ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: อังลี (Ang Lee)
- นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังดราม่าศิลปะที่ตีแผ่สังคมได้อย่างเฉียบคม
“The Ice Storm” ไม่ใช่หนังที่ดูง่าย แต่เป็นภาพยนตร์ที่ “ยอดเยี่ยม” ในทุกองค์ประกอบ อังลี สามารถสร้างบรรยากาศที่เยือกเย็น, อึดอัด, และว่างเปล่า สะท้อนสภาวะจิตใจของตัวละครออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หนังค่อยๆ เล่าเรื่องอย่างเนิบนาบ แต่กลับเต็มไปด้วยรายละเอียดและความหมายที่ซ่อนอยู่ในการกระทำและบทสนทนา
การแสดงของทีมนักแสดงทุกคนนั้นไร้ที่ติ ตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่าง เควิน ไคลน์, โจน อัลเลน, และ ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ไปจนถึงทีมนักแสดงวัยรุ่นในตอนนั้นที่ต่อมาได้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์อย่าง โทบีย์ แมไกวร์, คริสติน่า ริชชี่, และ เอไลจาห์ วูด ทุกคนต่างมอบการแสดงที่น่าจดจำ
นี่คือภาพยนตร์ที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมอเมริกันยุค 70s ที่เต็มไปด้วยความสับสนหลังสงครามเวียดนามและการปฏิวัติทางเพศได้อย่างเฉียบคมและเจ็บปวด เป็นหนังที่อาจจะดูแล้วหดหู่ แต่ก็จะทิ้งตะกอนให้เราได้ขบคิดถึงความหมายของ “ครอบครัว” และ “ความรัก” ไปอีกนาน
รางวัลการันตีคุณภาพ:
- ชนะเลิศรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival)
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 7.4/10
- Rotten Tomatoes: 86% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
thegouch
⭐ 8/10
The Ice Storm (สร้างจากนวนิยายของ Rick Moody) เกิดขึ้นในปี 1973 ในย่านชานเมืองนิวคานาอัน รัฐคอนเนตทิคัต ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอการวิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างรุนแรงต่อค่านิยมและอุดมคติของสังคมชนชั้นสูงอเมริกันในยุคนั้น โดยมีฉากหลังเป็นกรณีอื้อฉาววอเตอร์เกตของนิกสัน การคอร์รัปชันจึงถูกถ่ายทอดออกมาว่าแผ่ขยายเข้าสู่ครอบครัวชาวอเมริกัน ผ่านมุมมองสั้นๆ ของชีวิตสองครอบครัว คือ ครอบครัวฮูดส์และครอบครัวคาร์เวอร์ส
ทั้งสองครอบครัวมีลูกสองคน (คาร์เวอร์ส: ลูกชายสองคน, ครอบครัวฮูดส์: ลูกชายหนึ่งคน, ลูกสาวหนึ่งคน) ดูเหมือนคนปกติและให้การสนับสนุนกันในตอนแรก อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ร่วมกันหลายอย่าง และวิธีที่ครอบครัวต่าง ๆ พยายามสื่อสารกันทั้งภายในและระหว่างกัน เผยให้เห็นถึงปัญหาที่ฝังรากลึก ผู้กำกับ Lee ใช้เด็กๆ เป็นตัวอย่างความล้มเหลวของพ่อแม่ และความผิดพลาดของพวกเขาสะท้อนให้เห็นอย่างหนักแน่นและรุนแรงต่อผู้ใหญ่ในชีวิตของพวกเขา ผู้ใหญ่ก็ทำผิดพลาดได้เหมือนกัน และถูกมองว่าเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะในฐานะผู้ใหญ่ พวกเขาน่าจะรู้ดีกว่านี้ การต่อสู้ดิ้นรนกับลูกๆ บางครั้งก็ดูตลกขบขัน และแสดงให้เห็นถึงการขาดทักษะการเลี้ยงดูที่เหมาะสม ประเด็นที่น่าวิพากษ์วิจารณ์คือ โครงเรื่องแบบนี้ไร้ที่ติ ครอบคลุม และต่อเนื่องตลอดทั้งเรื่อง ยกเว้นบางฉากที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความไม่รับผิดชอบของผู้ใหญ่ก็ครอบงำจอ
