ดูหนัง Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค
ถ้าจะพูดถึงภาพยนตร์ที่สามารถปลุกจิตวิญญาณของภาคแรกให้กลับมามีชีวิตได้อย่างยิ่งใหญ่ และยกระดับทุกองค์ประกอบขึ้นไปอีกขั้นจนกลายเป็น “ปรากฏการณ์” ทางวัฒนธรรมไปทั่วโลก “Top Gun: Maverick” คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
เรื่องย่อ
กว่า 30 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก นาวาเอก พีท “มาเวอริค” มิตเชลล์ (รับบทโดย ทอม ครูซ) ยังคงเป็นนักบินทดสอบผู้บ้าบิ่นและรักในความเร็ว เขายังคงยึดมั่นในวิถีของตัวเองและหลีกเลี่ยงการเลื่อนตำแหน่งที่จะทำให้เขาต้องนั่งโต๊ะทำงานและไม่ได้ขึ้นบินอีกต่อไป
แต่แล้วอดีตก็ได้กลับมาหาเขาอีกครั้ง เมื่อเขาถูกเรียกตัวให้กลับไปยัง “ท็อปกัน” (TOPGUN) Top Gun Maverick ไม่ใช่ในฐานะนักเรียน…แต่ในฐานะ “ครูฝึก”! เขาได้รับมอบหมายภารกิจที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ นั่นคือการฝึกฝนทีมนักบินหัวกะทิรุ่นใหม่ที่จบจากท็อปกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจลับสุดอันตรายในการทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของศัตรู
แต่ที่ท้าทายยิ่งกว่านั้นคือ หนึ่งในนักบินที่เขาต้องฝึกคือ เรือโท แบรดลีย์ “รูสเตอร์” แบรดชอว์ (รับบทโดย ไมล์ส เทลเลอร์) ลูกชายของ “กู๊ส” อดีตเพื่อนซี้และนักบินผู้ช่วยของเขาที่เสียชีวิตไปในอดีต! มาเวอริคต้องเผชิญหน้ากับทั้งความไม่แน่นอนของอนาคต, ปีศาจในใจจากอดีต, และความขัดแย้งกับรูสเตอร์ที่ยังคงโทษเขาว่าเป็นสาเหตุการตายของพ่อ เพื่อทำภารกิจที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตครั้งนี้ให้สำเร็จ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: โจเซฟ โคซินสกี้ (Joseph Kosinski)
- นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ต้องดูในโรงภาพยนตร์
“Top Gun: Maverick” คือภาพยนตร์ที่ “ยอดเยี่ยม” ในทุกมิติอย่างแท้จริง มันคือประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน! จุดแข็งที่สุดและเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคารวะคือ “ฉากการบิน” ที่สมจริงจนแทบหยุดหายใจ! ทีมผู้สร้างได้นำกล้อง IMAX ไปติดตั้งในห้องนักบินของเครื่องบินรบ F/A-18 Super Hornet จริงๆ และให้นักแสดงขึ้นบินจริง! ซึ่งให้ภาพที่สมจริง, น่าตื่นเต้น, และหวาดเสียวในระดับที่ไม่เคยมีภาพยนตร์เรื่องไหนทำได้มาก่อน
แต่ที่เหนือกว่าฉากแอ็กชัน คือ “หัวใจ” และ “ดราม่า” ที่เข้มข้นและกินใจอย่างยิ่ง เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมาเวอริคกับรูสเตอร์, การกลับมาพบกันอีกครั้งของมาเวอริคกับ “ไอซ์แมน” (วัล คิลเมอร์), และการเรียนรู้ที่จะปล่อยวางอดีตของมาเวอริค ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีมิติและสะเทือนอารมณ์อย่างลึกซึ้ง
ทอม ครูซ มอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมและพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงเป็นซูเปอร์สตาร์แอ็กชันเบอร์หนึ่งของโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
รางวัลการันตีคุณภาพ:
