ดูหนัง The Descent 1 (2005) หวีดมฤตยูขย้ำโลก 1
ทุกท่าน! หากคุณกำลังมองหาหนังที่จะมอบ “ฝันร้าย” ให้กับคุณอย่างแท้จริง วันนี้คุณมาถูกทางแล้ว The Descent คือภาพยนตร์สยองขวัญ-เอาชีวิตรอดจากประเทศอังกฤษ ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ทั้งบีบคั้น, กดดัน, และโหดเหี้ยมจนแทบจะทนดูไม่ไหว นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่คอหนังสยองขวัญตัวจริงทุกคนต้อง “คารวะ”
เรื่องย่อ
หนึ่งปีหลังจากที่ ซาร่าห์ (ชอนนา แม็กดอนัลด์) ต้องสูญเสียสามีและลูกสาวไปในอุบัติเหตุรถยนต์ที่น่าสยดสยอง เธอยังคงจมอยู่กับความเศร้าและภาพหลอนในอดีต กลุ่มเพื่อนสาวนักผจญภัยของเธอ นำโดย จูโน่ (นาตาลี เมนโดซา) จึงได้จัดทริป “สำรวจถ้ำ” สุดท้าทายขึ้น เพื่อหวังจะช่วยเยียวยาจิตใจของซาร่าห์และกระชับมิตรภาพของพวกเธอให้กลับมาเหมือนเดิม
แต่การผจญภัยที่ควรจะสนุกสนานกลับกลายเป็น “นรกบนดิน” (หรือใต้ดิน) เมื่ออุโมงค์ทางเข้าเกิดถล่มลงมา ปิดตายทางออกของพวกเธอทั้งหมด! และสถานการณ์ก็เลวร้ายถึงขีดสุด เมื่อจูโน่ได้สารภาพความจริงอันน่าตกใจว่า… เธอแอบพาทุกคนมายัง “ถ้ำที่ยังไม่เคยถูกค้นพบ” ที่ไม่มีใครในโลกรู้จักตำแหน่งของมัน!
พวกเธอทั้ง 6 คนต้องติดอยู่ใต้ดินลึกหลายไมล์ ท่ามกลางความมืดมิดและทางเดินที่แคบจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ The Descent 1 แต่แล้วความน่ากลัวของการเอาชีวิตรอดจากธรรมชาติ ก็เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พวกเธอค้นพบ… พวกเธอไม่ได้อยู่ในถ้ำนี้ตามลำพัง! มันคือที่อยู่อาศัยของ “อสูรกาย” สุดโหดเหี้ยมเผ่าพันธุ์หนึ่งที่วิวัฒนาการมาเพื่อ “ล่า” ในความมืดโดยใช้เสียง! สงครามสองด้านเพื่อเอาชีวิตรอดจากทั้งอสูรกายภายนอกและปีศาจในใจของพวกเธอเองจึงระเบิดขึ้น! movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
ชอนนา แม็กดอนัลด์ (Shauna Macdonald) รับบทเป็น ซาร่าห์: การแสดงที่ทรงพลังอย่างยิ่งยวด เธอถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงจากเหยื่อผู้เปราะบางไปสู่นักสู้ผู้เอาตัวรอดได้อย่างน่าทึ่ง
นาตาลี เมนโดซา (Natalie Mendoza) รับบทเป็น จูโน่
ผู้กำกับ/เขียนบท: นีล มาร์แชล (Neil Marshall) ผู้กำกับชาวอังกฤษผู้เป็นเจ้าพ่อหนังแนวแอ็คชั่น-สยองขวัญสุดดิบเถื่อน เขาคือผู้กำกับคนเดียวกับ Dog Soldiers และต่อมาก็ได้ไปกำกับซีรีส์ฟอร์มยักษ์อย่าง Game of Thrones หลายตอน
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
The Descent 1 คือภาพยนตร์สยองขวัญที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ มันคือบทเรียนชั้นครูในการสร้าง “ความกลัว”
ครึ่งแรก: ความสยองจากความอึดอัด (Claustrophobic Horror): หนังใช้เวลาเกือบครึ่งเรื่องในการสร้างความน่ากลัวจาก “สถานการณ์” ล้วนๆ ความมืด, ที่แคบ, และความรู้สึกของการติดอยู่โดยไม่มีทางออก คือสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีหรือปีศาจใดๆ มันบีบคั้นและกดดันผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
ครึ่งหลัง: ความโหดร้ายของการเอาชีวิตรอด (Survival Horror): เมื่ออสูรกายปรากฏตัว หนังก็เปลี่ยนเกียร์ไปสู่ความโหดเลือดสาดแบบไม่ยั้ง! ฉากการต่อสู้เต็มไปด้วยความโกลาหล, ดิบเถื่อน, และสมจริงจนน่าตกใจ
ดราม่าที่เข้มข้น: ภายใต้ความสยองขวัญ หนังยังเล่าเรื่องราวของ “มิตรภาพที่แตกร้าว” และ “การหักหลัง” ของกลุ่มเพื่อนได้อย่างเจ็บปวด ทำให้มันเป็นมากกว่าแค่หนังสัตว์ประหลาดไล่ฆ่าคน
