอรี
รีวิวหนัง
Film Boy
[CR] (No Spoil) Review : Mission Impossible The Final Reckoning (2025)
มันก็ใจหายเหมือนกันนะที่เราจะไม่ได้เห็นทอม ครูซในMission Impossibleอีกแล้ว แต่อีกใจก็ให้แกไปทำอย่างอื่นบ้างเถอะ เพราะยังไงผมเชื่อว่าถ้าใครคิดจะRemake MIในอนาคตละก็คิดให้ดีๆเลย สำหรับผมEthan Huntคงไม่มีใครแทนป๋าทอมได้แน่ๆ เกิดทันทุกภาค แต่มาได้ดูจริงๆก็โตขึ้นมาหน่อยแล้ว 1-4ไม่ได้ดูในโรงแต่5ถึงภาคสุดท้ายดูโรงหมด สิ่งหนึ่งที่ผมพูดเสมอคือกาลเวลาทำอะไรป๋าแกไม่ได้จริงๆ แล้วแกก็สุดจนกระทั่งภาคสุดท้ายเลยการเล่นฉากอันตรายโดยไม่ใช้Stuntนี่ละทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นที่จดจำมาถึงทุกวันนี้ มันดีมากๆที่ทำให้คนที่รักแฟรนไชส์นี้ได้เห็นอะไรที่เคยเห็นมานานแล้ว กลับมาสู่การปิดตำนานอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับทุกอย่างจริงๆทีมงานทุกคน นักแสดงทุกท่าน ที่มีส่วนกับMission Impossibleตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคสุดท้าย ที่ทำให้ทุกคนบนโลกได้ดูหนังแอคชั่นที่มีอายุเกือบ30ปีพระเอกคนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง และแน่นอนที่สำคัญที่สุดขอบคุณTom Cruiseที่ทุ่มเททุกอย่างกับหนังเรื่องนี้และดูแลตัวเองมากๆเพื่อรับบทEthan Huntมาเกือบ30ปี เรียกได้ว่าจะยุคไหนก็ต้องมีคนที่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน ยกเว้นเด็กที่เกิดหลังจากนี้อะนะ ฮ่าๆ อย่าลืมไปดูการปิดฉากภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ครั้งสุดท้าย ควรดูที่โรงภาพยนตร์เท่านั้นอรรถรสดีที่สุดแล้วครับ
Score 9/10 (A)
Film Boy
ตั๋วร้อนWorldwide
รีวิวสั้น
Mission: Impossible – The Final Reckoning (2025)
นอกจากจะเป็นบทสรุปชีวิต อีธาน ฮันท์ อันจะทำให้คนที่โตมากับสายลับสับตีนแตกผู้นี้ต้องขนลุก น้ำตารื่น มันยังเป็นหนังที่ ทอม ครูซ ตั้งใจจะทุบอก กู่ร้องบอกผู้คนในวงการที่เขารักว่า เราอย่าไปกลัวไอ้ AI พวกนี้เลย มึงจะมาเก่งกว่าคนแท้ๆมีเนื้อมีหนังมีสมองได้ยังไงวะ
สมศักดิ์ศรีเชียวแหละคุณเอ๊ย… อาการลุ้นจนเกร็งกลับมาอีกครั้ง บางซีเคว้นซ์แทบหยุดหายใจทั้งๆที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภาคนี้จะเอาฮาก็ฮาลั่นโรง จะเอาทางดราม่าตับแตกมันก็น้ำตารินกันเลยทีเดียว ทอม ครูซ แม่งคือยอดมนุษย์จริงๆ
M buffs รีวิวหนัง
รีวิวหนัง Mission Impossible – The Final Reckoning (2025)
– ไม่สปอยล์เนื้อหาในภาพยนตร์ –
ภาคนี้มันเป็นบทสรุปของเรื่องราวทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในแฟรนไชส์ ทั้งในแง่การเล่าเรื่องต่อจากหนังภาค 7 และยังเป็นบททิ้งทวนที่หล่อหลอมสิ่งเก่าๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ภาคแรกๆ มาบรรจบกันที่หนังภาคนี้ มีทั้งการรีแคปภาพในอดีตตัดสลับทามไลน์ตัวละครเก่าที่โคจรกลับมาให้แฟนๆ คือถ้าใครตามดูตั้งแต่ภาคแรกจริง ๆ ก็คงได้น้ำตารื้นกันบ้างแหล่ะ
โดยหนังภาคนี้ค่อนข้างที่จะยาวพอสมควรแต่โชคดีตรงที่เค้าบาลานซ์สัดส่วนของเรื่องราวได้ไม่น่าเบื่อ อาจจะมีเหนือยๆ บ้าง โดยในแต่ละช่วงมันก็จะมีเส้นเรื่องที่ตัวละครต้องใช้ชีวิตและทำภารกิจสุดหฤโหดกันเน้นๆ ซึ่งมันอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชันและการใช้ไหวพริบของอีธานและเดอะแก๊งค์มากมาย จังหวะการเล่า และบทสนทนาส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างที่จะไวแนะนำว่าตอนดูให้โฟกัสอยู่ที่จอให้ได้มากที่สุด ซึ่งในแง่ของความสนุกและความระทึกหนังเรื่องนี้ใส่กันมาแบบจัดเต็ม อย่างฉากตอนดำน้ำดูแล้วรู้สึกอึดอัดตามตัวละครมาก หรือแม้แต่ฉากเครื่องบินตอนท้ายเรื่องที่นำเสนอออกมาได้หวาดเสียวมากและดันไปเกื้อหนุนกับระบบ IMAX เลยทวีคูณความมันส์ขึ้นอีก อีกทั้งปลายทางของเรื่องราวที่เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่เราดูแล้วเรารู้สึกภูมิใจในตัวละครมากๆ
ภาพรวม The Final Reckoning ยังคงเป็นหนังที่รักษามาตรฐานความสนุกในแบบที่เราเคยได้ดูกันมาตั้งแต่ภาคก่อนๆ มันมีช่วงเวลาให้เรารู้สึกระทึกใจ และซาบซึ้งใจไปกับภารกิจที่เสมือนเป็นบททิ้งทวนให้กับคนดูในคราวเดียวกัน ใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้ หรืออยากดูอะไรมันส์แบบนอนสต็อป คือห้ามพลาดเลย