ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis)
นักแสดงนำ:
ไมเคิล ดักลาส (Michael Douglas) รับบท แจ็ค โคลตัน (และเป็นผู้อำนวยการสร้าง)
แคทลีน เทอร์เนอร์ (Kathleen Turner) รับบท โจน ไวลเดอร์
แดนนี่ เดอวีโต้ (Danny DeVito) รับบท ราล์ฟ
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังผจญภัย-รอมคอมที่สมบูรณ์แบบ
“Romancing the Stone” คือภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างครบเครื่องอย่างแท้จริง หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น, การผจญภัยในป่าที่ลึกลับ, และที่สำคัญที่สุดคือ “เคมี” ที่เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบของนักแสดงนำ ไมเคิล ดักลาส และ แคทลีน เทอร์เนอร์ การปะทะคารมที่ตลกและแสนงอนของทั้งคู่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่รักของคนดู
หนังยังโดดเด่นด้วยการกำกับของ โรเบิร์ต เซเม็กคิส (จาก Back to the Future ) ที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างความมันส์, ความฮา, และความโรแมนติกได้อย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้คือการปรากฏตัวของ แดนนี่ เดอวีโต้ ในบทโจรตัวเล็กสุดป่วนที่ออกมาขโมยซีนได้ทุกฉาก
รางวัลการันตีคุณภาพ:
ชนะเลิศ 2 รางวัลลูกโลกทองคำ: ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม – ประเภทเพลงหรือตลก และสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (แคทลีน เทอร์เนอร์)
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 6.9/10
Rotten Tomatoes: 86% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
⭐7/10
โจแอน ไวล์เดอร์ (Kathleen Turner) นักเขียนสาวที่เข้ามาพัวพันกับเหล่าร้ายโดยไม่ตั้งใจ เมื่อพี่สาวของเธอโดนจับไป พวกผู้ร้ายก็บอกให้โจแอนต้องนำเอาของสิ่งหนึ่งไปแลกกับชีวิตพี่สาว และ ระหว่างการเดินทางเธอได้พบกับ แจ๊ค ที คอลตั้น (Michael Douglas) หนุ่มนักผจญภัย ซึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเธอ แล้วทั้งคู่ก็นำพาตัวเองเข้าไปสู่การตามล่ามรกตที่สุดจะอันตรายและแสนจะโรแมนติก นี่คือหนังผจญภัยนี่แหละครับ คนคู่หนึ่งต้องเดินทางเข้าป่า ไปยังดินแดนกันดาร เจอผู้ร้าย ต้องเอาตัวรอดแล้วก็วิ่งคลุกโคลน ผลออกมาก็ถือว่าสนุกดีครับ ครบสูตรหนังผจญภัย แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือความโรแมนติก ที่แจ๊คกับโจแอนได้ปื๊งกันน่ะแหละ ซึ่งอารมณ์หนังมันไปกันได้นะครับ แล้วยังมีฮาอีกด้วย โดยเฉพาะบทราล์ฟของ Danny DeVito ที่เรียกเสียงฮาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ พี่แกทั้งบ้าทั้งต๊องได้ที่ดีจริงๆ
ผมว่ามันก็เข้าท่าดี หนังแนวนี้คู่รักคู่กัดแบบนี้มันน่าจะสนุกอยู่แล้วล่ะครับถ้าทำถึง และหนังก็ทำได้ด้วย อีกอย่างผมว่าความรักที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางเรื่องวุ่นวายนั้นมันเป็นอะไรที่ เพลิดเพลินไม่น้อย แม้ใน Speed พระเอกจะบอกว่ามันไม่ค่อยยั่งยืนก็เถอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามันรัญจวนอารมณ์ไปอีกแบบนึง แล้วพอดีที่ทั้ง Douglas และ Turner สามารถเข้าคู่กันได้ ความลื่นมันเลยปรื้ดๆ จะว่าไปมัน ก็คล้ายๆ กับการรับน้องแบบว้ากอยู่เหมือนกัน (มันมาเกี่ยวกันได้ไงฟะ) นี่ในความคิดผมนะครับ ผมว่ามันก็มีส่วนเหมือนอยู่ ตรงที่ความรักความเข้าใจของคู่นี้มันดำเนินไปท่ามกลางเหตุการณ์บ้าบอสารพัด อาจจะเรื่องร้าย เรื่องดี เรื่องต้องตกจากที่สูงบ้างอะไรเงี้ย แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นชัดๆ มันคือ ทั้งคู่ได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาเต็มๆ ครับ ซึ่งนี่แหละที่ผมว่ามันเหมือนการว้ากอยู่ นั่นคือ การว้ากนี่มันก็บีบเค้นความเป็นตัวตนของแต่ละคนออกมาได้เหมือนกัน (ไม่ทั้งหมดครับ แต่มันก็ต้องมีบ้างล่ะ)