แน่นอนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้กำลังก่อตัวขึ้นสู่จุดไคลแม็กซ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการ สุภาษิตที่ว่า “เย็บแผลในเวลาเดียวช่วยได้เก้า” ผุดขึ้นมาในใจเมื่อพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ หากผู้ใหญ่คนใดคนหนึ่งได้ฝึกฝนการเลี้ยงดูที่ดีอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คงจะไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการเลี้ยงดูที่ล้มเหลวของผู้ใหญ่ มันน้อยเกินไปและสายเกินไป การเลี้ยงดูที่ไม่ดี ความเห็นแก่ตัว ความฟุ่มเฟือย ความสำส่อนทางเพศ ความโลภ การขาดการสื่อสาร และความโง่เขลา ล้วนนำพาผู้ใหญ่เหล่านี้ไปสู่การทำผิดพลาดในชีวิตของตนเอง ชีวิตของลูกๆ และชีวิตของเพื่อนๆ และเมื่อถึงช่วงปิดเครดิตของภาพยนตร์ที่กำกับและแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมเรื่องนี้ พวกเขากลับกลายเป็นคนที่ต้องเก็บกวาดเศษซากทั้งหมด
=G=
⭐ 8/10
“Ice Storm” ไม่เพียงแต่บรรยายถึงสภาพอากาศในชนบทของรัฐคอนเนตทิคัตเท่านั้น แต่ยังเปรียบเปรยถึงผืนผ้าที่ปกคลุมครอบครัวชนชั้นกลางชานเมืองสี่คนที่ดูซีดเซียวและมีปัญหาในช่วงทศวรรษ 1970 อีกด้วย ด้วยนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ นำแสดงโดยอัง ลี การผลิตที่ประณีต ละเอียดอ่อน และเปี่ยมไปด้วยศิลปะนี้ พาผู้ชมเข้าสู่ชีวิตสี่ชีวิตที่ใช้ชีวิตตาม “ความฝันแบบอเมริกัน” แต่ภายในกลับจมอยู่กับความว่างเปล่า ความไม่สมหวัง และความสิ้นหวังอย่างเงียบๆ ด้วยความน่าเบื่อหน่ายและการพูดน้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้อาจทำให้ผู้ชมที่อดทนรอน้อยลงเสียได้ ในขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบละครจิตวิเคราะห์น่าจะเพลิดเพลินไปกับมันได้
jhclues
⭐ 8/10
ความแตกต่างระหว่างวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่สามารถนิยามได้ในแง่ของอายุหรืออายุ แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ความแตกต่างที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือประสบการณ์ที่อายุเพิ่มขึ้นมอบให้ เมื่อเราเติบโตขึ้น เราจะต้องเผชิญกับการตระหนักรู้ในบางครั้ง – บางคนเร็ว บางคนช้า – ว่าอายุและประสบการณ์ไม่ได้หมายถึงความพึงพอใจและอัตลักษณ์ส่วนบุคคลในชีวิตเสมอไป ซึ่งเป็นสองสิ่งที่เราทุกคนต่างพยายามไขว่คว้า แม้ว่าบางทีอาจจะโดยไม่รู้ตัวก็ตาม แต่มันเปรียบเสมือนผีเสื้อที่เรากำลังไล่ล่า และเมื่อถึงวัยหนึ่ง การขาดความสำเร็จในชีวิตอาจถูกมองข้ามไปโดยบางคนว่าเป็นวิกฤตวัยกลางคน ในความพยายามอันอ่อนแอที่จะหาเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำหรือทัศนคติบางอย่าง อย่างไรก็ตาม การติดป้ายเช่นนี้เป็นเพียงการทำให้สภาวะความเป็นอยู่ที่ดูเหมือนจะถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอดูเรียบง่ายลง
และเรากลับหันไปใช้กลอุบายทางจิตวิทยากับตัวเองเพื่อหาเหตุผลให้กับพฤติกรรมที่มักจะยอมรับไม่ได้ภายใต้แสงสว่างแห่งเหตุผลและศีลธรรม แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์เฉพาะ แต่เป็นก้าวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อถึงวัยที่เริ่มตระหนักถึงความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเผชิญในแบบฉบับของตนเอง ในยุคสมัยของตนเอง และนี่คือประเด็นที่เปรียบเปรยเป็นหัวใจสำคัญของละครดราม่าอันลึกซึ้งและครุ่นคิดของผู้กำกับอัง ลี เรื่อง “The Ice Storm” ซึ่งเราค้นพบว่า – บ่อยครั้งที่ – การเป็นผู้ใหญ่ที่เราเป็นนั้นเป็นเพียงส่วนต่อขยายของวัยรุ่น เราอาจลอกคราบความเยาว์วัยออกไป แต่ความสับสนและความไม่แน่นอนอันน่าอึดอัดยังคงอยู่ แม้จะแสดงออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งเราอาจตอบโต้แม้กระทั่งกับมโนธรรมของตนเอง ก่อให้เกิดมาตรฐานสองมาตรฐานในชีวิต ซึ่งยิ่งทำให้ความสับสนและความทุกข์ทวีความรุนแรงขึ้น ทิ้งให้เราต้องเผชิญกับความหนาวเย็นและเยือกแข็งในจิตวิญญาณของเราเอง
