สุดยอดนักแสดงและผู้กำกับระดับตำนาน
ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ผู้กำกับเจ้าของผลงานระดับตำนานอย่าง Forrest Gump, Back to the Future และ Cast Away ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถทำหนังระทึกขวัญได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เกร็ดที่น่าทึ่งคือ เขาถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในช่วงที่พักกองถ่าย Cast Away เพื่อรอให้ ทอม แฮงค์ส ลดน้ำหนัก!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์: การคารวะต่อปรมาจารย์ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก
What Lies Beneath คือจดหมายรักถึงหนังของ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก อย่างแท้จริง หนังเต็มไปด้วยสไตล์และเทคนิคการเล่าเรื่องที่แฟนๆ ของฮิตช์ค็อกต้องคุ้นเคย ทั้งการใช้ตัวละครหญิงสาวผมบลอนด์ที่ตกอยู่ในอันตราย, การสร้างความสงสัยในตัวละครสามี และการแอบมองเพื่อนบ้านที่คล้ายกับเรื่อง Rear Window
เซเม็กคิสใช้ความสามารถของเขาในการสร้างบรรยากาศหลอนกดดันได้อย่างเชี่ยวชาญ และมีฉาก Jump Scare ที่ทรงพลังและถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ (โดยเฉพาะฉากในอ่างอาบน้ำ!)
- IMDb: ให้คะแนน 6.6/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 47% แม้เสียงวิจารณ์จะแตก แต่หนังก็ประสบความสำเร็จถล่มทลายใน Box Office และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมที่มองหหนังระทึกขวัญคุณภาพ
หมื่นทิพ
⭐ 8/10
ผมทึ่งพอสมควรตอนรู้ว่านี่คืองานกำกับคั่นเวลาของ Robert Zemeckis ตอนนั้น Zemeckis กำลังอยู่ในช่วงพักกองถ่าย Cast Away รอให้ Tom Hanks นักแสดงนำในเรื่องนั้นลดน้ำหนักตัวเองแล้วก็ไว้หนวดเคราเพื่อให้เข้ากับบทบาทคนติดเกาะ พอพักปุ๊บเดินกล้องถ่ายทำ What Lies Beneath ต่อทันที การเตรียมงานก็เป็นไปอย่างรวดเร็วครับ เพราะนักแสดงนำใน WLB นั้น Zemeckis วางตัวไว้แล้วว่าต้องให้ Harrison Ford และ Michelle Pfeiffer มารับบทคู่สามีภรรยา นอร์แมนกับแคลร์ สเปนเซอร์ ก็พอดีครับว่าสองคนตอบตกลง ส่วนตัวหนังเองก็ออกมาในแนวลึกลับซ่อนเงื่อนสไตล์ Alfred Hitchcock ราชาหนังเขย่าขวัญ เนื้อเรื่องมันก็จะประมาณว่าตัวเอกเข้าไปพัวพันหรือรู้เรื่องลึกลับบางอย่าง แล้วหนังก็จะค่อยๆ เปิดเผยปม ระหว่างนั้นก็เสิร์ฟความระทึกลงไปเป็นพักๆ ทำให้คนดูไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น และยังสร้างอารมณ์หวาดระแวงให้คนดูอีกต่างหาก
