The Bag Man (2014) หิ้วนรกท้าคนโหด

นักแสดงและผู้กำกับ

• นักแสดงหลัก:
  • จอห์น คูแซค (John Cusack) รับบทเป็น แจ็ค
  • รีเบคกา ดา คอสตา (Rebecca Da Costa) รับบทเป็น รีฟก้า
  • โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) รับบทเป็น ดรากน่า
  • คริสพิน โกลเวอร์ (Crispin Glover) รับบทเป็น เน็ด
  • โดมินิก เพอร์เซลล์ (Dominic Purcell) รับบทเป็น ลาร์สัน
• ผู้กำกับ:
  • เดวิด โกรวิก (David Grovic)

โปสเตอร์หนัง

รีวิวภาพยนตร์

คือภาพยนตร์แนว Neo-Noir (ฟิล์มนัวร์สมัยใหม่) ที่มีสไตล์จัดจ้านและบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญของหนังแนวนี้

• บรรยากาศลึกลับน่าค้นหา: หนังสร้างบรรยากาศของโมเต็ลกลางป่าเปลี่ยวออกมาได้ดี เต็มไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว, ไม่ปลอดภัย และความลึกลับของตัวละครแต่ละตัวที่ทำให้ผู้ชมต้องคอยเดาว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู
• แรงดึงดูดจากนักแสดงรุ่นใหญ่: การได้เห็น จอห์น คูแซค ในบทมือปืนมาดเข้ม และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ในบทบาทมาเฟียขาโหดที่น่าเกรงขามอีกครั้ง ถือเป็นจุดขายสำคัญที่ดึงดูดให้คอหนังอยากติดตาม
• สไตล์ที่โดดเด่น: หนังมีโทนภาพที่มืดหม่นและบทสนทนาที่พยายามจะคมคายตามแบบฉบับหนังนัวร์ ซึ่งอาจจะถูกใจคอหนังที่ชื่นชอบสไตล์ของผู้กำกับอย่าง เควนติน ทารันติโน หรือพี่น้องโคเอน
• เสียงวิจารณ์: อย่างไรก็ตาม หนังได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบเป็นส่วนใหญ่ โดยนักวิจารณ์มองว่าบทภาพยนตร์ค่อนข้างอ่อนและพยายามที่จะมีสไตล์มากเกินไปจนขาดความสมเหตุสมผลในหลายๆ จุด ได้รับคะแนน มะเขือเทศเน่าเพียง 11% จาก Rotten Tomatoes และ 5.2/10 จาก IMDb ซึ่งเป็นหนังที่อาจจะถูกใจผู้ชมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

หมื่นทิพ

ว่าด้วย แจ็ค (John Cusack) ที่ถูกเจ้านาย (Robert De Niro) สั่งให้เอากระเป๋าใบหนึ่งไปส่งโดยห้ามแจ็คเปิดดูเป็นอันขาด แต่ก็นั่นล่ะครับ เรื่องมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นแน่ๆ เป็นหนังแนวระทึกขวัญที่ชวนให้นึกถึง Vacancy อยู่ในที แต่ก็บอกได้เลยครับว่าหนังไม่ได้ระทึกหรือน่าติดตามขนาดนั้น แม้จะมีดาราดีๆ อย่าง Cusack, De Niro, Crispin Glover (Willard) และ Dominic Purcell (Blade: Trinity) มาร่วมจอ และนางเอกอย่าง Rebecca Da Costa ก็ดูดีและมีเสน่ห์มากอยู่ก็ตาม เรียกว่าดาราน่ะดีครับ พล็อตตั้งต้นก็โอเค แต่การเดินเรื่องระหว่างทางยังไม่น่าติดตามขนาดนั้น แม้จะมีเรื่องระทึกๆ สอดแทรกเข้ามา แต่จังหวะการทิ้งปมมันยังไม่โดน ความระทึกเอาเข้าจริงๆ ก็ยังไม่เยอะ และถ้าดูๆ ไปแล้ว แผนของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ (ที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมด) ก็ดูยุ่งยากน่ะครับ กล่าวคือไปๆ มาๆ แล้วบทก็ไม่ถึงกับแน่นสักเท่าไร ถ้าถามว่าอะไรเวิร์กสุดในหนัง ก็คงต้องบอกว่าเป็นบรรยากาศในโรงแรมน่ะครับ ดูลึกลับ อึมครึม หลายๆ วาระได้อารมณ์ใกล้เคียงกับ Identity (อันนั้น Cusack ก็นำเสนอเหมือนกัน) แต่ความสนุกต่างระดับกันมากอยู่ครับ สรุปว่าหนังมีดาราดีๆ ครับ บรรยากาศก็ชวนระทึกได้ไม่เลว แต่บทไม่เด็ดพอ การเดินเรื่องไม่เจ๋งพอ หนังเลยออกมาในระดับกลางๆ ครับ ^_^

trublu215

🤩 7/10

ช่วงต้นของ The Bag Man คุณจะรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Cusack กลับมารับบทนักฆ่าแบบ Grosse Point Blank อีกครั้ง น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับที่ควรจะเป็นเลย หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวและพยายามใส่ลูกเล่นแบบ Tarantino ลงไปในเนื้อเรื่องเก่าๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้ไม่ได้ผล ยิ่งดูไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเข้าสู่เรื่องราว คำถามหลักที่ว่า “อะไรอยู่ในกระเป๋า” ก็ยิ่งน่าสนใจและน่าติดตามน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูเรียบๆ แต่ The Bag Man ก็ยังมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมจาก John Cusack และ Rebecca De Costa ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกสนใจ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ตาม Robert De Niro สามารถเล่นบทนักเลงได้แม้ในขณะหลับ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถชมเชยการแสดงของเขาในเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากนัก ถึงแม้ว่า Robert De Niro จะเป็นนักแสดงที่เก่งกาจมาก แต่การแสดงของเขาก็ยังถือว่าดีอยู่ดี เพียงแต่ยังไม่ดีเท่าที่ทุกคนคาดหวัง ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ อย่างคริสปิน โกลเวอร์และโดมินิก เพอร์เซลล์ ล้วนแต่ธรรมดาๆ ทั้งสิ้น โดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินไปในแบบที่เราต้องการ มันดูยืดเยื้อในช่วงกลางเรื่อง และก็มีจุดเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ตอนจบ เนื้อเรื่องไม่ได้น่าติดตามอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งน่าหงุดหงิดใจเมื่อพิจารณาถึงความสามารถของผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้ ต้องการให้เป็นหนังที่ดีที่สุดของทารันติโนที่ทารันติโนไม่เคยสร้างมาก่อน แต่กลับดูและให้ความรู้สึกเหมือนหนังราคาถูกที่ขายตรงลงแผ่น DVD ที่มีนักแสดงระดับแถวหน้า

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

หากคุณชื่นชอบพล็อตเรื่องแนวอาชญากรที่ต้องทำภารกิจลึกลับในสถานที่ปิดตาย ลองหาเรื่องเหล่านี้มาชมต่อได้เลย:

1. Pulp Fiction (1994): หนังอาชญากรรมขึ้นหิ้งของเควนติน ทารันติโน ที่มีเรื่องราวของกระเป๋าสีดำปริศนาเป็นหนึ่งในปมสำคัญของเรื่อง
2. Smokin’ Aces (2006) – ดวลเดือด ล้างเลือดมาเฟีย: หนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่เล่าเรื่องของเหล่านักฆ่าที่มารวมตัวกันในโรงแรมแห่งเดียวเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
3. Bad Times at the El Royale (2018) – โรงแรมโคตรอำมหิต: หนังทริลเลอร์ที่มีสไตล์โดดเด่น เล่าเรื่องของคนแปลกหน้า 7 คนที่มีความลับดำมืดและได้มาพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

Q&A คำถามน่ารู้เกี่ยวกับหนัง

Q: “The Bag Man” ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?

A: หนังได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์แนวฟิล์มนัวร์และนีโอนัวร์มาค่อนข้างเยอะครับ โดยเฉพาะพล็อตเรื่องที่มี “ตัวเอก” ที่ต้องทำภารกิจลึกลับ, “หญิงสาวปริศนา” (Femme Fatale) และ “ตัวร้าย” ที่เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นองค์ประกอบคลาสสิกของหนังแนวนี้ นอกจากนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจจากบทความเรื่อง “The Cat” ของ Marie-Louise von Franz ที่เกี่ยวกับจิตวิทยาอีกด้วย

Q: ตกลงแล้วในกระเป๋ามีอะไรอยู่กันแน่? (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)

A: หนังจงใจไม่เปิดเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าอย่างชัดเจน เพื่อเล่นกับจินตนาการของผู้ชมและให้ความสำคัญกับ “ปริศนา” ของมันมากกว่า แต่ในตอนท้ายเรื่องได้มีการบอกใบ้ว่ามันคือ “หัว” ของคนที่ดรากน่าต้องการ ซึ่งเป็นบทสรุปที่โหดร้ายและมืดหม่นตามสไตล์ของหนัง

Q: ทำไมหนังที่มีนักแสดงระดับแม่เหล็กถึงได้รับคำวิจารณ์ไม่ดี?

A: เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้บ่อยครับที่หนังมีนักแสดงชั้นนำแต่บทภาพยนตร์กลับไม่แข็งแรงพอ นักวิจารณ์ส่วนใหญ่มองว่า “The Bag Man” มีบทที่ค่อนข้างสับสน, ตัวละครขาดแรงจูงใจที่น่าเชื่อถือ และพยายามเลียนแบบสไตล์ของหนังเรื่องอื่นมากเกินไปจนขาดเอกลักษณ์ของตัวเอง แม้ว่าการแสดงของนักแสดงจะยังคงมาตรฐานที่ดีก็ตาม