ดูหนัง The Legend Of Zu (2001) ซูซัน ศึกเทพยุทธถล่มฟ้า
หากคุณคิดถึงหนังจีนกำลังภายในยุค 2000 ที่เต็มไปด้วยจินตนาการสุดหลุดโลก, วิชาดาบบิน, และพลังปราณที่สู้กันสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งสวรรค์ วันนี้คุณมาถูกทางแล้ว! The Legend of Zu คือภาพยนตร์ที่เป็นเหมือน “ภาพวาดเคลื่อนไหว” มันคือการปลดปล่อยจินตนาการของผู้กำกับ ฉีเคอะ อย่างเต็มที่ ที่จะพาคุณไป “ดูหนัง” และตื่นตาตื่นใจกับโลกแห่งเทือกเขาซูซันที่ทั้งงดงามและอันตราย
เรื่องย่อ
คำเตือน: เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ซับซ้อนและดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก!
ณ เทือกเขาซูซัน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าจอมยุทธ์ผู้บำเพ็ญตบะจนกลายเป็นเซียน กำลังเผชิญหน้ากับมหันตภัยครั้งใหญ่ เมื่อ อินซอมเนีย จอมมารผู้ทรงพลังได้หลุดออกมาอาละวาด ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ฝ่ายธรรมะนำโดยสำนักง้อไบ๊ที่นำโดยปรมาจารย์ คิ้วขาว (หงจินเป่า) ต้องรวบรวมเหล่าจอมยุทธ์ฝีมือดีที่สุดเพื่อต่อกรกับจอมมาร นำโดย จ้าวคงคา (เจิ้งอี้เจี้ยน) จอมยุทธ์หนุ่มผู้ถูกหลอกหลอนด้วยอดีตที่ต้องสูญเสียอาจารย์และศิษย์น้องคนรัก รุ่งอรุณ (จางป๋อจือ) ไปให้กับพลังมาร แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เขาได้พบกับ อีนิกม่า (จางป๋อจือ) เซียนสาวแห่งสำนักคุนหลุนผู้มีใบหน้าเหมือนกับรุ่งอรุณราวกับคนเดียวกัน เขาต้องร่วมมือกับเธอ, โลหิตแดง (กู่เทียนเล่อ) จอมยุทธ์อีกคนหนึ่ง, และเหล่าจอมยุทธ์จากทั่วสารทิศ ในภารกิจรวบรวม “กระบี่ฟ้า” และ “กระบี่ม่วง” สองสุดยอดศาตราวุธในตำนานให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถกำจัดจอมมารอินซอมเนียและปกป้องโลกทั้งสามไว้ได้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
นี่คือภาพยนตร์ที่รวมเอานักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์แห่งยุค 2000 ของฮ่องกงไว้คับคั่งที่สุดเรื่องหนึ่ง!
เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng) รับบทเป็น จ้าวคงคา (King Sky)
จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) รับบทเป็น รุ่งอรุณ / อีนิกม่า
กู่เทียนเล่อ (Louis Koo) รับบทเป็น โลหิตแดง (Red)
หงจินเป่า (Sammo Hung) รับบทเป็น ปรมาจารย์คิ้วขาว
จางจื่ออี๋ (Zhang Ziyi) รับบทเป็น จอย
อู๋จิง (Wu Jing) (ซูเปอร์สตาร์นักบู๊ในปัจจุบัน) ในบทบาทสมทบ
ผู้กำกับ: ฉีเคอะ (Tsui Hark) ปรมาจารย์แห่งวงการหนังฮ่องกง ผู้ปฏิวัติหนังกำลังภายในด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร เจ้าของผลงานระดับตำนานอย่าง A Chinese Ghost Story (โปเยโปโลเย) และ Once Upon a Time in China (หวงเฟยหง)
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
The Legend of Zu คือหนังที่ต้องนิยามว่า “Style over Substance” (สไตล์เหนือเนื้อหา) อย่างแท้จริง