แม้แต่พระเอกหรือนางเอก ลองว่าเป็นหนังของ Hitchcock ล่ะก็ อย่าเพิ่งวางใจว่าพวกเขาจะเป็นอย่างที่คุณคิด! ด้วยลีลาแบบนี้แหละครับทำให้หนังของ Hitchcock ระทึกและสร้างความตื่นเต้นได้ตลอด เป็นเอกลักษณ์ที่นักสร้างหนังเดินตามรอยมาจนปัจจุบัน ซึ่ง Zemeckis เองก็เจตนาทำออกมาเคารพ Hitchcock นั่นเอง ครึ่งแรกนั้น หนังจะมีกลิ่นอาย Rear Window เมื่อแคลร์ (Pfeiffer) ภรรยาของ นอร์แมน (Ford) ต้องเฝ้าบ้านอยู่ลำพังเนื่องจากลูกของเธอก็ไปเรียนต่างเมือง ส่วนสามีก็ต้องทำงานอยู่ที่แล็ป อยู่มาวันหนึ่งระหว่างการทำงานและพักผ่อนอยู่ในบ้าน เธอก็ได้ยินสามีภรรยาข้างบ้านทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตัวคนเป็นภรรยานั้นก็ออกอาการกลัวอย่างลนลาน ราวกับสามีทำร้ายทุบตีเธอ เหตุการณ์นั้นทำให้แคลร์สงสัยและติดตามความเป็นไปของคนข้างบ้านทุกวันๆ
แล้วไม่กี่วันจากนั้น… ภรรยาเหมือนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แคลร์จึงสงสัยว่าสามี (James Remar) ลงมือฆ่าภรรยาไปแล้วหรือเปล่า… ยังไม่พอครับ เพราะในบ้านของเธอเองก็เริ่มเกิดเรื่องประหลาด เหมือนมีวิญญาณพยายามสื่อสารบางสิ่งกับเธอ แน่นอนครับ เธอบอกสามีเขาก็ไม่เชื่อ บอกใครก็หาว่าเธอผิดปกติ อยู่บ้านคนเดียวจนเพ้อ… แล้วเธอเพ้อจริงหรือไม่… นี่แหละครับปมที่ชวนติดตาม ตัวหนังนั้นถือว่าระทึกใช้ได้ครับ ต้องยอมรับว่าบางจังหวะอาจจะอืดบ้าง แต่ถ้าดูโดยรวมๆ หนังก็ขยันเสิร์ฟความตื่นเต้นมาให้ผู้ชมตลอด บรรยากาศลึกลับชวนผวาก็มีมาเรื่อยๆ ผมก็ชอบล่ะครับ แม้บางฉากบางตอนจะดูจงใจและประดิษฐ์อยู่ แต่เป็นการประดิษฐ์ที่ออกรสใช้ได้ หลายฉากเล่นเอาเหวอไปเลยครับ อย่างฉากตรงอ่างน้ำนั่นหรือตอนที่แคลร์ไปแอบฟังคู่สามีภรรยาข้างบ้านตีกัน มีดีกรีความกดดันในปริมาณที่พอเหมาะทีเดียว ไหนจะฉากตรงทะเลสาบหลังบ้านแล้วก็ฉากใต้น้ำอีก ทำได้สวยแบบแฝงความลึกลับจริงๆ ครับ
bob.lindell
⭐ 8/10
โอ้โห!! หนังสนุกมาก! บอกเลยว่าหนังผีเรื่องนี้ไม่เล่าเยอะเกินไป เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรให้เขียนถึงที่บ้านเลย เรื่องนี้ทำออกมาประมาณร้อยกว่าเรื่องแล้ว แต่ทำออกมาได้ดีกว่าที่ผ่านๆ มา ดูเหมือนว่าช่วงนี้หนังจะพยายามยัดเยียดทุกอย่างเกินความจำเป็น ทั้งเอฟเฟกต์พิเศษ เลือดสาด เพลงประกอบ และความรุนแรง แต่มันไม่ใช่… ผมคิดมาตลอดว่าพวกเขาถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วหันกลับไปหาสิ่งที่ทำให้หนังหลอน มันไม่ใช่ปีศาจที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ หรือเพลงประกอบที่หนักหน่วง แต่มันคือเสียงประตูที่ดังเอี๊ยดอ๊าด มันคือเงาสะท้อนในกระจก มันคือความรู้สึกที่รู้ว่าเพิ่งผลักเก้าอี้ตัวนั้นออกไปเมื่อครู่นี้ แล้วตอนนี้มันก็ลอยห่างจากโต๊ะไปอีกครั้ง นั่นแหละที่ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขากลับไปเช็คตู้เสื้อผ้าและนอนหลับโดยเปิดไฟในโถงทางเดินไว้ตอนกลับบ้าน
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในหนังเรื่องนี้คือความเงียบ ผมเดาว่าหนังเงียบไปประมาณ 50% ยกเว้นเสียงหายใจ เสียงฝีเท้า เสียงประตูเอี๊ยดอ๊าด… เยี่ยมไปเลย ดูเหมือนว่าช่วงนี้พวกผู้มีอำนาจต้องใส่เพลงประกอบทุกวินาทีเข้าไปในหนัง (ซึ่งก็สมควรทำอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีโฆษณาเพลงประกอบแยกออกมาจากหนังหลายเรื่อง) เพื่อเพิ่มระดับความหลอน… ซึ่งมันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ความเงียบในหนังยิ่งทำให้ไหล่คุณตึงเครียดขึ้น จนคุณต้องค่อยๆ ขยับตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ถ้าจะให้ผมบ่นอะไรสักอย่าง คงเป็นการปูทางไปสู่เหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยชัดเจน ผมไม่อยากเปิดเผยอะไรหรอก แต่คุณจะรู้เองเมื่อได้ดู เหมือนกับว่าพวกเขายอมแพ้ที่จะใส่มันลงไปในเนื้อเรื่อง พวกเขาอาจจะใส่คำบรรยายใต้ภาพ (หรือช่อง “วิดีโอป๊อปอัป”) ไว้เพื่อบอกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นสำคัญก็ได้ สำหรับผมกับภรรยา มันทำให้รู้ตอนจบของหนังไปบ้าง มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์เล่นได้ดีมาก ฉันเดาว่าเธอเล่นเกือบทุกฉากในหนังเรื่องนี้ ดังนั้นการแสดงที่ไม่ยอดเยี่ยมก็คงจะออกมาดีอยู่แล้ว ปกติฉันไม่ใช่คนชอบตัดสินนักแสดง แต่ก็สมควรได้รับเครดิตจากคนที่แสดงได้น่ากลัวขนาดนั้นโดยใช้แค่สายตา ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเธอได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในเรื่องนี้
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชอบหนังแนวระทึกขวัญเหนือธรรมชาติที่มีปมลึกลับแบบนี้ เราขอแนะนำ:
- The Sixth Sense (1999): หนังผีแห่งยุคที่มาพร้อมกับบรรยากาศหลอนและการหักมุมระดับตำนาน
- The Others (2001): หนังผีสุดคลาสสิกอีกเรื่องที่เน้นบรรยากาศหลอนกดดันในบ้านหลังใหญ่และความลับที่คาดไม่ถึง
- Gone Girl (2014): แม้จะไม่มีผี แต่เป็นหนังระทึกขวัญชั้นเยี่ยมที่ตีแผ่ความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ใต้ชีวิตแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวมากไหม? มีผีตุ้งแช่เยอะหรือเปล่า?
A: เป็นหนังที่เน้นความระทึกขวัญทางจิตวิทยาและบรรยากาศหลอนๆ มากกว่า แต่ก็มีฉาก Jump Scare ที่ทำออกมาได้น่ากลัวและทรงพลังมากๆ เตรียมตัวสะดุ้งได้เลยครับ
Q: หนังเรื่องนี้มี Twist ไหม?
A: มีแน่นอนครับ! หนังเต็มไปด้วยปมปริศนาและการหักมุมที่จะทำให้คุณคาดเดาไปต่างๆ นานาจนกระทั่งถึงบทสรุปสุดท้าย
Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงถูกเปรียบเทียบกับหนังของฮิตช์ค็อก?
A: เพราะผู้กำกับตั้งใจสร้างเพื่อคารวะผลงานของฮิตช์ค็อกอย่างชัดเจน ทั้งสไตล์การกำกับ, การสร้างความสงสัย, การใช้มุมกล้อง และโครงเรื่องที่เกี่ยวกับหญิงสาวที่ต้องสืบหาความจริงที่อันตรายด้วยตัวเอง
บทสรุป: What Lies Beneath คือภาพยนตร์ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติที่ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน มันทั้งสวยงาม, น่ากลัว, และเต็มไปด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมจากสองนักแสดงระดับตำนาน หากคุณกำลังมองหาหนังผี-ทริลเลอร์คุณภาพสูงที่ดูสนุกและลุ้นระทึกจนถึงวินาทีสุดท้าย เรื่องนี้คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด