ดูหนัง Superman Returns (2006) ซูเปอร์แมน รีเทิร์น
ทุกท่าน! “โลกต้องการซูเปอร์แมนหรือไม่?” นี่คือคำถามที่เป็นหัวใจหลักของ Superman Returns ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ (X-Men) ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่แตกต่างออกไปจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่คุณคุ้นเคย นี่ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่คือ “ดราม่า-โรแมนติก” ที่สร้างขึ้นเพื่อคารวะซูเปอร์แมนฉบับคลาสสิกของ คริสโตเฟอร์ รีฟ อย่างแท้จริง
เรื่องย่อ
หลังจากหายตัวไปจากโลกอย่างปริศนาเป็นเวลา 5 ปีเต็ม… ซูเปอร์แมน (แบรนดอน เราธ์) ได้เดินทางกลับมายังโลกอีกครั้ง แต่เขาต้องพบว่าโลกที่เขาเคยปกป้องได้ “เดินหน้า” ต่อไปโดยไม่มีเขาแล้ว… โลอิส เลน (เคต บอสเวิร์ธ) รักแท้ของเขา ไม่เพียงแต่จะชนะรางวัลพูลิตเซอร์จากบทความ “ทำไมโลกไม่ต้องการซูเปอร์แมน” แต่เธอยังมีคู่หมั้นและลูกชายตัวน้อยไปแล้วด้วย!
ในขณะที่ซูเปอร์แมนต้องต่อสู้กับความรู้สึกแปลกแยกและหัวใจที่แตกสลาย ศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาลของเขา เล็กซ์ ลูเธอร์ (เควิน สเปซีย์) ก็ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก และมาพร้อมกับแผนการสุดอำมหิตครั้งใหม่! เขาได้ขโมย “คริสตัลคริปโตเนียน” จากป้อมปราการแห่งความสันโดษของซูเปอร์แมน และวางแผนที่จะใช้มันสร้าง “ทวีปใหม่” ขึ้นมากลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจะทำให้แผ่นดินอเมริกาจมหายไปและคร่าชีวิตผู้คนนับล้าน! ซูเปอร์แมนจึงต้องกลับมาปฏิบัติภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องโลก แต่เพื่อทวงคืนความเชื่อมั่นจากผู้คน และพิสูจน์ให้คนที่เขารักได้เห็นว่า… โลกใบนี้ยังคงต้องการเขาอยู่ movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
Superman Returns คือภาพยนตร์ที่ “สวยงาม” แต่ “ถูกเข้าใจผิด” มากที่สุดเรื่องหนึ่ง ⭐ 7/10 ผมมักบอกกับตัวเองและใครๆ เสมอว่าอย่าตั้งความหวังกับสิ่งใดมากจนเกินไป โดยเฉพาะกับการดูภาพยนตร์ แต่ก็เป็นธรรมดาเหมือนกันที่ผมเองชอบไปตั้งความหวังกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ประจำเล้ยเชียว (ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองสิครับแบบนี้) กับเรื่องนี้ก็พอกันครับ ได้คำชมเยอะนะ ทางโน้นก็ยกกันซะผมเห็นหนังลอยเลย จนผมหมายมั่นปั่นมือเลยครับ เพราะช่วงนี้ของปีก่อน ผมก็มาตะโกนในบอร์ดนี้เต็มๆ ไปแล้วว่า “แบทแมนกลับมาแล้วโว้ยยยยยยยยยยยย” ปีนี้ก็คิดว่าคงมีอีกรอบน่ะครับ มาตะโกนอีกซักที แต่หากท่านลองอ่านที่ผมบ่นในเบื้องต้นนี้แล้วคงเดาได้ว่า ผมไม่ใคร่จะพอใจกับการรีเทิร์นสของมนุษย์เหล็กไหลรายนี้เท่าไหร่นักน่ะฮะ (เลยอดตะโกนจนได้ ผม โธ่) เอ้า มาว่ากันที่เนื้อเรื่องก่อน เออ พูดตรงนี้ก็ดีแล้ว ผมขอแนะนำนะครับว่าท่านไม่ควรไปอ่านสุ่มสี่สุ่มห้าในเรื่องราวเกี่ยวกับซูเปอร์แมนภาคใหม่นี้ เพราะมีหลายที่หลายท่านเลยที่ดันเอา “ปมเด็ดๆ” ในเรื่องมาเล่าซะงั้นน่ะ (ที่กระทู้แสดงความเห็นของเว็บนี้ ที่ผมทำลิ้งค์ไปน่ะครับ นี่ก็มีท่านหนึ่งสปอยล์โผล่มา