- ชนะเลิศ 1 รางวัลออสการ์: ในสาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม Top Gun Maverick และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 6 สาขา รวมถึง “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม”
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 8.3/10
- Rotten Tomatoes: 96% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
nihal
🤩 7/10
นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอมา และผมดีใจมากที่มีคนเลือกเส้นทางที่ใช้งานได้จริง แทนที่จะโยนทุกคนเข้าไปในฉากกรีนสกรีน ผมดูภาคแรกหลายรอบแล้ว และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภาคนี้จะเหนือกว่าภาคแรกด้วยคะแนนที่ห่างกันมาก ทอม ครูซจะถูกเขียนบทให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่หลงใหลที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมหมายถึงการให้นักแสดงทั้งทีมนั่งเครื่องบิน F-18 ลำหนึ่ง แล้วแสดงบนเครื่องบินลำนั้น พร้อมกับถ่ายทำเองด้วย ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าหนังเรื่องนี้ยังไม่ถึงพันล้าน ก็แสดงว่ารสนิยมของคนส่วนใหญ่สมัยนี้มันผิดเพี้ยนไปแล้ว แฟนๆ มาร์เวลที่เรียกตัวเองว่าแฟนพันธุ์แท้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์การชมภาพยนตร์ ไม่ใช่ฉากซีจีที่ถูกครอบตัด
r96sk
🤩 7/10
ภาคต่อที่ยอดเยี่ยมมาก จริงๆ แล้วผมชอบมันมากกว่าภาคก่อนๆ เสียอีก Top Gun: Maverick ยอดเยี่ยมมาก พูดง่ายๆ เลย ผมคาดหวังว่ามันจะดี แต่จริงๆ แล้วกลับสนุกกว่าที่คาดไว้เยอะ การย้อนกลับไปสู่ภาคแรกทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวละครใหม่ก็แข็งแกร่ง/นักแสดงก็ยอดเยี่ยม มีความหมายมากมาย เพลงประกอบก็ยอดเยี่ยม ฉากแอ็คชั่นก็ยอดเยี่ยม ฉากทางอากาศก็เร้าใจ เนื้อเรื่องยอดเยี่ยมมาก แต่ละฉากที่เดิมพันสูงๆ ล้วนเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ บางฉากก็ทำเอาผมขนลุกเล็กน้อย ซึ่งถือว่าน่าประหลาดใจ เพราะผมไม่ได้รู้สึกผูกพันกับหนังปี 1986 เท่าไหร่ ทุกอย่างถูกประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างยอดเยี่ยม ผมเกือบจะให้คะแนนสูงกว่านี้แล้ว ทอม ครูซเล่นบท Maverick ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ไมล์ส เทลเลอร์ก็แสดงได้ยอดเยี่ยม เจนนิเฟอร์ คอนเนลลีก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ แม้ว่าบทบาทของเธอจะดูฝืนๆ ไปหน่อยเพื่อให้มีคนรัก จากการหายไปของ Kelly McGillis (โดยไม่ทราบสาเหตุ) โมนิกา บาร์บาโรโดดเด่นที่สุดในบรรดานักแสดงหน้าใหม่ ถึงแม้ว่าฉันจะสนุกกับการดูพวกเขาทั้งหมด ซึ่งฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้อาจจะมีปัญหาในการเพิ่มนักแสดงหน้าใหม่เข้ามา แต่หนังก็ทำออกมาได้ดี แน่นอนว่า Jon Hamm และ Glen Powell ค่อนข้างจะซ้ำซากจำเจ แต่โดยรวมแล้วฉันชอบนะ หนังน่าดูมาก – ฉันขอแนะนำอย่างยิ่ง แต่แน่นอนว่าฉันแนะนำให้ดูภาคก่อนก่อนถ้าคุณยังไม่ได้ดู
scottedwards
🤩 7/10
ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นตอนปลายหรืออายุยี่สิบต้นๆ ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 โลกคงแตกต่างไปจากเดิมมาก ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีดีวีดี แต่เรามีรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเรารักพวกมัน และเราก็รักภาพยนตร์เช่นกัน Top Gun ภาคแรกบันทึกช่วงเวลานี้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมอบประสบการณ์การเดินทางสุดระทึกที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งอารมณ์ขัน เกม มอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน และฉากการบินเหล่านั้น เรากลับไปดูหนังเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และใช้เวลาหลายทศวรรษหลังจากนั้นในการพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อเวลาผ่านไป มันยังคงเหมือนภาพนิ่งที่สะท้อนช่วงเวลาอันแสนวิเศษในชีวิตของพวกเราหลายคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ อนนี้ 36 ปีผ่านไป เราคือคนรุ่นที่สูญเสียพ่อแม่ เรามีลูกๆ ที่ก้าวเดินต่อไป และตอนนี้เรากำลังใกล้ถึงจุดจบของอาชีพการงาน และตัวตนในวัยเยาว์ของเราก็จากไปตลอดกาล ภาพยนตร์เรื่องนี้คือจุดจบที่ขาดหายไปของคนรุ่นนั้น ต้นฉบับนั้นอยู่ตรงจุดเริ่มต้นของชีวิตวัยรุ่นของเรา และภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ก็ได้กลายมาเป็นบทสรุป มันวิเศษมาก ผมอายุ 55 ปี แต่เมื่อวานนี้ แค่คืนสุดท้าย ผมก็อายุ 19 อีกครั้ง ขอบคุณครับ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบภาพยนตร์แอ็กชันที่สมจริงและน่าตื่นเต้น เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Top Gun (1986) ท็อปกัน ฟ้าเหนือฟ้า: ภาคแรกสุดคลาสสิกที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งตำนานทั้งหมด
- Mission: Impossible – Fallout (2018) มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ฟอลล์เอาท์: อีกหนึ่งผลงานสุดระห่ำของ ทอม ครูซ ที่เต็มไปด้วยฉากสตันท์เสี่ยงตายของจริง
- Ford v Ferrari (2019) ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์: หนังแข่งรถที่สร้างจากเรื่องจริง ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่สมจริงและดราม่าที่เข้มข้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: นักแสดงขึ้นบินและขับเครื่องบินรบจริงๆ หรือไม่?
A: นักแสดงทุกคนต้องเข้ารับการฝึกฝนการบินอย่างหนักหน่วงกับกองทัพเรือสหรัฐฯ และได้ “ขึ้นบิน” ในเครื่องบินรบ F/A-18 Super Hornet จริงๆ เพื่อถ่ายทำฉากในห้องนักบินทั้งหมด แต่ผู้ที่ทำหน้าที่ “ขับ” เครื่องบินคือนักบินของกองทัพเรือตัวจริงครับ
Q: ทำไมการกลับมาของ “ไอซ์แมน” ถึงน่าประทับใจเป็นพิเศษ?
A: เพราะในชีวิตจริง นักแสดง วัล คิลเมอร์ ได้ป่วยเป็นมะเร็งที่ลำคอและสูญเสียความสามารถในการพูดไป แต่ทีมผู้สร้างก็ยังคงยืนยันที่จะให้เขากลับมารับบทนี้ และได้ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างเสียงของเขาขึ้นมาใหม่ ซึ่งฉากการพบกันระหว่างเขากับมาเวอริคได้กลายเป็นหนึ่งในฉากที่ทรงพลังและสะเทือนอารมณ์ที่สุดของหนังครับ
Q: เพลงประกอบในเรื่องคือเพลงอะไร?
A: นอกจากเพลงธีมคลาสสิกอย่าง “Danger Zone” และ “Top Gun Anthem” แล้ว หนังยังได้เพลงประกอบใหม่ที่ยอดเยี่ยมอย่าง “Hold My Hand” ที่ขับร้องโดย เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วย