จากสถานการณ์กดดัน จากการได้ผ่านและฟันฝ่าอะไรมาด้วยกัน ก็ทำให้เกิดความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มันเกิดขึ้นตาม (สัมพันธ์กันเนื่องมาจากความคับขันและกดดัน) ซึ่งมันก็ได้ผลกับบางคนครับ ในการที่จะทำให้คนแน่นแฟ้น ได้รู้จักกันเร็วขึ้น (เป็นหลักสูตรสร้างความคุ้นเคยแบบเร่งรัดชนิดหนึ่งในความเห็นผมอ้ะนะคับ แต่ไม่อาจใช้ได้กับทุกคนหรอกนะ) ส่วนเรื่องระบบว้ากดีไม่ดีผมก็ ไม่มีหน้าที่มาตัดสินครับ แล้วแต่ใครจะคิดแล้วกัน แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยผ่านระบบนี้มา ก็ยอมรับครับว่ามีไม่ชอบในหลายๆ อย่าง แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่ามันก็ได้อะไรมาไม่ใช่น้อย อย่างน้อยๆ ก็เพื่อนล่ะครับ จวบจนทุกวันนี้ผมกับพวกก็ยังมีเรื่องบ้าๆ สมัยรับน้องมาคุยกันอยู่บ่อยๆ ด้วยเรื่องเดิมๆ นี่แหละ แต่คุยทีไรมันก็จะเกิดความรู้สึกจี๊ดๆ บางประการขึ้นมาทันที กลับมาเรื่องหนังนะครับ (ไปซะไกลเชียว แต่ผมนึกขึ้นมาได้พอดีครับเลยใส่ลงไปด้วย) นี่ก็เป็นผลงานกำกับของ Robert Zemeckis (แห่ง Back To The Future, Forrest Gump) ก็สนุกครับ ไม่ได้มีแค่ผจญภัยเท่านั้น ยังมีความฮาและความหวานใส่ลงมาด้วย ในปริมาณที่กำลังดีเลยล่ะ
mark.waltz
⭐7/10
ผมขอเถียงเมื่อได้ยินแคธลีน เทอร์เนอร์ พูดว่าเธอไม่ควรรับบทบาทโจน ไวล์เดอร์เลย เธอแสดงได้ยอดเยี่ยมมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นเธอเปลี่ยนจากนักเขียนนิยายรักจอมซนมาเป็นผู้หญิงที่รับมือกับคนอื่นๆ ในป่าโคลัมเบียได้อย่างน่าประหลาดใจ เมื่อเธอไปที่นั่นเพื่อช่วยน้องสาวที่ถูกลักพาตัว เธอกลับพบสิ่งที่มากกว่าที่คาดไว้ ต้องขอบคุณไมเคิล ดักลาส นักผจญภัยที่ช่วยเธอจากการถูกปล้นโดยชายผู้ต้องสงสัยในคดีลักพาตัวน้องสาวของเธอ เทอร์เนอร์และดักลาสกระโดดลงจากโคลนถล่ม ขณะที่เธอพยายามข้ามสะพานเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม และเหวี่ยงตัวไปมาจนข้ามไปได้ ก่อนจะเสียเลือดไหลท่วมบ่อจระเข้หิวโหย ดักลาสซึ่งตอนแรกรู้สึกหงุดหงิดกับความไร้ความสามารถของเธอ ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าเธอเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง และเพียงแค่เอ่ยชื่อของเธอออกมาก็ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากการถูกฆ่าได้ แดนนี่ เดอวีโต้ ตัวตลกจอมกวนที่ทำงานให้กับเจ้านายลับ และดักลาสผู้โง่เขลาแบบเดียวกับที่เทอร์เนอร์คิดไว้
หนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ผจญภัยเรื่องนี้มอบความสุขอย่างแท้จริงตั้งแต่ต้นจนจบ และแสดงให้เห็นว่าทำไมเทอร์เนอร์ถึงครองตำแหน่งดาราสาวที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในบ็อกซ์ออฟฟิศในยุค 80s หนังเรื่องนี้ติดอันดับหนังระทึกขวัญภาคต่อของ Indiana Jones ในปีเดียวกัน และเป็นหนังที่ดีกว่ามากโดยไม่ดูน่าขยะแขยงหรือน่าปวดหัว ตัวละครของเทอร์เนอร์พลิกผันได้อย่างยอดเยี่ยม และตัวละครของเธอก็ค่อนข้างตรงกันข้ามกับแมดดี้ วอล์คเกอร์จาก “Body Heat” นี่คือหนังที่คุณสามารถรับชมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพบกับความตื่นเต้นใหม่ๆ ได้ทุกครั้ง ฮอลแลนด์ เทย์เลอร์ผู้มากฝีมือก็เสริมความแซ่บแบบฉบับของเธอในบทบาทเอเจนต์และที่ปรึกษาของเทอร์เนอร์
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนวผจญภัย-โรแมนติก เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981) ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า : ต้นตำรับหนังผจญภัยตามล่าหาสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
The Mummy (1999) เดอะ มัมมี่ คืนชีพคำสาปนรกล้างโลก : การผจญภัยในอียิปต์ที่เต็มไปด้วยแอ็กชันและอารมณ์ขัน
The Jewel of the Nile (1985) : ภาคต่อโดยตรงของเรื่องนี้ ที่ได้ทีมนักแสดงชุดเดิมกลับมาครบทีม!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ทำไมหนังถึงประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย?
A: เพราะเป็นหนังที่มา “ถูกที่ถูกเวลา” ครับ! ในยุค 80s ที่หนังผจญภัยสไตล์ Indiana Jones กำลังโด่งดัง “Romancing the Stone” ได้นำเอาสูตรสำเร็จนั้นมาผสมผสานกับความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ได้อย่างลงตัว ซึ่งถูกใจผู้ชมในวงกว้างอย่างมาก
Q: หนังมีภาคต่อหรือไม่?
A: มีครับ! จากความสำเร็จอย่างมหาศาล ทำให้มีภาคต่อตามออกมาในปี 1985 ชื่อว่า “The Jewel of the Nile” ซึ่งได้ ไมเคิล ดักลาส, แคทลีน เทอร์เนอร์, และ แดนนี่ เดอวีโต้ กลับมารับบทเดิมทั้งหมด
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบหนังผจญภัย, หนังรักโรแมนติก, และหนังคอมเมดี้ เป็นหนังที่ดูสนุกและให้ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี