ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: เมนาเฮม โกแลน (Menahem Golan)
- นักแสดงนำ:
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) รับบท ลินคอล์น ฮอว์ค
- โรเบิร์ต ลอกเกีย (Robert Loggia) รับบท เจสัน คัตเลอร์ (คุณตา)
- ซูซาน เบลคลีย์ (Susan Blakely) รับบท คริสติน่า ฮอว์ค
- เดวิด เมนเดนฮอลล์ (David Mendenhall) รับบท ไมเคิล คัตเลอร์/ฮอว์ค
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังแอ็กชัน-ดราม่าที่เต็มไปด้วยหัวใจ
“Over the Top” คือภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างครบรสอย่างแท้จริง หนังอาจจะไม่ได้มีบทภาพยนตร์ที่ซับซ้อน แต่ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวความรักของ “พ่อ” ที่มีต่อ “ลูก” ออกมาได้อย่างซาบซึ้งและกินใจ
จุดแข็งที่สุดของหนังคือ “ฉากการแข่งขันงัดข้อ” ที่ทำออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้นและเร้าใจ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นกีฬาที่แปลกใหม่สำหรับโลกภาพยนตร์ การแสดงของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน นั้นยอดเยี่ยมและน่าเอาใจช่วย เขาถ่ายทอดบทบาทของชายผู้แข็งแกร่งแต่ก็มีหัวใจที่อ่อนโยนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และที่ขาดไม่ได้เลยคือ เพลงประกอบ สุดมันส์ในสไตล์ร็อกยุค 80s โดยเฉพาะเพลง “Winner Takes It All” ของ Sammy Hagar และ “Meet Me Half Way” ของ Kenny Loggins ที่กลายเป็นเพลงชาติของหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 5.8/10
- Rotten Tomatoes: 35% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ แต่คะแนนฝั่งผู้ชมสูงถึง 64%!)
หมื่นทิพ
กับหนังแนวชีวิตปนแอ็คชั่นอีกครั้งครับ คราวนี้เขารับบทเป็นลินคอล์น ฮอว์ค สิงห์รถบรรทุกที่ต้องการจะผูกสัมพันธ์กับลูกที่ห่างเหินของเขา ไมเคิล คัตเลอร์ (David Mendenhall) ช่วงแรกก็ทุลักทุเลอยู่ครับ แต่ซักพักพ่อลูกก็เริ่มเข้าใจกัน แต่ทว่าเจสัน คัตเลอร์ (Robert Loggia) ตาของไมเคิล (หรือพ่อเมียนั่นเอง) เกิดไม่เห็นดีด้วย เลยมีการลงมือขัดขวางทุกวิถีทางครับ เอาล่ะสิ แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันล่ะ ก็เป็นหนังตามสูตรพ่อลูกที่ไม่เคยเจอหน้า แล้วต้องมาอยู่ร่วมกันนั่นแหละครับ ถ้าเป็นหนังสมัยใหม่หน่อยก็อาจทำให้หลายคนนึกถึง Reel Steel สำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ มีเนื้อหาที่ดี การเดินเรื่องโอเค แต่ก็อาจยังไม่ถึงขั้นเด็ดอะไรมาก ในขณะที่พี่สไลก็ถือว่าแสดงได้ดีตามมาตรฐานของพี่เขานั่นแหละครับ
ยอมรับว่าแอบแปลกใจที่ดาราสมทบอย่าง Loggia ไมไ่ด้เสริมให้หนังแข็งขึ้นอย่างที่คิด และช่วงกลางของเรื่องก็อืดๆ อยู่บ้างครับ จะเริ่มเข้าท่าบ้างก็ปาเข้าไปช่วงท้าย ตอนแข่งงัดข้อชิงแชมป์นั่นค่อยเข้มข้นขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าพูดถึงหนังโดยรวมก็ขอบอกว่า หนังเรื่องนี้ยังดีได้อีกครับ ก็เหมาะสำหรับแฟนพี่สไลน่ะครับ หรือถ้าชอบหนังแนวพ่อลูกจะลองดูก็ได้ แต่อย่าคาดหวังนะครับ ดูแบบสบายๆ อาจจะทำให้ท่านสนุกกับหนังได้มากขึ้นครับ และดนตรีประกอบก็อาจจะโอเคตามสไตล์หนังยุค 80 เช่นเดียวกับองค์ประกอบอีกหลายๆ อย่างที่โอเคน่ะครับ เพียงแต่การเล่าเรื่องอาจจะยังไม่ลงตัวพอเท่านั้น