IMDb: ให้คะแนนสูงถึง 7.2/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์อย่างท่วมท้นถึง 86% (Certified Fresh) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ
SwatiUpadhay
⭐ 6/10
The Descent เน้นย้ำความหวาดกลัวความอึดอัด ผสานกับความหวาดกลัวสิ่งที่ไม่รู้จักอย่างเรียบง่าย ถ่ายทอดตัวละครที่น่ารักให้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว ในฐานะแฟนหนังสยองขวัญ หนังเรื่องนี้ติดอันดับต้นๆ ในลิสต์หนังสยองขวัญที่ดีที่สุดของผมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โครงเรื่องดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วและแนบเนียนเข้ากับเนื้อเรื่องหลัก แต่นั่นเป็นเพราะการถ่ายทำที่สวยงาม การแสดง และบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้เรารู้จักและใส่ใจตัวละครมากพอที่จะไม่กังวลเมื่อพวกเขาต้องลงไปหลบในถ้ำมืด ความรู้เกี่ยวกับตัวละครนี้มีความสำคัญตลอดทั้งเรื่อง เมื่อตัวละครแตกกลุ่มและร่วมมือกันหลบหนี ความตื่นเต้นและความตกใจเริ่มต้นขึ้นก่อนที่ความหวาดกลัวหลักจะมาถึง และต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงหญิงล้วนที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง และไม่ซ้ำซากจำเจเพื่อยกย่องตัวเองแบบสตรีนิยม ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมและบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ผมขอแนะนำหนังเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่อยากดูหนังสยองขวัญที่หนักแน่นและน่ากลัว ไม่ได้พลิกโฉมแนวหนังแนวนี้ แต่แหวกแนวจากหนังทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน
jon.h.ochiai
⭐ 6/10
หลังจากดู The Descent 1 แล้ว ผมกับโรเบิร์ต เพื่อนซี้ก็ตัดสินใจว่าการสำรวจถ้ำคงจะหายไปจากลิสต์ “สิ่งที่ต้องทำ” ของเราทั้งคู่อย่างถาวร “The Descent” ผลงานของนีล มาร์แชล ผู้เขียนบทและผู้กำกับ ถ่ายทอดและรักษาความตึงเครียดไว้ได้อย่างเหนียวแน่นตลอดทั้งเรื่อง หลังจากที่คุณผ่านพ้นความไม่อยากเชื่อที่ค้างคาใจไปได้ ขณะที่ผมเฝ้าดูเหล่าผู้หญิงคลานผ่านโพรงน้ำเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำทีละคนเพื่อเข้าไปในถ้ำที่ไหนสักแห่งในเทือกเขาแอปพาเลเชียน ผมก็คิดว่า “พวกเธอจะกลับยังไงกัน พวกเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!” เอาล่ะ ก็ต้องยอมรับมันไป เอ่อ เอ่อ เอ่อ โชคดี ผู้กำกับมาร์แชลที่หยิบยกเรื่องราวขึ้นมาได้อย่างเหมาะเจาะ ทริปผจญภัยสุดระทึกของกลุ่มก่อนหน้านี้คือการล่องแก่งน้ำเชี่ยว หลังจากทริปนั้น ซาร่าห์ (ชอว์นา แมคโดนัลด์) ต้องพบกับโศกนาฏกรรมที่เปลี่ยนชีวิต หนึ่งปีต่อมา ซาร่าห์และเบธ (อเล็กซ์ รีด) เพื่อนสนิทของเธอ ได้เข้าร่วมกับแก๊งที่กระท่อมแห่งหนึ่งในเทือกเขาแอปพาเลเชียน หญิงสาวทั้ง 6 คนกำลังเตรียมตัวสำหรับทริปสำรวจถ้ำที่นำโดยจูโน (นาตาลี เมนโดซา) จูโนรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างซาราห์หลังจากโศกนาฏกรรมและการฟื้นตัวของเธอ จูโนมองว่าทริปนี้เป็นโอกาสที่จะเสริมพลังให้กับซาราห์ ผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วย ได้แก่ เบคก้า (ซาสเกีย มัลเดอร์), แซม (แอนนา เบอริ่ง) และฮอลลี่ (โนรา-เจน โนวัน)