นี่ไม่ได้ว่านะครับ คาดว่าพี่แกคงไม่รู้ว่าปมนี้สำคัญ แต่แค่เอามาบอกให้ท่านระวังไว้น่ะครับ) ดังนั้นสิ่งที่ท่านควรทำก่อนดู Superman มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ไปหา VCD หนัง Superman ภาค 1 กับ 2 มาดู แล้วตรงไปดูในโรงได้เลยครับ เพราะเรื่องราวภาครีเทิร์นสนี้ ต่อจากภาค 2 นั่นแหละ หลังเรื่องราวทั้งหลายในภาค 2 จบลงไป ซูเปอร์แมนก็หายไปจากโลกครับ (หายไปจริงๆ นะ) จน 5 ปีต่อมานี่แหละพี่ท่านถึงเสด็จลงมากับอุกกาบาตอีกครั้ง พอกลับมาคราวนี้ เขาก็เลือกที่จะใช้ชีวิตเดิม นั่นคือการไปเดลี่พลาเน็ต ในคราบของคลาร์ค เคนท์ ทำงานเป็นนักข่าวจอมซุ่มซ่ามอีกตามเคย และขณะเดียวกันเขาก็กลับมาเป็น ซูเปอร์แมนผู้พิทักษ์โลกอีกครั้ง ก็แน่ล่ะครับ ลองว่าซูเปอร์แมนมาที่เดลี่พลาเน็ต เขาก็ต้องกลับมาสานสัมพันธ์ซึ้งกับ โลอิส เลน (Kate Bosworth) นักข่าวหัวเห็ดที่ตอนนี้กลายเป็นแม่คนไปแล้ว และยังมีแฟนใหม่อีกนั่นคือ ริชาร์ด ไวท์ (James Marsden) หลานชายของเพอร์รี่ ไวท์ (Frank Langella) บก. เดลี่พลาเน็ตนั่นเอง แต่เราก็รู้กันครับ ว่าโลอิสน่ะยังตัดใจจากซูเปอร์แมนไม่ได้ร้อก และที่ขาดไม่ได้สำหรับหนังฮีโร่ก็คือ ผู้ร้าย และก็คือเขาครับ เล็กซ์ ลูธอร์ (Kevin Spacey) อัจฉริยะอำมหิตที่คิดแต่แผนจะทำลายโลกเพื่อประโยชน์ส่วนตน และงานนี้พี่แกก็มแผนอีกแล้วครับ ยิ่งซูเปอร์แมนกลับมานี่ยิ่งต้องมีมวยกันหน่อยล่ะ และเรื่องราวจะเป็นไงต่อไป ซูเปอร์แมนกับโลอิสจะหวนคืนลมรักหรือไม่ แล้วไอ้บ้าเล็กซ์จะทำอะไรอีก ก็ไปหาคำตอบต่อไปนะฮะ อ้า เล่าเนื้อเรื่องไปพอหอมปากหอมคอ จริงๆ ผมไม่ต้องเล่าก็ได้นะ เพราะซูเปอร์แมนมันแพ็ทเทิร์นนี้อยู่แล้วอ้ะ เรื่องของซูเปอร์แมน – โลอิส และ เล็กซ์ รักกัน ตีกัน เป็นงี้ตลอด อีกทั้งตัวอย่างมันก็บอกหมดแล้วน่ะ แต่ที่เล่านี่ก็เพื่อให้มันเปลืองเนื้อที่เล่นครับ 5555 จะได้ยาวๆ หน่อย เข้าเรื่องดีกว่า เห็นผมจั่วหัวก็รู้แล้วล่ะมั้งว่าผมคิดยังไง แต่เปล่านะครับ หนังไม่ได้แย่ย่ำ เพียงแต่มันออกมาในระดับมาตรฐานเท่านั้นเอง ไม่ได้เด่นโดดเท่าไหร่ เรียกว่าเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ด้วยกันอย่าง Spider-Man ก็ต้องบอกว่าเรื่องพี่แมงมุมเฉียบกว่า หรือกับ Batman Begins ผมเองกลับจะยังชอบกว่าด้วยซ้ำไป จุดที่ซูเปอร์แมนภาคนี้พยายามขับเน้นมากเลยก็คือ เรื่องเชิงดราม่านะครับ ประมาณว่าพี่ซุปแกกลับมา เจอโลอิสมีลูกมีแฟนแล้วก็เลยออกอาการเฮิร์ตๆ แล้วหนังก็เล่นกับเรื่องนี้เยอะหน่อย ซึ่งผมถือว่าดีครับเป็นการสร้างความใหม่ให้ฮีโร่คนนี้ เพราะหากพิจารณาดีๆ ฮีโร่คนนี้ของเราถือว่ามีความหลากหลายน้อยนะครับ ไม่เหมือนเจ้าอื่นที่เป็นคน แล้วต้องมาเป็นฮีโร่เลยต้องเจอมรสุมชีวิตต่างๆ ดังนั้นการที่ทีมงานหมายมั่นจับเอาเรื่องเชิงดราม่าและเอาปัญหาใส่ลงไปในชีวิตของพี่ซุป ถือเป็นการเพิ่มความใหม่และใส่ความน่าติดตามลงไปได้อีกมากโข และยังสามารถเอามาเล่นได้อีกเรื่อยๆ ด้วย แต่ปัญหาคือมันไม่ถึงน่ะสิครับ ซึ่งส่วนนี้ผมถือเป็นความเรื่องมากส่วนตัว อันนี้ยอมรับผิดเลยครับ ดันดูหนังมากเกินไป ยิ่งหนังเอเซียบ้านเรานี่ขยันดูจ้างงงง