ดูหนัง The Princess Diaries (2001) บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่
เคยมีสักครั้งไหมที่คุณแอบฝันว่า… วันหนึ่งอาจจะมีใครสักคนมาบอกว่าแท้จริงแล้วคุณคือเจ้าหญิง/เจ้าชายที่หายไป? The Princess Diaries คือภาพยนตร์จากค่ายดิสนีย์ที่หยิบเอาความฝันนั้นมาสร้างเป็นเรื่องราวจริงบนจอภาพยนตร์ได้อย่างน่ารักและมีเสน่ห์ที่สุด! วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นเหมือนผ้าห่มนุ่มๆ ในวันที่เหนื่อยล้า เป็นหนังฟีลกู้ดขึ้นหิ้งที่ดูกี่ครั้งก็ยังคงสร้างรอยยิ้มและความสุขให้เราได้เสมอ
เรื่องย่อ
มีอา เธอร์โมโพลิส (แอนน์ แฮทธาเวย์) คือเด็กสาวมัธยมปลายสุดเฉิ่ม, ผมฟู, ใส่แว่นตาหนาเตอะ, และแทบจะไม่มีตัวตนในโรงเรียน เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในซานฟรานซิสโกกับแม่ที่เป็นศิลปิน และมีความฝันเพียงแค่… อยากจะผ่านวิชาพูดในที่สาธารณะไปให้ได้
แต่แล้วชีวิตที่แสนธรรมดาของเธอก็ต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อ ราชินีคลารีส เรนัลดี (จูลี่ แอนดรูว์ส) คุณย่าผู้สง่างามที่เธอไม่เคยพบหน้ามาก่อน ได้เดินทางมาจากประเทศ “เจโนเวีย” ดินแดนเล็กๆ ในยุโรป เพื่อมาบอกความลับสุดยอดกับเธอว่า… แท้จริงแล้วเธอคือ “เจ้าหญิงอมีเลีย มินโญเน็ต เธอร์โมโพลิส เรนัลดี” รัชทายาทเพียงหนึ่งเดียวของราชบัลลังก์เจโนเวีย!
จากเด็กสาวธรรมดา มีอาจึงต้องเข้าคอร์ส “ฝึกการเป็นเจ้าหญิง” แบบเร่งด่วนภายใต้การดูแลของคุณย่าสุดเนี้ยบ เธอต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่การเดิน, การโบกมือ, การเข้าสังคม ไปจนถึงการเต้นรำ ท่ามกลางสายตาจับจ้องของสื่อและเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่เปลี่ยนไป มีอาต้องเลือกระหว่างการใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นธรรมดาที่เธอคุ้นเคย หรือการก้าวขึ้นมารับผิดชอบต่อบัลลังก์และประชาชนของเธอ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway) รับบทเป็น มีอา เธอร์โมโพลิส: นี่คือบทบาทแจ้งเกิดที่ทำให้เธอกลายเป็นดาวจรัสแสงในทันที ด้วยการแสดงที่ทั้งตลก, น่ารัก, และเป็นธรรมชาติ
- จูลี่ แอนดรูว์ส (Julie Andrews) รับบทเป็น ราชินีคลารีส เรนัลดี: การกลับมาอย่างสง่างามของนักแสดงในตำนานจาก The Sound of Music และ Mary Poppins
- เฮกเตอร์ เอลิซอนโด (Héctor Elizondo) ในบท “โจ” หัวหน้าองครักษ์และคนขับรถสุดอบอุ่น ที่ขโมยซีนได้ตลอด
- ผู้กำกับ: แกรี่ มาร์แชล (Garry Marshall) ปรมาจารย์ผู้สร้างหนังรอมคอมฟีลกู้ดในตำนานอย่าง Pretty Woman และ Runaway Bride ซึ่งลายเซ็นของเขาในการสร้างหนังที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ก็ปรากฏอย่างชัดเจนในเรื่องนี้
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
The Princess Diaries คือภาพยนตร์แนว “Ugly Duckling” (ลูกเป็ดขี้เหร่) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องหนึ่ง มันคือเทพนิยายยุคใหม่ที่มอบข้อคิดอันทรงพลังว่า “ความกล้าหาญและความดีงามในจิตใจ คือสิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งเป็นเจ้าหญิงอย่างแท้จริง”
หนังเต็มไปด้วยฉากที่น่าจดจำและมีเสน่ห์ ตั้งแต่ฉาก “แปลงโฉม” ในตำนาน ไปจนถึงฉากฝึกการเป็นเจ้าหญิงที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่รักคือ “เคมีระหว่างนักแสดง” ความสัมพันธ์แบบคุณย่า-หลานสาวระหว่าง จูลี่ แอนดรูว์ส และ แอนน์ แฮทธาเวย์ นั้นทั้งน่ารัก, อบอุ่น, และน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
- IMDb: ให้คะแนน 6.4/10
- Rotten Tomatoes: แม้นักวิจารณ์จะเสียงแตก (49%) แต่คะแนนจากฝั่งผู้ชม (Audience Score) สูงถึง 79% ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านี่คือหนังขวัญใจมหาชนอย่างแท้จริง
sddavis63
⭐ 6/10
เรื่องราวสนุกๆ – ถึงแม้จะไม่ได้แปลกใหม่อะไร – เกี่ยวกับเด็กสาววัย 15 ปีจากซานฟรานซิสโก (แอนน์ แฮทธาเวย์) ผู้ซึ่งดูเคอะเขินและไม่เป็นที่นิยม จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองคือรัชทายาทแห่งอาณาจักรเจโนเวีย อาณาจักรเล็กๆ ในยุโรปที่สมมติขึ้น และเธอต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย เรื่องนี้มักจะเป็นแนวดิสนีย์ ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณหน้าแดงแม้แต่น้อยเมื่อดูเรื่องนี้กับลูกวัย 8 ขวบ คำพูดที่รุนแรงที่สุดที่ใช้คือ “หุบปาก” – และมีการอธิบายอย่างรวดเร็วต่อพระราชินีว่าในอเมริกา “หุบปาก” ไม่ได้หมายความว่า “เงียบ” เสมอไป อาจหมายถึง “ว้าว!” เท่านั้น
มีนักแสดงที่แข็งแกร่ง แฮทธาเวย์แสดงได้ดีมากในบทบาทนำของมีอา จากวัยรุ่นที่ขี้อายและเคอะเขิน กลายเป็นคนดังอย่างกะทันหัน ทำให้เธอต้องเผชิญกับความนิยม ไม่ใช่เพราะตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่เพราะสิ่งที่เธอเป็น จนกระทั่งในที่สุด เธอกลายเป็นเจ้าหญิงผู้สง่างาม จูลี แอนดรูว์ส ก็คือ จูลี แอนดรูว์ส เธอถ่ายทอดบทบาทควีนแคลรีสได้อย่างยอดเยี่ยม และเฮคเตอร์ เอลิซอนโดก็ถ่ายทอดบทบาทโจเซฟ คนขับรถและบอดี้การ์ดของมีอาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีสไตล์ เป็นหนังที่สนุก ไม่หนัก ไม่หนักจนเกินไป ไม่มีอะไรที่ทำให้ต้องคิดมาก แค่สนุกเบาๆ สบายๆ ก็พอ เสียคะแนนไปบ้างเพราะขาดความคิดสร้างสรรค์ (มีหนังกี่เรื่องที่ใช้ธีมนี้) แต่ก็ยังดูเพลินอยู่ 6/10
zetes
⭐ 7/10
ฉันคิดไว้แล้วว่าจะเกลียดหนังเรื่องนี้ เหตุผลเดียวที่ฉันดูเกินห้านาทีก็เพราะฉันขี้เกียจ โชคดีที่หนังเรื่องนี้ออกมาดีทีเดียว คือ ใช่ มันค่อนข้างซ้ำซาก ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย เป็นตัวของตัวเองแบบที่แอนน์ แฮทธาเวย์มีผม คิ้ว และแว่นตา ซึ่งไม่ได้ทำให้เธอน่าเกลียดเลยสักนิด จริงๆ แล้ว พอเธอแปลงโฉมใหม่ เธอก็ดูไม่สวยกว่าเดิมเลย แล้วอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดีล่ะ? จูลี่ แอนดรูว์ส ก็เป็นคนหนึ่งนะ มันวิเศษมากที่เธอกลับมาเล่นหนังอีกครั้ง พระเจ้าช่วย! แต่มันจะดูจืดชืดไปหน่อยถ้าไม่มีคุณแฮทธาเวย์ เธอเป็นตัวละครที่หาได้ยากจริงๆ เธอเป็นดาราระดับ A-list ของฮอลลีวูด เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีใบหน้าที่สวยที่สุดในโลก แต่เธอก็เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ตัวละครของเธอเป็นตัวละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่มักจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ Hathaway ก็ถ่ายทอดบุคลิกของเธอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนยากที่จะไม่รู้สึกเคลิบเคลิ้ม แม้แต่ในฉากที่แย่อย่างเห็นได้ชัด เธอก็โดดเด่นออกมา ฉันหัวเราะกับมุกตลกที่ค่อนข้างแย่ การเติบโตของตัวละครของเธอนั้นเป็นเพียงเรื่องซ้ำซาก แต่เธอก็ทำให้ฉันเชื่อได้ ที่น่าสนใจคือนักแสดงสมทบที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Hector Elizondo รวมถึง Heather Matarazzo ซึ่งเล่นได้ยอดเยี่ยมใน Welcome to the Dollhouse และ Sandra Oh ซึ่งเล่นได้ยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เรื่อง Last Night ของ Don McKellar แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังคงเกลียดหนังเรื่องนี้อยู่ดี ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะมีเรื่องให้ติอยู่มากมาย เด็กสาวๆ จะชอบมันมาก มันไม่มีพิษมีภัย บทเรียนที่สอนล้วนมีคุณค่า แม้จะดูซ้ำซากก็ตาม 7/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงรักเทพนิยายยุคใหม่ที่ดูแล้วมีความสุข เราขอแนะนำ:
- The Princess Diaries 2: Royal Engagement (2004): ภาคต่ออย่างเป็นทางการที่สนุกและโรแมนติกไม่แพ้กัน
- Ella Enchanted (2004): หนังแฟนตาซีเจ้าหญิงอีกเรื่องของ แอนน์ แฮทธาเวย์ ที่ทั้งตลกและน่ารัก
- What a Girl Wants (2003): หนังที่มีพล็อตคล้ายกัน เมื่อเด็กสาวชาวอเมริกันพบว่าพ่อของเธอเป็นขุนนางอังกฤษ
- Pretty Woman (1990): ผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน ที่เป็นตำนานของหนังแนวซินเดอเรลล่าแปลงโฉม
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เหมาะกับเด็กๆ ไหม?
A: เหมาะมากครับ! นี่คือหนังสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง (เรท G) ปลอดภัย, ตลก, อบอุ่น, และมีข้อคิดที่ดีเกี่ยวกับการยอมรับในตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย
Q: แอนน์ แฮทธาเวย์ คือคนเดียวกันกับ Catwoman เหรอ?
A: ใช่แล้วครับ! นี่คือภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ที่แจ้งเกิดและทำให้เธอกลายเป็นดาวรุ่ง ก่อนที่เธอจะโด่งดังในบทบาทอื่นๆ อีกมากมายในเวลาต่อมา เช่น Catwoman ใน The Dark Knight Rises และคว้ารางวัลออสการ์จาก Les Misérables
Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงเป็นที่รักมาจนถึงทุกวันนี้?
A: เพราะมันมีเรื่องราวที่เป็นอมตะ, ตัวละครที่น่ารัก, และข้อความที่เปี่ยมด้วยพลังบวกครับ เคมีระหว่างนักแสดงนั้นมหัศจรรย์ และมันเป็นหนังประเภทที่เมื่อคุณรู้สึกแย่ๆ แค่เปิดดู ก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ทันที
บทสรุป: The Princess Diaries คือภาพยนตร์ฟีลกู้ดสุดคลาสสิกที่จะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้ดู เป็นเทพนิยายยุคใหม่ที่ทั้งตลก, มีเสน่ห์, และสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างยอดเยี่ยม หากคุณกำลังมองหาหนังที่จะทำให้คุณยิ้มได้… ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล แค่เปิด “บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่” เล่มนี้ดูอีกครั้ง