ดูหนัง The Claus Family (2020) คริสต์มาสตระกูลคลอส
ทุกท่าน! หากคุณกำลังมองหาหนังคริสต์มาสสำหรับครอบครัวเรื่องใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องคลาสสิกที่เราดูกันทุกปี วันนี้เรามีภาพยนตร์น่ารักๆ จากเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมมาแนะนำครับ The Claus Family คือภาพยนตร์จาก Netflix ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในช่วงเทศกาลวันหยุดเต็มไปด้วยความอบอุ่น, เวทมนตร์, และข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับครอบครัวและการก้าวข้ามความเศร้า
เรื่องย่อ
จูลส์ (โม บัคเกอร์) คือเด็กชายผู้ “เกลียด” วันคริสต์มาสเข้าไส้! นั่นเพราะพ่อสุดที่รักของเขาเสียชีวิตลงในวันคริสต์มาสอีฟเมื่อปีก่อน ทำให้เทศกาลแห่งความสุขกลายเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความสูญเสียอันใหญ่หลวงสำหรับเขาและแม่
แต่แล้วชีวิตของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้ค้นพบความลับสุดยอดของคุณปู่ โนเอล (ยาน เดอแคลร์)! แท้จริงแล้ว… คุณปู่ของเขาคือ “ซานตาคลอส” คนปัจจุบัน! และครอบครัว “คลอส” ของพวกเขาก็คือสายเลือดผู้สืบทอดหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้มานานนับศตวรรษ!
ในตอนแรก จูลส์ต่อต้านและไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกแห่งเวทมนตร์ที่คุณปู่พยายามจะนำเสนอ แต่เมื่อคุณปู่โนเอลเกิดล้มป่วยลงกะทันหันในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดก่อนวันคริสต์มาส จูลส์ผู้เป็นทายาทเพียงคนเดียว จึงต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ… เขาจะยอมปล่อยให้ความเกลียดชังบดบังทุกสิ่ง หรือจะก้าวข้ามความเศร้าและยอมรับ “ชะตากรรม” ของตัวเอง เพื่อช่วยคุณปู่และกอบกู้เทศกาลคริสต์มาสให้ทันเวลา? movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- ยาน เดอแคลร์ (Jan Decleir) รับบทเป็น โนเอล คลอส / ซานตาคลอส: นักแสดงอาวุโสมากฝีมือที่มอบความอบอุ่นและน่าเชื่อถือให้กับบทบาทซานต้า
- โม บัคเกอร์ (Mo Bakker) รับบทเป็น จูลส์ คลอส
- ผู้กำกับ: มัทธีอัส เทมเมอร์มันส์ (Matthias Temmermans)
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
The Claus Family คือหนังคริสต์มาสที่มี “หัวใจ” อย่างแท้จริง
- เรื่องราวที่อบอุ่นและกินใจ: จุดแข็งที่สุดของหนังคือการนำเสนอประเด็นเรื่อง “การรับมือกับความสูญเสีย” (Grief) ได้อย่างอ่อนโยนและเข้าถึงง่าย มันคือเรื่องราวของการเรียนรู้ที่จะกลับมามีความสุขและเปิดใจให้กับเทศกาลอีกครั้ง
- เสน่ห์แบบยุโรป: หนังมีบรรยากาศและโทนเรื่องที่แตกต่างจากหนังคริสต์มาสฮอลลีวูดทั่วไปเล็กน้อย มีความเรียบง่ายและเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของครอบครัว
- เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว: นี่คือหนังที่ปลอดภัย, ดูง่าย, และเต็มไปด้วยข้อคิดดีๆ เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่จะเปิดดูพร้อมกับลูกๆ ในช่วงเทศกาลวันหยุด
แม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแนว “ค้นพบว่าตัวเองคือผู้ถูกเลือก” และไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่มากนัก แต่ความจริงใจและความอบอุ่นของมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกดีได้
- IMDb: ให้คะแนน 6.0/10
- Rotten Tomatoes: แม้จะไม่มีคะแนนจากนักวิจารณ์ในวงกว้าง แต่ก็เป็นหนังที่ได้รับความนิยมอย่างสูงบน Netflix ในช่วงเทศกาล
ladyvgw
⭐ 7/10
ตอนนี้เรากำลังดูเรื่องนี้อยู่ แล้วก็มีพล็อตโฮลใหญ่ๆ อยู่หลายจุดเลย! ทำไมซานต้าถึงส่งของขวัญจาก 23rd?? เขาเริ่มส่งไปออสเตรียก่อน แล้วคนก็ทิ้งคุกกี้ไว้ให้เขา อะไรเนี่ย?! คนทำหนังเรื่องนี้เคยฉลองคริสต์มาสด้วยเหรอ?? แล้วเรื่องวิธีการห่อของขวัญนี่มันยังไงกัน?? พอเห็นตุ๊กตาพันรอบขาแต่ละข้าง ฉันก็อดสังเกตการห่อของขวัญที่แย่มากไม่ได้เลย!! แค่นี้ก็ทำเอาหนังพังแล้ว! แถมเสียงพากย์ก็ด้วย! (ฉันดูกับลูกๆ ด้วย – ซับไตเติ้ลนี่ใช้ไม่ได้!) รู้สึกเหมือนดูหนังเกาหลีแบบโอเวอร์แอคติ้งเลย! อ้อ แล้วทำไมแม่ถึงเพิ่งทำงานวันที่ 2 แล้วยังพยายามกอบกู้โรงงานอีกล่ะ? ทำไมไม่เปิดธุรกิจคุกกี้คู่แข่งแล้วมาบริหารเองล่ะ??
romansamurai
⭐ 7/10
แม้แต่ลูกสาววัย 11 ขวบของผมก็คิดว่าหนังเรื่องนี้เขียนบทและกำกับได้แย่ ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียด เนื้อเรื่อง หรือตัวละครเท่าไหร่ หนังเรื่องนี้ดูยาก ผมดูหนังของช่อง Hallmark กับภรรยาเป็นประจำ แถมยังทนดูได้ แต่เรื่องนี้มันกลับยากกว่า เหมือนมีคนทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อจะบอกว่าทำเพื่อวันหยุด จริงๆ แล้วยังมีหนังที่ดีกว่านี้ให้ดูสำหรับวันหยุดอีกเยอะ หนังเรื่องนี้ไม่คุ้มกับเวลาเลย อธิบายเพิ่มเติมอีกนิด: ตัวละครดูตื้นเขิน มีมิติเดียว สลับฉากไปมา 180 องศา ไม่มีการต่อเติมหรือพัฒนาอะไรจริงจัง คุณภาพการจัดฉากแย่มาก ถือลิสต์ของขวัญให้ทั้งประเทศ แล้วยังมานั่งคุยกันว่าเหลืองานอีกเท่าไหร่ ลิสต์ทั้งหมดนี่น่าจะมีตั้ง 10 ชื่อ จัดการแพ็คของขวัญให้เด็กทุกคนในประเทศเลยเหรอ? เอาจริงดิ? นี่มันเรื่องไร้สาระตั้งเยอะ แทบจะเขียนว่า “เวทมนตร์ซานต้าหรือเอลฟ์” ง่ายๆ เลย แต่กลับเลือกทำหนังธรรมดาๆ น่าเบื่อสุดๆ ไม่มีมิติเลย แล้วการแสดงก็ดูตื้นเขินและแย่มากด้วย เด็กอายุ 4-7 ขวบอาจจะชอบก็ได้ แต่ลูกผมอายุ 11 ขวบก็เบื่อแล้ว ภรรยาผมที่ดูหนังช่อง Hallmark ก็เบื่อเหมือนกัน ส่วนผมอยากทำอะไรอย่างอื่นมากกว่าดูรถไฟขบวนนี้ที่พังพินาศไปเลย
Mynameisroman
⭐ 4/10
หนังทั้งเรื่องเศร้ามาก เพลงประกอบทำให้รู้สึกแทบจะร้องไห้ออกมาเลย แล้วก็มีครอบครัวเศร้าๆ ที่ต้องรับมือกับการสูญเสียและซานต้าแก่ๆ คนหนึ่ง มูลค่าการผลิตไม่ได้มากมายอะไร และการแสดงก็น่าสงสัย นอกจากนี้ยังมีเนื้อเรื่องรองที่ดูไม่สมเหตุสมผลกับงานใหม่ของแม่ๆ อีกอย่างคือมีการตัดบางฉากเพื่อข้ามไทม์ไลน์ไปมา หนึ่งปีก่อนหน้านั้นกับปัจจุบัน ซึ่งรู้สึกแปลกๆ ผมไม่มีอะไรจะพูดดีๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ผมอยากได้อะไรที่สดใสกว่านี้อย่าง Tim Allen Santa Clause มากกว่า แต่นี่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง มีบางช่วงที่สะเทือนอารมณ์บ้างที่พอใช้ได้ แต่ส่วนใหญ่หนังเศร้าและน่าเบื่อมาก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังคริสต์มาสแนวครอบครัว-แฟนตาซี เราขอแนะนำ:
- The Christmas Chronicles (2018) : หนังซานตาคลอสสุดมันส์จาก Netflix ที่นำแสดงโดย เคิร์ต รัสเซลล์
- Klaus (2019) มหัศจรรย์ตำนานคริสต์มาส: แอนิเมชั่นออสการ์สุดงดงามที่เล่าเรื่องจุดกำเนิดของซานตาคลอส
- Arthur Christmas (2011) ของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส: แอนิเมชั่นสุดน่ารักที่ว่าด้วยเบื้องหลังการทำงานของครอบครัวซานต้า
- The Santa Clause (1994): หนังคลาสสิกที่ว่าด้วยชายธรรมดาที่ต้องกลายมาเป็นซานตาคลอส
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวไหมสำหรับเด็กเล็ก?
A: ไม่น่ากลัวเลย เป็นหนังครอบครัวที่อบอุ่นหัวใจ มีประเด็นเรื่องความเศร้าจากการสูญเสียพ่อ แต่ก็เล่าออกมาในรูปแบบที่เด็กๆ เข้าใจได้
Q: เป็นหนังภาษาอังกฤษหรือเปล่า?
A: ต้นฉบับเป็นภาษาดัตช์ แต่บน Netflix มีทั้งเสียงพากย์และซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษและภาษาไทยให้เลือกรับชม
Q: มีภาคต่อไหม?
A: มี! และมีถึง 2 ภาคด้วยกัน คือ The Claus Family 2 (2021) และ The Claus Family 3 (2022) ซึ่งสานต่อเรื่องราวการผจญภัยของจูลส์ในฐานะซานตาคลอสฝึกหัดครับ
บทสรุป: The Claus Family คือภาพยนตร์คริสต์มาสที่น่ารัก, อบอุ่นหัวใจ, และเต็มไปด้วยข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับครอบครัวและการก้าวข้ามความเศร้า เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนในครอบครัวที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันในช่วงเทศกาลแห่งความสุข