งานภาพและ CGI ที่เป็นปรากฏการณ์: นี่คือจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของหนัง ในปี 2001 หนังเรื่องนี้ถือเป็นก้าวที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่ของวงการหนังฮ่องกงในการใช้เทคนิค CGI สร้างโลกแฟนตาซีทั้งเรื่อง ฉีเคอะได้สร้างสรรค์ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ, สีสันจัดจ้าน, และเต็มไปด้วยพลังงานที่บ้าคลั่ง
เนื้อเรื่องที่ตามไม่ทัน: ในทางกลับกัน จุดอ่อนที่สุดของหนังก็คือ “บทภาพยนตร์” หนังดำเนินเรื่องด้วยความเร็วสูงมาก มีการแนะนำตัวละครและแนวคิดใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลาจนผู้ชมแทบตามไม่ทัน ทำให้ยากที่จะผูกพันกับตัวละครหรือเข้าใจในเนื้อเรื่องได้อย่างลึกซึ้ง
กล่าวคือ ฉีเคอะเลือกที่จะ “โชว์” มากกว่า “เล่า” หากคุณคาดหวังจะดูหนังที่มีเนื้อเรื่องที่สมเหตุสมผล คุณอาจจะผิดหวัง แต่ถ้าคุณต้องการเสพงานภาพแฟนตาซีที่หลุดโลกและตระการตา นี่คือหนังที่จะตอบสนองคุณได้อย่างเต็มที่
IMDb: ให้คะแนน 5.9/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 46% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักวิจารณ์เสียงแตกในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังกำลังภายในแฟนตาซีที่ภาพสวยงามอลังการ เราขอแนะนำ:
Storm Riders (1998) ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า : หนังกำลังภายในจากฮ่องกงอีกเรื่องที่บุกเบิกการใช้ CGI อย่างยิ่งใหญ่
Hero (2002) : มหากาพย์ภาพยนตร์กำลังภายในของ จางอี้โหมว ที่โดดเด่นด้วยการใช้สีและองค์ประกอบภาพที่งดงามราวกับภาพวาด
Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก : หนังกำลังภายในที่เน้นความงดงามของท่วงท่าและดราม่าที่ลึกซึ้ง
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้ดูรู้เรื่องยากจริงไหม?
A: จริงครับ! หนังเรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสับสนและดำเนินเรื่องเร็วมาก วิธีการดูให้สนุกที่สุดคือปล่อยวางความพยายามที่จะทำความเข้าใจทุกอย่าง แล้วปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับภาพที่สวยงามและฉากแอ็คชั่นที่ตระการตาแทนครับ
Q: CG ของหนังยังดูดีอยู่ไหมในปัจจุบัน?
A: ต้องยอมรับว่า CG ในปี 2001 อาจจะดูลอยและไม่เนียนตาเท่าหนังในยุคปัจจุบันครับ แต่ถ้ามองในฐานะผลงานที่บุกเบิกในยุคนั้น ต้องถือว่าการออกแบบทางศิลป์นั้นน่าทึ่งและเปี่ยมด้วยจินตนาการอย่างยิ่ง
Q: นี่เป็นหนังกำลังภายในทั่วไปหรือเปล่า?
A: เป็นแนวกำลังภายในแฟนตาซีที่เรียกว่า “เซียนเซี่ย” (Xianxia) ครับ ซึ่งจะมีความเหนือจริงมากกว่ากำลังภายในทั่วไป เกี่ยวข้องกับเทพ, เซียน, ปีศาจ, และเวทมนตร์คาถาต่างๆ
บทสรุป: The Legend of Zu คือภาพยนตร์ที่ทั้งงดงามและวุ่นวายในเวลาเดียวกัน เป็นผลงานที่อาจจะมีข้อบกพร่องในด้านการเล่าเรื่อง แต่ก็เป็นความบกพร่องที่น่าหลงใหลและเป็นหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์หนังฮ่องกง หากคุณเป็นแฟนตัวยงของผู้กำกับฉีเคอะ หรือชื่นชอบหนังแฟนตาซีเอเชียที่จินตนาการไร้ขีดจำกัด นี่คือประสบการณ์ทางสายตาที่คุณไม่ควรพลาด