เกร็ดที่อยากทำมาเล่าก็คือ ว่ากันว่าจริงๆ พี่สไลไม่ได้อยากจะเล่นหนังเรื่องนี้นักหรอกครับ แต่ด้วยลูกตื้อของผู้สร้างอย่าง Menahem Golan ที่เสนอจะเพิ่มค่าตัวให้พี่สไลจนกว่าเขาจะพอใจ พอเจอแบบนี้พี่สไลเลยคิดว่า “เอาเหอะ รับแสดงเรื่องนี้มันจะเป็นไรไป ยังไงก็คงไม่ค่อยมีใครมาดูอยู่แล้ว” ประมาณว่ากำเงินไว้ก่อนแล้วกัน แล้วพี่เขาก็รับปากมาแสดงครับ นอกจากนี้พี่สไลยังเคยออกมาบอกว่า จริงๆ เขาก็ไม่ค่อยพอใจกับหนังสักเท่าไร และเอ่ยปากถึงขนาดว่าถ้าให้เขากำกับเองล่ะก็ หนังจะดีกว่านี้ เล่าเรื่องลื่นกว่านี้ ดนตรีจะเวิร์กกว่านี้ และที่สำคัญคือฉากไคลแม็กซ์จะน่าจดจำกว่านี้ – นั่นก็คือมุมมองของพี่สไลที่มีต่อผลงานชิ้นนี้ครับ
buff63
⭐ 6/10
ล้อเล่นใช่มั้ย? ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ในหนังมวยปล้ำแขนเนี่ยนะ? จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก? ถ้าลูกอัณฑะของคุณยังไม่แข็งเป็นเหล็กหลังจากดูหนังเรื่องนี้ คุณก็ต้องเป็นผู้หญิง หรือ… นั่นคือคำอธิบายเดียว การแสดง? เนื้อเรื่อง? การถ่ายภาพยนตร์? ใครสน? เพลิดเพลินไปกับเทสโทสเตอโรนและความเชยแบบจัดเต็มตลอด 90 นาที “Over the top” คือชื่อหนังที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าคุณชอบหนังยุค 80s หนังอะไรก็ตามที่โอเวอร์ หรือแค่การแสดงแปลกๆ กับคำพูดที่แปลกแต่ซาบซึ้งของซิลเวสเตอร์ สตอลโลน คุณก็จะสนุกกับการดูหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบคำพูดแบบนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงผลงานชิ้นเอกเรื่องนี้
sol-kay
⭐ 6/10
***สปอยล์*** อีกหนึ่งตัวละครชายผู้อ่อนโยนและเรียบง่ายของซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ที่เอาชนะอุปสรรคมากมายราวกับภาพยนตร์ที่เขาสร้างในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ได้สำเร็จ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน รับบทเป็นสไลม์ผู้พูดจาอ่อนหวานและดูไม่ก้าวร้าว จนกระทั่งคุณลุงลินคอล์น ฮอว์ค คนขับรถบรรทุก ฮอว์คถูกเรียกตัวมาหลังจากการผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่ คริสตินา อดีตภรรยา ซูซาน แบล็กลีย์ ต้องการให้เขาได้กลับมาพบกับไมเคิล เมนเดนฮอลล์ ลูกชายวัย 12 ปีของทั้งคู่ ซึ่งเขาไม่ได้เจอเขาตั้งแต่เกิด! แน่นอนว่าไมเคิลที่กำลังเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร ไม่อยากยุ่งกับความรู้สึกที่พ่อทิ้งเขาและแม่ไป เพราะคุณปู่เจสัน “คัต-โทรท” คัตเลอร์ หรือโรเบิร์ต ล็อกเกีย ผู้คลั่งไคล้การควบคุม คอยป้อนเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับพ่อให้เขามาตลอดเท่าที่เขาจำได้
ฮอว์คใช้เวลาไม่นานก็ชนะใจไมเคิลตัวน้อยด้วยการเปิดเผยตัวตนของเขา เมื่อเขาถูกท้าทายโดยชายกล้ามโตคนหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแถวบ้าน เกี่ยวกับชีวิตลับๆ ของเขาในฐานะแชมป์มวยปล้ำแขน การสอนไมเคิลขับรถ 18 ล้อโดยไม่มีใบขับขี่บนทางหลวง ทำให้ในที่สุดไมเคิลก็หันมามองคนที่หายไปนาน 12 ปี ว่าพ่อคือคนที่เขาอยากเป็นเมื่อโตขึ้น! เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อไมเคิลไปถึงโรงพยาบาลเพื่อไปพบแม่ แต่กลับพบว่าแม่เสียชีวิตโดยที่พ่อไม่ได้บอกลาแม่เป็นครั้งสุดท้าย! เขาโทษพ่อที่ไปสายเกินไป โดยขับรถไปโรงพยาบาลโดยที่รถบรรทุกพ่วงไม่ได้บินไปกับคุณปู่ เพื่อที่จะเห็นแม่ยังมีชีวิตอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพ่ออีกเลย
หนังเรื่องนี้พลิกผันไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุดสำหรับฮอว์ค เมื่อด้วยความสิ้นหวังที่จะได้เจอไมเคิล เขาจึงใช้พลังขับเคลื่อนรถพุ่งชนคฤหาสน์ของคุณปู่เจสันจนพังยับเยิน คุณปู่ปฏิเสธที่จะตั้งข้อหาฮอว์คก็ต่อเมื่อฮอว์ครอดพ้นจากชีวิตทั้งของเขาและไมเคิล ซึ่งฮอว์คยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจเพราะพยายามหลบเลี่ยงการถูกขัง ตอนนี้ฮอว์คที่กำลังจะหมดความอดทนกับไมเคิล สิ่งเดียวที่ฮอว์คทำได้คือการชนะการแข่งขันมวยปล้ำแขนชิงแชมป์โลกที่ลาสเวกัส นั่นคือจุดที่ฮอว์คผู้สิ้นหวังจะได้พิสูจน์ตัวเองให้ไมเคิลและโลก รวมถึงคุณปู่เจสันเห็นว่าเขาไม่ใช่คนพ่ายแพ้อย่างที่ใครๆ พูดกัน ยิ่งไปกว่านั้น ไมเคิลยังพบจดหมายหลายร้อยฉบับ รวมถึงการ์ดอวยพรวันเกิดและการ์ดอวยพรหายป่วยจากพ่อที่ส่งให้ตลอดหลายปีที่คุณปู่ปิดบังไว้! นั่นพิสูจน์ให้ไมเคิลเห็นว่าพ่อฮอว์คเป็นคนน่ารักและเอาใจใส่อย่างที่เขาบอกเสมอ! และยังพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณปู่เจสันไม่ได้ฉลาดนักที่ทิ้งจดหมายไว้ข้างนอกโดยไม่เผาให้หลานชายไมเคิลเจอ
****สปอยล์**** รอบชิงชนะเลิศสุดยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยเสียงครางและเสียดสีกันอย่างครวญครางท่ามกลางเหล่าผู้เข้าแข่งขันงัดข้อที่เหงื่อท่วม ณ ลาสเวกัส คอนเวนชัน ฮอลล์ ฮอว์คผู้บาดเจ็บแขนพลิกต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สุดหิน ขณะที่เขากำลังไต่เต้าขึ้นสู่แมตช์ชิงแชมป์โลกกับบ็อบ “บูลล์” เฮอร์ลีย์ แชมป์งัดข้อระดับโลก 5 ปีซ้อน สูง 6 ฟุต 4 นิ้ว หนัก 350 ปอนด์ รับบทโดยริค ซัมวอลต์ แชมป์งัดข้อตัวจริง ไมเคิลผู้หนีออกจากบ้านก็ปรากฏตัวขึ้นที่การแข่งขันพร้อมกับคุณปู่เจสัน ผู้ซึ่งพยายามพาเขากลับบ้าน ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแข่งขันงัดข้อที่สะเทือนขวัญและแขนหักครั้งนี้! ไมเคิลลูกชายของเขาเป็นแรงผลักดันให้ฮอว์คโชว์ฝีมือแบบ “โอเวอร์ เดอะ ท็อป” และในที่สุด หลังจากเสียงคราง เสียงคราง นิ้วหัก และกระดูกหัก เขาก็คว้าชัยชนะในการแข่งขันอันน่าเหลือเชื่อนี้ไปครอง!
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังดราม่า-กีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจ เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Rocky (1976) ร็อคกี้: ตำนานหนังมวยที่แจ้งเกิดให้กับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน
- The Karate Kid (1984) คาราเต้ คิด: ตำนานหนังครู-ศิษย์ที่ว่าด้วยการเรียนรู้คาราเต้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
- Real Steel (2011) ศึกหุ่นเหล็กกำปั้นถล่มปฐพี: หนังดราม่า-หุ่นยนต์ที่ว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของพ่อลูกเช่นเดียวกัน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ทำไมนักวิจารณ์ถึงให้คะแนนน้อยกว่าผู้ชม?
A: นักวิจารณ์ในยุคนั้นมองว่าพล็อตเรื่องมีความ “น้ำเน่า” และคาดเดาได้ง่ายเกินไป แต่ผู้ชมทั่วไปกลับชื่นชอบอย่างถล่มทลายในเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจ, ความมันส์ของการแข่งขันงัดข้อ, และการแสดงที่น่าเอาใจช่วยของสตอลโลน ซึ่งทำให้หนังกลายเป็น “คัลท์คลาสสิก” ในเวลาต่อมา
Q: ท่ากลับหมวกของสตอลโลนมีความหมายอะไร?
A: เป็นเหมือนการ “เปิดสวิตช์” ครับ! ทุกครั้งที่ลินคอล์น ฮอว์ค กำลังจะทำการแข่งขันงัดข้อที่สำคัญ เขาจะหมุนหมวกแก๊ปของเขากลับหลัง ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ว่าเขาพร้อมที่จะเข้าสู่ “โหมดนักสู้” แล้ว! และมันก็ได้กลายเป็นท่าไอคอนิกที่แฟนๆ จดจำได้เป็นอย่างดี
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับแฟนๆ ของซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, คนที่ชื่นชอบหนังแอ็กชัน-ดราม่าสไตล์ยุค 80s, และทุกคนในครอบครัวที่อยากดูหนังที่ให้ทั้งความมันส์และความรู้สึกดีๆ