ดูหนัง Road Trip (2000) เทปสบึมส์ ต้องเอาคืนก่อนถึงมือเธอ
ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นในยุค 2000 คงไม่มีใครไม่รู้จักหนังตลกสุดเกรียนที่สร้างเสียงหัวเราะจนท้องแข็งเรื่องนี้ Road Trip คือหมุดหมายสำคัญของหนังแนว “Gross-out Comedy” ที่แจ้งเกิดตามหลังรุ่นพี่อย่าง American Pie มาติดๆ วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” เรื่องนี้กันอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่ากาลเวลาจะทำอะไรความฮาของมันได้หรือไม่!
เรื่องย่อ เทปสบึมส์ ต้องเอาคืนก่อนถึงมือเธอ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดโง่ๆ แค่ครั้งเดียว! จอช (เบร็คคิน เมเยอร์) หนุ่มมหา’ลัยที่กำลังมีความรักทางไกลกับ ทิฟฟานี่ (ราเชล แบลนชาร์ด) แฟนสาวสุดสวย แต่ดันเผลอไปมีสัมพันธ์สวาทกับสาวสุดฮอตอย่าง เบ็ธ (เอมี่ สมาร์ท) แล้วดันอุตริอัดวิดีโอเทปเก็บไว้ดูต่างหน้า
เรื่องมันคงไม่วุ่นวายขนาดนี้… ถ้าเขาไม่เผลอส่ง “เทปสบึมส์” ม้วนนั้นไปให้แฟนสาวของตัวเองทางไปรษณีย์!
เมื่อรู้ตัวว่าหายนะกำลังจะมาเยือน จอชจึงต้องรวบรวมผองเพื่อนสุดเพี้ยน ประกอบด้วย อี.แอล. (ฌอนน์ วิลเลียม สก็อตต์) จอมปาร์ตี้ตัวพ่อ, รูบิน (เปาโล คอสแตนโซ) หนุ่มสายเมากัญชา และ ไคล์ (ดีเจ ควอลส์) เด็กเนิร์ดสุดเอ๋อ เพื่อออกเดินทางข้ามรัฐเป็นระยะทางกว่า 1,800 ไมล์! ภารกิจของพวกเขามีเพียงหนึ่งเดียว คือต้องชิงเทปมรณะกลับมาให้ได้ ก่อนที่มันจะถึงมือทิฟฟานี่! การเดินทางสุดอลหม่านที่เต็มไปด้วยอุปสรรคสุดบ้าคลั่งจึงเริ่มต้นขึ้น
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
แนะนำทีมนักแสดงสุดป่วน
เบร็คคิน เมเยอร์ (Breckin Meyer) รับบทเป็น จอช ชายหนุ่มผู้ก่อเรื่องและต้องตามล้างตามเช็ด
ฌอนน์ วิลเลียม สก็อตต์ (Seann William Scott) รับบทเป็น อี.แอล. ตัวสร้างสีสันที่ขโมยซีนแทบทุกฉาก (หลายคนยกให้เป็น “สติฟเลอร์” ของเรื่องนี้)
เอมี่ สมาร์ท (Amy Smart) รับบทเป็น เบ็ธ สาวสวยที่เป็นต้นตอของเรื่องวุ่นๆ
ดีเจ ควอลส์ (DJ Qualls) รับบทเป็น ไคล์ เด็กเนิร์ดเวอร์จิ้นที่ได้เปิดโลกในการเดินทางครั้งนี้
ทอม กรีน (Tom Green) รับบทเป็น แบร์รี่ ผู้บรรยายเรื่องราวสุดเพี้ยนที่ปรากฏตัวได้ไม่แคร์โลก
ผู้กำกับ: จากหนังตลกสุดเกรียน สู่ผู้กำกับรางวัลออสการ์!