ด้วยบทภาพยนตร์ที่เฉียบแหลมและชาญฉลาดของเจมส์ ชามัส (ผู้เขียน Crouching Tiger, Hidden Dragon และ Eat Drink Man Woman ของลี และอื่นๆ) ลีได้สร้างสรรค์และถ่ายทอดภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์กวีและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ แม้จะค่อนข้างหม่นหมอง เล่าเรื่องราวของสองครอบครัวเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในคอนเนตทิคัตในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ได้แก่ เบนและเอเลน่า ฮูด (เควิน ไคลน์ และโจน อัลเลน) และลูกๆ พอล (โทบีย์ แม็กไกวร์) และเวนดี้ (คริสตินา ริชชี) และจิมและเจนีย์ คาร์เวอร์ (เจมีย์ เชอริแดน และซิกอร์นีย์ วีเวอร์) และลูกๆ ไมกี้ (เอไลจาห์ วูด)
และแซนดี้ (อดัม แฮนน์-เบิร์ด) เรื่องราวนี้หลายคนจะเข้าใจได้ในระดับส่วนตัว เพราะมันสะท้อนถึงปัญหาที่เราทุกคนต่างเผชิญร่วมกัน นั่นคือการพยายามสร้างสายสัมพันธ์ที่จับต้องได้กับใครบางคนหรือบางสิ่งในชีวิตที่เราสามารถยึดเหนี่ยวและปลอบโยนใจได้ เบนและเอเลน่าห่างเหินกัน เธอห่างเหินทั้งทางอารมณ์และทางเพศจากเบ็น และด้วยความไม่สมหวัง เธอจึงโหยหาอิสรภาพในวัยเยาว์ที่ผ่านพ้นไปอีกครั้ง ขณะที่เบ็นแสวงหาการปลอบประโลมในความสัมพันธ์ที่จืดชืดแต่ก็น่าพึงพอใจทางกายกับผู้หญิงอีกคน จิมซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน กลายเป็นคนที่ตัดขาดจากครอบครัวอย่างสิ้นเชิง ลูกๆ ของเขาไม่สนใจใยดีเขาเลยแม้แต่น้อย ส่วนเจนีย์ก็อยู่ในภาวะชาชินกับการสำส่อนทางเพศอยู่ตลอดเวลา แต่กลับเย็นชาและไม่สนใจสามีของตัวเอง
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังดราม่าที่ตีแผ่ความสัมพันธ์ในครอบครัวชานเมือง เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- American Beauty (1999) อเมริกัน บิวตี้: ภาพยนตร์รางวัลออสการ์ที่เสียดสีชีวิตของครอบครัวชนชั้นกลางในอเมริกาได้อย่างเจ็บแสบและงดงาม
- Revolutionary Road (2008) ถนนแห่งฝัน สองเรานิรันดร์: เรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่พยายามจะหลีกหนีจากชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายในชานเมือง แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย
- The Virgin Suicides (1999) เวอร์จิ้น ซุยไซด์: ผลงานแจ้งเกิดของผู้กำกับ โซเฟีย คอปโปลา ที่เล่าเรื่องราวลึกลับและน่าเศร้าของห้าสาวพี่น้องในย่านชานเมือง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสือหรือไม่?
A: ใช่ครับ! “The Ice Storm” ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันในปี 1994 ของนักเขียน ริค มูดี้ (Rick Moody)
Q: “Key Party” (ปาร์ตี้สลับคู่) คืออะไร?
A: เป็นปาร์ตี้ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม (ในบางกลุ่ม) ช่วงยุค 70s ซึ่งเป็นยุคแห่งการปฏิวัติทางเพศ โดยผู้ชายจะนำกุญแจรถหรือกุญแจบ้านของตัวเองใส่ไว้ในโถ และในช่วงท้ายของปาร์ตี้ ผู้หญิงจะสุ่มหยิบกุญแจขึ้นมา และจะต้องกลับบ้านไปกับเจ้าของกุญแจคนนั้นครับ
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับคอหนังตัวจริงที่ชื่นชอบหนังดราม่า-ศิลปะที่เล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง, เน้นการแสดงที่ลึกซึ้ง, และมีประเด็นให้ขบคิด อาจไม่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการดูหนังเพื่อความบันเทิงเบาสมอง