แนะนำตัวละครและทีมผู้สร้าง
มังกี้ ดี. ลูฟี่: กัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนในวัยเด็ก
อูตะ (Uta): ตัวละครออริจินัลประจำภาคนี้ ดีว่าอันดับหนึ่งของโลก ผู้มีอดีตอันซับซ้อนและเจ็บปวดร่วมกับแชงคูสและลูฟี่
แชงคูส “ผมแดง”: หนึ่งในสี่จักรพรรดิผู้ลึกลับ พ่อบุญธรรมของอูตะ และเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด
ให้เสียงร้องอูตะโดย: Ado (อาโดะ) ศิลปินสาวลึกลับชาวญี่ปุ่นผู้มีพลังเสียงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เธอร้องนั้นโด่งดังถล่มทลายไปทั่วโลก
ผู้กำกับ: โกโร ทานิงุจิ (Goro Taniguchi)
ควบคุมการผลิตโดย: เออิจิโระ โอดะ (Eiichiro Oda) อาจารย์ผู้เขียนวันพีซ ลงมาคุมงานสร้างด้วยตัวเอง
โปสเตอร์หนัง
รีวิวจัดเต็ม: เดอะมูฟวี่ที่ไม่ได้เน้นแค่ “การต่อสู้” แต่คือ “บทเพลง” และ “ดราม่า”
ณ ปี 2025 เมื่อมองย้อนกลับไป One Piece Film: Red ยังคงเป็นเดอะมูฟวี่ที่โดดเด่นและแตกต่างจากภาคก่อนๆ อย่างชัดเจน หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่การรวมดาวตัวละครมาต่อสู้กับบอสสุดแกร่ง แต่คือ “ภาพยนตร์มิวสิคัล” ที่ใช้บทเพลงเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวและอารมณ์ของตัวละครได้อย่างทรงพลัง เพลงแต่ละเพลงที่อูตะร้อง (โดยเสียงของ Ado) ไม่ใช่แค่เพลงประกอบ แต่คือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องที่สะท้อนความรู้สึก, ความฝัน และความเจ็บปวดของเธอ ในแง่ของเนื้อหา หนังเจาะลึกไปที่ประเด็นดราม่าอันหนักหน่วงของอูตะได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เธอไม่ใช่ตัวร้ายที่น่ารังเกียจ แต่เป็นตัวละครที่น่าสงสารและน่าเอาใจช่วย ความสัมพันธ์ระหว่าง “พ่อ-ลูก” ของแชงคูสกับอูตะ และมิตรภาพระหว่างอูตะกับลูฟี่ คือหัวใจหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตราตรึงใจแฟนๆ ทั่วโลก และแน่นอนว่าแฟนๆ ของจักรพรรดิผมแดงต้องฟินสุดๆ เพราะนี่คือครั้งแรกที่เราได้เห็นกลุ่มโจรสลัดผมแดงโชว์เทพแบบจัดเต็ม!
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 6.8/10
Rotten Tomatoes: 95% (Certified Fresh)
cb_whitewood
😍 7/10
ฉันไม่ได้ติดตาม One Piece เท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันไม่สนุกกับหนังเรื่องนี้เลย! แอนิเมชั่นและเอฟเฟกต์ภาพดูน่าดึงดูดมาก เพลงประกอบก็ดูจืดชืดไปหน่อย และถึงแม้เนื้อเรื่องจะเดาทางได้ แต่การดำเนินเรื่องไปตามเนื้อเรื่องก็ทำให้ฉันสนุกกับฉากต่างๆ ได้ ฉันไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะเข้ากับเนื้อเรื่องหลัก (ถ้าเป็นเนื้อเรื่องหลัก) ยังไง แต่ Uta ก็มีความซับซ้อนพอสมควรและมีพลังที่มากเกินไปอย่างน่าทึ่ง ฉันชอบที่ได้เห็นพลังผลปีศาจของเธอ และความสัมพันธ์ของเธอกับลูฟี่ก็สนุกดี นอกจากเสียงคนดูจะเอะอะโวยวายเล็กน้อยแล้ว ฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหนังเรื่องนี้มากนัก ดูสนุกดี และถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์นี้ ก็น่าจะมีอะไรให้พูดถึงอีกเยอะ
jraymondshaw
😍 6/10
เรื่องนี้ทำให้ฉันซาบซึ้งใจจริงๆ เอาจริงๆ นะ อุตะ ตัวร้ายนี่น่ารักสุดๆ ไปเลย ฉันค่อนข้างจะสงสัยทุกครั้งที่ VG หรือจักรวาลอนิเมะนำเสนอ “ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก” แต่ฉันชอบเพลงประกอบและแอนิเมชันที่เข้ากับตัวละครเหล่านั้นมาก! การได้เห็นตัวละครหญิงผู้มองโลกในแง่ดีคนนี้ค่อยๆ มืดมนลงอย่างงดงามนั้นช่างน่าเศร้า และฉันคิดว่ามันทำให้การเดินทางของลูฟี่ดูเข้มข้นขึ้นอีกนิด แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ ตัวละครที่มาปรากฏตัวนั้นดุดันมากจนทำให้ความน่าสนใจลดน้อยลง การที่มี REDACTED อยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เพราะตัวละครอื่นๆ ในซีรีส์ดูเหมือนจะอัดแน่นไปด้วย! แอนิเมชันการต่อสู้นั้นเข้มข้น และใช่ แอนิเมชันนั้นดีมาก! แต่ด้วยจำนวนตัวละครที่มาก ทำให้การต่อสู้เริ่มดูยากขึ้น และส่วนตัวแล้ว ฉันค่อนข้างลังเลกับหน้าจอมากกว่าหนึ่งครั้งเมื่อเห็นแรงจูงใจของตัวละครต่างๆ ปรากฏออกมา ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ลงตัว เป็นหนังที่สวยงามมาก แต่ก็ดูวุ่นวายมากเช่นกัน ซึ่งถ้าคุณชอบ One Piece เหมือนผม คุณอาจจะชอบรสชาติแบบนี้แหละ
aliyaaisyah
😍 5/10
เพลงเพราะๆ ฉากต่อสู้ก็เจ๋งดี แต่เสียดายบางฉากที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ผมชอบวันพีซมาก แต่บอกเลยว่าเกือบหลับกลางเรื่อง เพราะฉากต่อสู้ใช้เอฟเฟกต์เยอะเกินไป ซ้ำซากจำเจจนเสียสมาธิ เบื่อสุดๆ น่าเสียดายที่หนังวันพีซยุคหลังๆ กลายเป็นหนังตลกโปกฮาแทนที่จะเป็นหนังผจญภัยดีๆ ที่มีแค่กลุ่มหมวกฟาง รู้ว่าการได้เห็นตัวละครเก่าๆ กลับมาก็น่าสนใจ แต่การที่ตัวละครโผล่มาแบบงงๆ เยอะเกินไปทำให้ดูเหมือนแค่โชว์เฉยๆ ผมเชื่อว่าหนังวันพีซส่วนใหญ่ไม่ใช่หนังตามต้นฉบับ แต่คิดว่ายังต้องมีความน่าเชื่อถือถึงจะสนุก และหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความต่อเนื่องหรือคุณค่าอะไร (เมื่อเทียบกับซีรีส์ที่ฉายยาวๆ และมีจักรวาลของตัวเอง) แต่โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ก็สนุกและน่าดู เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบวันพีซคลาสสิก และแน่นอนว่าการได้เห็นกลุ่มหมวกฟางมารวมตัวกันก็เป็นเรื่องดีเสมอ!
อนิเมะแนวคล้ายกันที่แนะนำ
หากคุณชื่นชอบความอลังการและดนตรีประกอบสุดประทับใจของ Film: Red เราขอแนะนำ:
Belle (2021) เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง : อนิเมะมิวสิคัลสุดตระการตาจากผู้กำกับ มาโมรุ โฮโซดะ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวขี้อายที่กลายเป็นดีว่าชื่อดังในโลกเสมือนจริง
Weathering with You (2019) ฤดูฝัน ฉันมีเธอ : ผลงานจาก มาโคโตะ ชินไค ที่มีงานภาพสวยงามจับใจและเพลงประกอบที่ไพเราะไม่แพ้กัน
Jujutsu Kaisen 0 (2021) มหาเวทย์ผนึกมาร ซีโร่ : อีกหนึ่งอนิเมะเดอะมูฟวี่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง กับเรื่องราวสุดเข้มข้นของ “อคคทสึ ยูตะ” ที่เต็มไปด้วยฉากต่อสู้สุดมันส์และดราม่ากินใจ
สำหรับใครที่อยากย้อนกลับไปสัมผัสประสบการณ์คอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของวันพีซอีกครั้ง One Piece Film: Red ยังคงรอให้คุณกลับไปพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของมันได้เสมอที่ Movie24HD
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: One Piece Film: Red เป็นเนื้อเรื่องหลัก (Canon) หรือไม่?
A: เป็นคำถามยอดฮิตตลอดกาล! คำตอบคือ “กึ่ง Canon” ครับ อาจารย์โอดะได้ยืนยันว่า “ตัวตนของอูตะ” และเรื่องราวในอดีตที่เธอเป็นเพื่อนกับลูฟี่และเป็นลูกสาวของแชงคูสนั้น “เป็นเนื้อเรื่องหลัก” (Canon) โดยมีการปรากฏเงาของเธอในมังงะตอนที่ 1055 ด้วย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนเกาะเอเลเจียในภาพยนตร์ ถือเป็นเหตุการณ์เฉพาะในเดอะมูฟวี่ (Non-canon) เพื่อไม่ให้กระทบกับไทม์ไลน์หลักครับ
Q: ไม่เคยดูวันพีซมาก่อน จะดูเรื่องนี้รู้เรื่องไหม?
A: อาจจะไม่อินเท่าแฟนๆ แต่ก็สามารถดูสนุกได้ในระดับหนึ่งครับ เพราะหนังมีพล็อตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในตัวเอง แต่เพื่ออรรถรสสูงสุด การรู้จักความสัมพันธ์ระหว่างลูฟี่กับแชงคูสมาบ้างจะช่วยให้เข้าใจบริบทมากขึ้น
Q: จุดเด่นที่สุดของภาคนี้คืออะไร?
A: ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคือ “บทเพลง” ครับ อัลบั้ม “Uta no Uta: One Piece Film Red” ที่ร้องโดย Ado กลายเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มาจนถึงทุกวันนี้
Q: (อัปเดต กรกฎาคม 2025) Legacy หรือมรดกที่หนังเรื่องนี้ทิ้งไว้คืออะไร?
A: Film: Red ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอนิเมะเดอะมูฟวี่ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าการเล่าเรื่องผ่านบทเพลงสามารถประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และคำวิจารณ์ได้ไม่แพ้ฉากแอ็คชั่น และยังทำให้ “อูตะ” กลายเป็นหนึ่งในตัวละครเดอะมูฟวี่ที่แฟนวันพีซรักและจดจำมากที่สุด แม้เธอจะไม่ได้มีบทบาทในเนื้อเรื่องหลักก็ตาม