นี่คือข้อมูลที่พีคที่สุด! คุณรู้หรือไม่ว่าผู้กำกับหนังตลกทะลึ่งตึงตังเรื่องนี้คือ ท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) ซึ่งต่อมาเขาได้กลายเป็นผู้กำกับชื่อดังระดับโลก เจ้าของผลงานสุดปังอย่าง The Hangover ทั้งสามภาค และที่น่าทึ่งที่สุดคือภาพยนตร์ดราม่า-จิตวิทยาสุดดาร์กที่คว้ารางวัลออสการ์อย่าง Joker (2019) ! ไม่น่าเชื่อว่าคนๆ เดียวกันจะทำหนังได้สุดขั้วขนาดนี้
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและมุมมองความฮา
Road Trip คือไทม์แมชชีนที่พาเรากลับไปสู่ความสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมากของยุค 2000 อย่างแท้จริง หนังเต็มไปด้วยมุกตลกห่ามๆ, สถานการณ์บ้าๆ บอๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง และเคมีของทีมนักแสดงที่เข้าขากันอย่างลงตัว แม้พล็อตเรื่องจะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เสน่ห์ของมันคือการพาคนดูไปลุ้นกับภารกิจสุดป่วนและหัวเราะไปกับความซวยของตัวละคร
IMDb: ให้คะแนน 6.4/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 57% แต่คะแนนจากฝั่งผู้ชม (Audience Score) สูงถึง 73% ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นหนังที่โดนใจผู้ชมในวงกว้างได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับ Movie24HD นี่คือหนังตลกขึ้นหิ้งที่ “ต้องดู” สำหรับคอหนังวัยรุ่น หากคุณชอบมุกตลกที่ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมและเรื่องราวการเดินทางสุดเพี้ยน นี่คือหนังของคุณ!
claudio_carvalho
⭐ 7/10
ที่มหาวิทยาลัยอิธากา แบร์รี แมนิโลว์ (ทอม กรีน) ไกด์นำเที่ยวผู้มากประสบการณ์ ขณะพานักศึกษาใหม่และญาติๆ เที่ยวชมมหาวิทยาลัย เล่าเรื่องราวความรักของจอช พาร์คเกอร์ (เบร็กกิน เมเยอร์) เพื่อนของเขา จอชมีแฟนสาวชื่อทิฟฟานี เฮนเดอร์สัน (ราเชล บลานชาร์ด) ซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยออสติน และทั้งคู่สัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อกัน แต่จอชกลับมีสัมพันธ์กับเบธ แวกเนอร์ (เอมี่ สมาร์ท) เพื่อนสาวสุดเซ็กซี่ของเขา และบังเอิญถ่ายวิดีโอเทปไว้ เพื่อนคนหนึ่งของเขาส่งวิดีโอเทปไปให้ทิฟฟานีโดยไม่ตั้งใจ จอชจึงตัดสินใจเดินทางไปออสตินกับเพื่อนของเขา อี.แอล. (ฌอน วิลเลียม สก็อตต์), รูบิน คาร์เวอร์ (เปาโล คอสตันโซ) และไคล์ เอ็ดเวิร์ดส์ (ดีเจ ควอลส์) เพื่อนำวิดีโอเทปกลับมาก่อนที่ทิฟฟานีจะเห็น เขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่? Road Trip เป็นหนังตลกที่ตลกมาก แม้ว่าผู้ชมจะดูมากกว่าหนึ่งครั้งก็ตาม “Road Trip” ใช้เนื้อเรื่องเดียวกับ “Overnight Delivery (1998)” ที่นำแสดงโดยพอล รัดด์ และรีส วิเธอร์สปูน ในรูปแบบเดียวกับ “Animal House” และ “American Pie” ทำให้ฮาจนแทบไม่หยุดหัวเราะไปกับสถานการณ์สุดฮาที่สร้างสรรค์โดยแบร์รี แมนิโลว์, จอช, อี.แอล., รูบิน คาร์เวอร์ และไคล์ เอ็ดเวิร์ดส์ เอมี่ สมาร์ท เซ็กซี่มาก และดีเจ ควอลส์ เป็นตัวละครที่ตลกที่สุด ฉันโหวตให้เจ็ดคะแนน
Boba_Fett1138
⭐ 7/10
นี่คือหนังทั่วไปที่เหมาะแก่การดูเพื่อฆ่าเวลา แม้จะไม่ได้ยอดเยี่ยมหรือน่าจดจำที่สุด แต่มันก็ยังเป็นหนังที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ถึงผมจะชอบดูหนังเรื่องนี้มาก แต่มันก็ไม่ได้ตลกอย่างที่คาดหวังไว้ หนังน่าจะเพิ่มฉากและสถานการณ์ตลกๆ เข้าไปอีกหน่อย มีโอกาสพลาดไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะแย่ จุดแข็งที่สุดของหนังเรื่องนี้คือความรู้สึกสนุก มีช่วงเวลาตลกๆ ที่ยอดเยี่ยมอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้เยอะและต่อเนื่องเท่าที่ผมคาดหวังและหวังไว้ อีกจุดที่ดีของหนังเรื่องนี้คือตัวละคร เบร็กกิน เมเยอร์อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตัวละครเอก แต่ตัวละครอื่นๆ ก็ดูน่าดูมาก โดยเฉพาะดีเจ ควอลส์ มุกตลกของทอม กรีนไม่ได้ตลกเสมอไป เพราะเขาไม่ใช่นักแสดงที่เก่งกาจ แถมยังอาจจะเบี่ยงเบนความสนใจจากเนื้อเรื่องหลักมากเกินไปด้วย เป็นหนังที่วัยรุ่นชอบดูมาก แถมยังมีอารมณ์ขันแบบวัยรุ่นอยู่บ้าง ซึ่งผมมั่นใจว่าบางครั้งพวกเขาคงขำกลิ้งได้ ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คงไม่สามารถเข้าใจมุกตลกทั้งหมดในหนังเรื่องนี้ได้ทั้งหมด
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
ถ้าชอบความฮาแบบบ้าพลังของ Road Trip ต้องไม่พลาดเรื่องเหล่านี้:
American Pie (1999) : ต้นตำรับและราชาแห่งหนังตลกทะลึ่งยุค 2000 ที่เป็นเหมือนพี่ใหญ่ของหนังแนวนี้ทุกเรื่อง
EuroTrip (2004) : เหมือน Road Trip เวอร์ชั่นอัปเกรดที่เปลี่ยนจากเดินทางข้ามรัฐไปเป็นทัวร์ยุโรปสุดป่วนแทน รับประกันความฮาหลุดโลก
Harold & Kumar Go to White Castle (2004) : อีกหนึ่งตำนานหนัง Road Trip ของคู่หูสายพี้ที่ออกเดินทางเพื่อเป้าหมายง่ายๆ แต่ระหว่างทางกลับเจอเรื่องสุดเซอร์เรียล
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้ตลกจริงไหม หรือมีแต่มุกใต้สะดือ?
A: มีทั้งสองอย่างครับ! พล็อตหลักอาจจะมาจากเรื่องทะลึ่ง แต่สถานการณ์ตลกที่ตัวละครต้องเจอนั้นสร้างสรรค์และฮามากจริงๆ เป็นหนังที่ดูแล้วหัวเราะได้ตลอดเรื่อง
Q: หนังเรื่องนี้เหมาะจะดูกับใคร?
A: เหมาะที่สุดที่จะดูกับแก๊งค์เพื่อนครับ รับรองว่าเฮฮากันลั่นบ้านแน่นอน (แต่อาจจะไม่เหมาะที่จะดูกับผู้ปกครองเท่าไหร่นะครับ!)
Q: เพลงประกอบในหนังน่าสนใจไหม?
A: เพลงประกอบคืออีกหนึ่งไฮไลท์! เป็นการรวมเพลงร็อกและป็อปพังก์เท่ๆ ของยุค 2000 ไว้เพียบ ใครที่คิดถึงดนตรีแนวนั้นจะต้องชอบแน่นอน
บทสรุป: Road Trip คือรถไฟเหาะตีลังกาแห่งความฮา เป็นหนังที่ดูง่าย ย่อยง่าย และพร้อมสร้างเสียงหัวเราะให้คุณได้เสมอ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในหนังตลกวัยรุ่นที่ดีที่สุดตลอดกาลอยู่ดี