แล้วเจอมาเยอะไงครับ เกี่ยวกับความซึ้ง ความรักที่งดงาม การสื่ออารมณ์ที่มาทั้งภาพ เพลง เสียง แสง สี แมงหวี่แมงวันอะไรนี่หนังฟากเอเซียเรามันลึกซึ้งกว่า มันทำให้โรแมนซ์ได้อ้ะ ดูหนังโรแมนติกฟากเอเซียทีไรนึกในใจ “ได้กันแน่คู่เนี้ย” ทีนี้พอผมมานั่งดูทางฟากมะกันตะวันตก ซึ่งผมยอมรับว่าเขาจะไม่สื่อลึกขนาดนั้นครับ เขามองว่าแค่มองตาแค่อะไรก็เพียงพอแล้ว แค่สัมผัสหน่อยๆ ก็พอแล้วสำหรับฉากที่สื่อถึงความรัก นั่นเลยทำให้ผมรู้สึกว่าหนังมันไม่ถึงโดยปริยาย แต่จะว่าผมเรื่องมากทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะหลังๆ หนังมะกันเองก็ทำได้ดีนะครับ แนวรักๆ แบบซึ้งๆ น่ะ หลายเรื่องเลยที่ทำได้อ่อนโยนละมุนละไม ดูแล้วซึ้งน่ะ ทว่ากับเรื่องราวของรักของโลอิสและซูเปอร์แมนในเรื่องที่พยายามขับเน้นมันกลับไปแรงหรือกินใจอย่างที่ควรจะเป็น กลับเสนอแบบเรื่อยๆ ซึ่งดูแบบไม่คิดมากมันก็พอได้น่ะครับ เพียงแต่มันจะผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่ได้ตรึงใจเท่าที่ควร และปัญหาที่ตามมาคือ หนังที่ยาวตั้งสองชั่วโมงครึ่งนี้เล่นกับเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย ทำให้หนังดูอืดไปบ้างในช่วงที่ว่า ⭐ 8/10 ในความคิดของผม Superman Returns (2006) เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกมองข้ามมากที่สุดเรื่องหนึ่งในศตวรรษที่ 21 หนังเรื่องนี้ออกฉายเมื่อสิบปีก่อนและไม่เคยได้รับความเคารพเท่าที่ควร หนึ่งในองค์ประกอบที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้คือแก่นเรื่อง หนังเรื่องนี้เมื่อเทียบกับหนังทั้งหมดที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2010 เนื้อหาและจิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้ยังไม่เทียบเท่า Batman Begins (2005) เลย หนังซูเปอร์ฮีโร่ไม่กี่เรื่องที่จะนำเสนอประเด็นสำหรับผู้ใหญ่เกี่ยวกับการสูญเสีย ความโดดเดี่ยว การกลับบ้านและการค้นหาที่ยืนของตัวเองในโลก การค้นหาตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย และซูเปอร์แมนต้องผ่านการเดินทางทั้งทางอารมณ์และร่างกายตลอดทั้งเรื่อง หลายคนบ่นเรื่องฉากแอ็คชั่นที่ขาดๆ หายๆ อย่างไรก็ตาม ผมขอเลือกฉากแอ็คชั่นที่เข้มข้นและตัวละครที่ลงตัวมากกว่าฉากแอ็คชั่น จริงอยู่ว่าฉากแอ็คชั่นมีประมาณ 3-4 ฉากตลอดทั้งเรื่อง แต่ผมคิดว่าฉากเหล่านี้อยู่ในระดับ A+ การช่วยเหลือเครื่องบิน การปล้นธนาคาร และการช่วยเมโทรโพลิสจากแผ่นดินไหวของเล็กซ์ ล้วนสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างดีเยี่ยมสำหรับช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าซูเปอร์แมนประสบความสำเร็จมากกว่าที่ยุคคริสโตเฟอร์ รีฟจะคาดหวังไว้ หมายเหตุ: ฉันก็ชอบยุคนั้นเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีงานภาพที่ยอดเยี่ยมโดยโทมัส นิวตัน เซเนกัล และดนตรีประกอบอันไพเราะโดยจอห์น ออตต์แมน ผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ X-Men และ Fantastic Four การกำกับของไบรอัน ซิงเกอร์นั้นยอดเยี่ยม ให้เกียรติและอลังการในเวลาเดียวกัน ถึงแม้จะมีหัวใจและเทคนิคที่ยอดเยี่ยมมากมายของ Superman Returns แต่มันก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ปัญหาของฉันเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ภาพยนตร์ไม่เคยให้ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ เลย จนกระทั่งฉาก Air Force One เริ่มต้นขึ้น บางทีการเริ่มต้นด้วยเล็กซ์ ลูเธอร์ ไม่ใช่คาล-เอล อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ องก์ที่สามของภาพยนตร์ที่ซูเปอร์แมนยกเกาะขึ้นสู่อวกาศนั้นดูแปลกสำหรับบทสรุปองก์ที่สาม อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อติเล็กน้อย โดยรวมแล้ว Superman Returns เป็นภาพยนตร์ที่น่าพึงพอใจ นักแสดงนำโดดเด่น การเป็นภาคต่อทางจิตวิญญาณของ Superman I & II ทำให้หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกคิดถึงอดีต อันที่จริง ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ทั้งภาพลักษณ์และโทนของหนัง Start Trek ทั้งสองเรื่องของ J.J. Abrams ความเคารพอย่างลึกซึ้งต่ออดีตคือสิ่งที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก ผมคิดมาตลอดว่า Superman Returns เป็นหนังที่พยายามจะเลียนแบบ Dances with Wolves (1990) ของหนังซูเปอร์ฮีโร่ มันยิ่งใหญ่ กล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์จริงๆ Superman Returns เป็นหนังที่ไม่ค่อยได้รับการชื่นชม ทั้งเล่นแบบปลอดภัยและกล้าเสี่ยง เช่นเดียวกับ Superman หนังเรื่องนี้ก็เจ็บปวดและสมควรได้รับการอยู่ในกลุ่มเมฆหมอก หากคุณชื่นชอบหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีสไตล์แตกต่างกันออกไป เราขอแนะนำ: Q: ต้องดูหนังซูเปอร์แมนภาคเก่าๆ ของ คริสโตเฟอร์ รีฟ มาก่อนไหม? A: ไม่จำเป็น 100% ครับ แต่ “แนะนำอย่างยิ่ง” โดยเฉพาะภาค 1 และ 2 เพราะจะทำให้คุณเข้าใจการอ้างอิงและอารมณ์ของหนังเรื่องนี้ได้ลึกซึ้งขึ้นมาก หนังเรื่องนี้ทำเหมือนกับว่าภาค 3 และ 4 ไม่เคยเกิดขึ้น Q: หนังเรื่องนี้อยู่ในจักรวาล DCEU (ของ เฮนรี่ คาวิลล์) หรือเปล่า? A: ไม่เกี่ยวข้องกันเลย นี่คือหนังที่อยู่ในจักรวาลของตัวเอง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะสานต่อเรื่องราวจากเวอร์ชั่นคลาสสิก ก่อนที่จะมีการรีบูตใหม่ทั้งหมดใน Man of Steel Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงไม่ค่อยมีฉากต่อสู้? A: เป็นความตั้งใจของผู้กำกับ เขาต้องการจะสร้างหนังที่เน้น “ดราม่า” และ “การเดินทางทางอารมณ์” ของซูเปอร์แมนที่ต้องกลับมายังโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นที่เน้นการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดครับ บทสรุป: Superman Returns คือภาพยนตร์ที่ทั้งสวยงาม, ทะเยอทะยาน, และน่าเศร้าในเวลาเดียวกัน เป็นการคารวะแด่ตำนานที่อาจจะ “ซื่อตรง” เกินไปจนไม่ถูกใจผู้ชมในยุคใหม่ แต่มันก็ยังคงเป็นผลงานที่เปี่ยมด้วยหัวใจและมีฉากที่น่าจดจำ หากคุณเป็นแฟนของซูเปอร์แมนฉบับคลาสสิก… นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาดนักแสดงนำและผู้กำกับ
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