การเดินทางเริ่มต้นอย่างน่าสงสัยเมื่อจูโน (เมนโดซา) ทิ้งแผนที่ถ้ำของเธอไป เหล่าหญิงสาวยังคงเดินหน้าต่อไป และไม่หวั่นไหวต่อร่องรอยของซากสัตว์ลึกลับ ไม่น่าแปลกใจที่การสำรวจถ้ำกลับผิดพลาดอย่างมหันต์ พวกเธอหลงทางโดยไม่รู้ว่าจะออกไปอย่างไร และถูกสิ่งมีชีวิตกินเนื้อที่น่าสะพรึงกลัวไล่ล่า เหล่าหญิงสาวจึงต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด มาร์แชลล์ควบคุมอารมณ์และความตึงเครียดได้อย่างยอดเยี่ยม โรเบิร์ต เพื่อนของฉันชี้ให้เห็นอย่างเฉียบแหลมว่าสิ่งที่ได้ผลจริงๆ ใน ”The Descent” คือมันไม่ได้พัฒนาไปเป็นหนังแอ็คชั่นที่น่าเบื่อหน่าย ไม่มีใครตะโกนว่า “รับไปซะ ไอ้แม่งเอ๊ย!” มาร์แชลล์อาจตั้งใจให้เรื่องราวของเขาเป็นอุปมานิทัศน์เสริมพลัง ผู้หญิงเหล่านี้หวาดกลัวอย่างแท้จริง และต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและหัวใจอย่างเต็มที่ท่ามกลางความหวาดกลัวที่ท่วมท้น อย่างไรก็ตาม
ขณะที่พวกเธอกำลังดิ้นรนและถูกสัตว์ร้ายโจมตี ทุกอย่างกลับดูน่าเชื่อถืออย่างประหลาด แปลกจริง ๆ แต่มันกลับทำให้คุณคิดในใจว่า “ฉันจะทำแบบเดียวกันไหม” ซาร่าห์ (แมคโดนัลด์) และจูโน (เมนโดซา) กลายเป็นพลังที่ต้องนับถือ จิตวิญญาณนักรบจูโนของเมนโดซานั้นมั่นคงและน่าดึงดูด เธอเป็นผู้นำที่ทะนงตน แมคโดนัลด์ทรงพลังและน่าเชื่อถือในการปรากฏตัวของซาร่าห์ในฐานะวีรบุรุษ การแสดงทั้งหมดนั้นทรงพลังตลอดทั้งเรื่อง มาร์แชลล์ยังคงรักษาบรรยากาศที่อึดอัดและทำให้เรารู้สึกกังวล รายละเอียดที่เปิดเผยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในถ้ำเกี่ยวกับวิวัฒนาการที่เป็นไปได้ของพวกมันนั้นน่าประทับใจ “The Descent” ต้องเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่โหดสยองที่สุดเรื่องหนึ่ง ความรุนแรงสมจริง และฉันก็ไม่ใช่แฟนหนังสยองขวัญตัวยง อย่างไรก็ตาม ฉันชอบฮีโร่ตัวยง “The Descent” มีฮีโร่หญิงที่ยอดเยี่ยม ชอว์นา แมคโดนัลด์ และนาตาลี เมนโดซา ก็สุดยอด “The Descent” เป็นหนังที่เข้มข้น ตึงเครียด ตอนจบก็ชวนให้สงสัยว่า “ต่อไปจะเป็นยังไง”
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังสยองขวัญ-เอาชีวิตรอดในที่ปิดตาย เราขอแนะนำ:
Creep (2004) : หนังสยองขวัญจากอังกฤษอีกเรื่องที่ว่าด้วยการติดอยู่ในอุโมงค์รถไฟใต้ดินกับอสูรกาย
As Above, So Below (2014) : หนังแนว Found Footage ที่ว่าด้วยการติดอยู่ในสุสานใต้ดินสุดสยองในปารีส
Alien (1979) : ต้นตำรับหนัง “ติดอยู่ในที่แคบกับอสูรร้าย” ที่ดีที่สุดตลอดกาล
The Cave (2005) : หนังฮอลลีวูดที่ออกฉายในปีเดียวกันและมีพล็อตเรื่องคล้ายกันมาก แต่ทำได้ไม่ดีเท่า The Descent
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้โหดและน่ากลัวมากแค่ไหน?
A: น่ากลัวและกดดันอย่างที่สุดครับ! นี่คือหนึ่งในหนังสยองขวัญที่เข้มข้นที่สุดเรื่องหนึ่ง ทั้งเลือดสาด, โหดร้าย, และบรรยากาศที่อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ไม่เหมาะสำหรับคนขวัญอ่อนหรือคนที่กลัวที่แคบอย่างรุนแรง
Q: ตัวประหลาดในเรื่องคือตัวอะไร?
A: เป็นอสูรกายคล้ายมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำมืดมานานจนวิวัฒนาการให้ตาบอดและใช้การฟังเสียงในการล่าเหยื่อครับ ในเรื่องเรียกพวกมันว่า “ครอว์เลอร์” (Crawlers)
Q: ได้ยินว่าหนังมี 2 ตอนจบ จริงเหรอ?
A: จริง และสำคัญมาก! เวอร์ชั่นที่ฉายในอเมริกาจะตัด 1 นาทีสุดท้ายออกไปเพื่อให้จบแบบมีความหวังเล็กๆ แต่ “ตอนจบดั้งเดิมของอังกฤษ” นั้นหดหู่, สิ้นหวัง, และทรงพลังกว่ามาก ขอแนะนำอย่างยิ่งให้หาเวอร์ชั่นดั้งเดิมของอังกฤษมาดูเพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ
บทสรุป: The Descent คือมาสเตอร์พีซของวงการหนังสยองขวัญสมัยใหม่ เป็นฝันร้ายที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้คุณกลัวจนตัวสั่นและลุ้นจนเหนื่อย เป็นหนัง “ต้องดู” ที่คอหนังสยองขวัญตัวจริงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง